หุ้นไทยปิดตลาดร่วงหลุด 1,600 จุด โดยปิดตลาด -11.35 จุด โบรกฯ ชี้ดัชนีฯ ปรับตัวลดลงในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นอื่นๆ ในภูมิภาค จากแรงกดดันการแข็งค่าของดอลล่าร์สหรัฐกดดันเงินบาทอ่อนค่า แม้ กนง. จะปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.25% หวังสกัดกั้นค่าเงินบาท แนะติดตามปัจจัยต่างประเทศทั้งตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ จีน และ ยุโรป มองแนวโน้มการลงทุนวันพรุ่งนี้อาจ พักตัวต่อ โดยประเมินแนวรับที่ 1,600 จุด และมีแนวรับสำคัญที่ 1,580 จุด ส่วนแนวต้านที่ 1,610-1,620 จุด
หุ้นไทยปิดทำการซื้อขายวันที่ 28 ก.ย. 2565 ปรับตัวลดลง -11.35 จุด หรือ -0.70% โดยปิดตลาดที่ 1,599.23 จุด มูลค่าการซื้อขาย 69,726.47 ล้านบาท โดยภาพรวมการซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีปรับตัวเคลื่อนไหวอยู่ในแดนลบตลอดทั้งวัน โดยระหว่างวันดัชนีปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 1,606.23 จุด ขระเดียวกันก็ปรับตัวลดลงต่ำสุดที่ 1,595.76 จุด
ขณะที่หลักทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงในวันนี้เพิ่มขึ้นจำนวน 537 หลักทรัพย์ ไม่เปลี่ยนแปลงจำนวน 415 หลักทรัพย์ และปรับตัวลดลงจำนวน 1,327 หลักทรัพย์
ด้านปริมาณการซื้อขายจำแนกตามกลุ่มนักลงทุนพบว่า นักลงทุนในประเทศซื้อสุทธิกว่า +1,780.10 ล้านบาท ในทางกลับกันพบว่า นักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิกว่า -208.48 ล้านบาท บัญชี บล. ขายสุทธิกว่า -1,185.45 ล้านบาท และ นักลงทุนสถาบันขายสุทธิกว่า -386.17 ล้านบาท
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
1.PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 2,763.32 ล้านบาท ปิดที่ 162.00 บาท ลดลง 2.50 บาท
2.CPALL มูลค่าการซื้อขาย 2,390.19 ล้านบาท ปิดที่ 56.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท
3.TU มูลค่าการซื้อขาย 2,075.20 ล้านบาท ปิดที่ 18.70 บาท เพิ่มขึ้น 1.20 บาท
4.SCB มูลค่าการซื้อขาย 1,991.98 ล้านบาท ปิดที่ 103.50 บาท ลดลง 1.50 บาท
5.AOT มูลค่าการซื้อขาย 1,842.18 ล้านบาท ปิดที่ 73.00 บาท ลดลง 0.50 บาท
ด้านดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวบวกเพิ่มขึ้นมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.BH ปิดที่ 227.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท หรือ 0.89%
2.INTUCH ปิดที่ 74.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท หรือ 2.07%
3.TU ปิดที่ 18.70 บาท เพิ่มขึ้น 1.20 บาท หรือ 6.86%
4.MEGA ปิดที่ 46.25 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาท หรือ 1.65%
5.EA ปิดที่ 89.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาท หรือ 0.85%
ส่วนดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวลดลงมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.SCC ปิดที่ 327.00 บาท ลดลง 3.00 บาท หรือ 0.91%
2.PTTEPปิดที่ 162.00 บาท ลดลง 2.50 บาท หรือ 1.52%
3.KCE ปิดที่ 44.50 บาท ลดลง 2.00 บาท หรือ 4.30%
4.AEONTS ปิดที่ 166.50 บาท ลดลง 2.00 บาท หรือ 1.19%
5.PTT (XD) ปิดที่ 35.00 บาท ลดลง 1.75 บาท หรือ 4.76%
ส่วนดัชนี SET100 ปิดที่ 2,171.39 จุด ลดลง -20.21 จุด หรือ -0.92% ด้านดัชนี SET50 ปิดที่ 963.75 จุด ลดลง -8.96 จุด หรือ -0.92% และดัชนีตลาด mai ปิดที่ 658.45 จุด ลดลง -6.37 จุด หรือ -0.96%
นายวีระวัฒน์ วิโรจน์โภคา ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลงในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นภูมิภาค โดยได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐทำให้เงินบาทอ่อนค่าและกังวลเงินทุนต่างชาติไหลออก ขณะที่ผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีมติเอกฉันท์ให้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% ต่อปี จาก 0.75% เป็น 1.00% ตามคาด
โดยในช่วงที่เหลือของสัปดาห์นี้จะมีการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ อาทิ ยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) เดือน ส.ค. และสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์จากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA) รวมไปถึงตัวเลขเศรษฐกิจของประเทศจีน และ สหภาพยุโรป ที่จะทยอยออกมา
ส่วนพรุ่งนี้คาดดัชนีจะพักตัวต่อเนื่อง โดยนักลงทุนยังมีทิศทางการนำเงินออกจากสินทรัพย์เสี่ยงอย่างต่อเนื่อง โดยให้แนวรับที่ 1,600 จุด และมีแนวรับสำคัญที่ 1,580 จุด พร้อมให้แนวต้านที่ 1,610-1,620 จุด