xs
xsm
sm
md
lg

ตลาดกังวลเฟดเร่งอัตราดอกเบี้ย กด SET INDEX ร่วง -11.93 จุดตามตลาดภูมิภาค

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



หุ้นไทยร่วง -11.93 จุดตามตลาดภูมิภาค โบรกฯ คาดตลาดรับแรงกดดันดัชนีดาวโจนส์ร่วง หลังความกังวลเงินเฟ้อสหรัฐฯ ยังไม่ลด เข้าทางเฟดเร่งขึ้นดอกเบี้ย มองแนวโน้มการลงทุนสัปดาห์หน้าคาดยังน่าห่วง แนะนักลงทุนจับตาผลการประชุมเฟด และถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวล พร้อมประเมินกรอบการลงทุนแนวรับที่ 1,610 จุด และแนวต้านที่ 1,645 จุด

ตลาดหุ้นไทยปิดทำการซื้อขายวันที่ 16 กันยายน 2565 ปรับตัวลดลงกว่า -11.93 จุด หรือ -0.73% โดยปิดตลาดที่ 1,630.40 จุด มูลค่าการซื้อขาย 95,907.27 ล้านบาท ขณะที่ภาพรวมการลงทุนในวันนี้ดัชนีปรับตัวลงตามภูมิภาค โดยระหว่างวันดัชนีปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 1,642.73 จุด ขณะเดียวกันปรับตัวลดลงต่ำสุดที่ 1,629.31 จุด

ขณะที่หลักทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงในวันนี้เพิ่มขึ้น จำนวน 375 หลักทรัพย์ ไม่เปลี่ยนแปลง จำนวน 386 หลักทรัพย์ และปรับตัวลดลง จำนวน 1,469 หลักทรัพย์

ด้านปริมาณการซื้อขายจำแนกตามกลุ่มนักลงทุน พบว่า นักลงทุนในประเทศซื้อสุทธิกว่า +2,173.46 ล้านบาท ในทางกลับกัน พบว่า นักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิกว่า -815.57 ล้านบาท บัญชี บล.ขายสุทธิกว่า -264.93 ล้านบาท นักลงทุนสถาบันขายสุทธิกว่า -1,092.96 ล้านบาท

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
1.PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 3,779.33 ล้านบาท ปิดที่ 166.50 บาท ลดลง 0.50 บาท
2.PTT มูลค่าการซื้อขาย 3,542.52 ล้านบาท ปิดที่ 36.75 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
3.SCC มูลค่าการซื้อขาย 3,498.22 ล้านบาท ปิดที่ 341.00 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
4.BH มูลค่าการซื้อขาย 3,284.52 ล้านบาท ปิดที่ 219.00 บาท ลดลง 8.00 บาท
5.MINT มูลค่าการซื้อขาย 2,864.06 ล้านบาท ปิดที่ 27.50 บาท ลดลง 0.75 บาท

ด้านดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวบวกเพิ่มขึ้นมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.EM ปิดที่ 9.60 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท หรือ 5.49%
2.CK ปิดที่ 22.70 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท หรือ2.25%
3.BLA ปิดที่ 35.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท หรือ1.43%
4.AOT ปิดที่ 73.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท หรือ0.69%
5.TCAP ปิดที่ 40.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท หรือ 0.63%

ส่วนดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวลดลงมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.BH ปิดที่ 219.00 บาท ลดลง 8.00 บาท หรือ 3.52%
2.EGCOปิดที่ 172.00 บาท ลดลง 3.00 บาท หรือ 1.71%
3.CENTEL ปิดที่ 45.25 บาท ลดลง 2.75 บาท หรือ 5.73%
4.AEONTS ปิดที่ 173.50 บาท ลดลง 2.50 บาท หรือ 1.42%
5.JMT ปิดที่ 73.25 บาท ลดลง 2.00 บาท หรือ 2.66%

ด้านดัชนี SET100 ปิดที่ 2,220.59 จุด ลดลง -20.73 จุด หรือ -0.92% ขณะที่ดัชนี SET50 ปิดที่ 981.42 จุด ลดลง -7.62 จุด หรือ -0.77% และดัชนีตลาด mai ปิดที่ 675.52 จุด ลดลง -13.79 จุด หรือ -2.00%

นายวทัญ จิตต์สมนึก ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์กลยุทธ์ บล.พาย (PI) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวลงตามตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชีย รับแรงกดดันจากดัชนีดาวโจนส์ที่ร่วงแรงจากนักลงทุนกังวลต่อเงินเฟ้อสหรัฐฯ ที่อยู่ในระดับสูง ส่งผลให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) เร่งขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยตลาดได้ให้น้ำหนักว่าเฟดจะขึ้นดอกเบี้ยที่ระดับ 0.75% โดยมองปัจจัยการลงทุนในระยะกลางคาดว่าตลาดหุ้นไทยมีโอกาสปรับตัวลงต่อจากการกลับมากังวลต่อภาวะเศรษฐกิจถดถอย หลังเฟดเร่งขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่อง

ส่วนแนวโน้มการลงทุนในสัปดาห์หน้าคาดว่า ตลาดน่าจะฟื้นตัวได้ยาก เนื่องจากนักลงทุนยังรอดูผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ซึ่งจะสามารถทราบผลได้ในวันที่ 22 ก.ย. (ตามเวลาไทย) และรอดูว่านายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด จะส่งสัญญาณเกี่ยวกับทิศทางเศรษฐกิจและดอกเบี้ยต่อไปอย่างไร หากส่งสัญญาณในเชิงเข้มงวดจะฉุดตลาดหุ้นลงต่อ รวมถึงติดตามค่าเงินบาท หลังล่าสุดค่าเงินบาทอ่อนค่าทะลุ 37 บาท/ดอลลาร์มาแล้ว ซึ่งเป็นการอ่อนค่าสูงสุดในรอบ 16 ปี กดดันเงินทุนต่างชาติไหลออกต่อเนื่อง โดยประเมินกรอบดัชนีการลงทุนไว้ที่แนวรับ 1,610 จุด และแนวต้าน 1,645 จุด


กำลังโหลดความคิดเห็น