ตลาดหุ้นกลับสู่ขาลงอีกครั้งท่ามกลางการถล่มขายของนักลงทุนต่างชาติ โดยแนวรับระดับ 1,600 จุดคงรับไม่อยู่
ดัชนีหุ้นร่วงแรง 3 วันติด วันละกว่า 10 จุด จากระดับ 1,645.29 จุด เมื่อวันที่ 22 กันยายน ลงมาปิดที่ 1,610.58 จุด เมื่อวันอังคารที่ 27 กันยายน โดยลดลงรวม 34.71 จุด
การปรับฐานเกิดขึ้นจากแรงเทขายของนักลงทุนต่างชาติ ซึ่งขายหุ้น 3 วันติด โดยวันที่ 23 กันยายน ขายหุ้น 2,736.73 ล้านบาท วันที่ 26 กันยายน ขายหุ้น 1,918.96 ล้านบาท และวันที่ 27 กันยายน ขายหุ้น 1,526.22 ล้านบาท
รวม 3 วันต่างชาติขายหุ้น 6,181.91 ล้านบาท
ตลาดหุ้นทั่วโลกเริ่มกระเตื้องขึ้นแล้ว โดยความผันผวนลดลง และตลาดหุ้นในหลายประเทศฟื้นตัวขึ้น แต่ตลาดหุ้นไทยกลับฟุบหนักโดยไม่มีปัจจัยลบใหม่เข้ามากระทบ มีแต่ปัจจัยเดิมๆ คือ ความกังวลการขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือเฟด ภาวะเศรษฐกิจถดถอย
และสถานการณ์การเมืองภายในประเทศ กรณีการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี 8 ปี ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ซึ่งวันที่ 30 กันยายน ศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัย
ก่อนหน้าราคาหุ้นได้ซึมซับปัจจัยลบไปแล้ว และนักวิเคราะห์หลักทรัพย์แทบไม่พูดถึงแนวรับ 1,600 จุดเท่าไหร่นัก แต่จะมองถึงแนวต้านระดับ 1,650 จุดมากกว่า
เพราะเชื่อว่าหุ้นน่าจะประคองตัวยืนแถว 1,650 จุดได้ โดยไม่มีสัญญาณว่าจะร่วงลงมาแถว 1,600 จุด
แต่เหลือกันชนอีกเพียงประมาณ 10 จุดเท่านั้น ดัชนีจะหลุด 1,600 จุดอีกครั้ง
มีการเตือนภัยให้ระวังการเทขายของต่างชาติบ้างเหมือนกัน เพราะอัตราดอกเบี้ยในประเทศที่ต่ำกว่าอัตราดอกเบี้ยสหรัฐฯ อยู่หลายเปอร์เซ็นต์ เป็นแรงกระตุ้นให้เงินทุนไหลออก และแม้คณะกรรมการนโยบายการเงินหรือ กนง. ของแบงก์ชาติ จะขึ้นดอกเบี้ย 0.25% หรือ 0.5% ในการประชุมวันพุธ ก็ไม่สามารถลดช่วงห่างของอัตราดอกเบี้ยในประเทศกับต่างประเทศให้แคบลง
เพราะปลายปีนี้อัตราดอกเบี้ยสหรัฐฯ อาจขยับขึ้นไปที่ระดับ 4%
นอกจากนั้น ค่าเงินบาทที่อ่อนยวบแตะ 38 บาทต่อดอลลาร์ เป็นอีกปัจจัยที่กดดันให้ต่างชาติเร่งเทขายหุ้น เพราะถ้าแนวโน้มเงินบาทอ่อนค่าต่อไปจะขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน
และหากหุ้นปรับฐานลงอีกจะขาดทุนสองเด้ง ขาดทุนทั้งอัตราแลกเปลี่ยนและขาดทุนจากราคาหุ้น
การเทขายหุ้นของต่างชาติครั้งนี้จึงมีเหตุผลสนับสนุน และแรงขายที่ไหลทะลักออกมา 3 วันติด เป็นการส่งสัญญาณถอยทัพของต่างชาติ หลังจากมียอดซื้อหุ้นสุทธิสะสมจากต้นปีรวม 153,928.37 ล้านบาท
ปัจจัยลบที่รุมเร้าตลาดหุ้นรอบทิศทางไม่ใช่ประเด็นหลักที่ทำให้หุ้นลงเสียแล้ว แต่แรงขายของต่างชาติกลายเป็นกดให้ดัชนีดิ่งลง
นักลงทุนจะต้องติดตามความเคลื่อนไหวของนักลงทุนต่างชาติอย่างเกาะติด เพราะเป็นปัจจัยชี้นำตลาดหุ้น และถ้าต่างชาติขายต่อเนื่องมีโอกาสที่หุ้นจะซบเซายืดเยื้อ
การปรับฐานอาจไม่จบสิ้นที่แนวรับระดับ 1,600 จุด แต่อาจไหลลงไปลึกจนไม่อาจหยั่งได้
นักลงทุนที่ทนความเย้ายวนของราคาไม่ได้ แห่เข้าไปช้อนเก็บหุ้น ต้องทบทวนการตัดสินใจใหม่ เพราะหุ้นที่คิดว่าถูก อาจกลายเป็นของแพง ถ้าราคาหุ้นยังหัวทิ่มหัวตำต่อไป
ช่วงนี้จะต้องสงวนเงินสดไว้ ปล่อยให้ต่างชาติขายจนพอใจ รอหุ้นปรับฐานจนสะเด็ดน้ำ และรอหลังดัชนีหลุด 1,600 จุด จึงเริ่มต้นหาจังหวะซื้อหุ้น
การซื้อสวนหมดต่างชาติรอบนี้มีโอกาสถูกฝรั่งน็อกคากระดานหุ้น