"บิล เกตส์" เผยไม่คิดจะลงทุนใน "คริปโตฯ-NFT" เพราะแท้จริงแล้วคือ ทฤษฎีคนโง่ ที่เอาไปหลอกขายให้คนที่โง่กว่า ลั่นไม่ว่าจะระยะสั้นหรือระยะยาวขอไม่ลงทุนกับการลงทุนประเภทนี้เด็ดขาด เทียบฟาร์มปศุสัตว์ที่มีผลผลิตเกิดขึ้นจริงในรูปธรรม หรือบริษัทต่างๆ ที่ผลิตสินค้าจับต้องได้จริง ไม่ใช้แทนค่าความรู้สึกมโนว่ามันมีอยู่
จากการเปิดเผยของสำนักข่าวซีเอ็นบีซี ระบุถึงประเด็นเผ็ดร้อนจากบางช่วงบางตอนของ "บิล เกตส์" อดีต CEO และผู้ก่อตั้งบริษัทไมโครซอร์ฟ ผู้ให้บริการซอฟต์แวร์ระบบปฏิบัติการคอมพิวเตอร์รายใหญ่ของโลก และมหาเศรษฐีโลก โดย "บิล เกตส์" ได้กล่าวระหว่างการพูดคุยในรายการ TechCrunch ซึ่งเป็นเนื้อหาในส่วนที่เกี่ยวกับภาพรวมและแนวโน้มเศรษฐกิจในวันอังคารที่ผ่านมา โดย "บิล เกตส์" กล่าวถึงประเด็นตลาดคริปโตฯ ที่กำลังผันผวนอย่างรุนแรง โดยเฉพาะเหรียญ Bitcoin ซึ่งราคาปรับตัวร่วงต่ำลงมากว่า 1 ล้านบาท อยู่ที่ระดับ 7 แสนกว่าบาท ซึ่งเขาเรียกเหตุการณ์นี้ว่า "เป็นทฤษฎีคนโง่ที่ยังมีคนโง่กว่า 100% คนโง่ที่เอาไปขายต่อให้คนโง่อีกทอดหนึ่ง" ซึ่งหมายถึงแนวคิดที่ว่าสินทรัพย์ที่มีมูลค่าสูงขึ้นเรื่อยๆ แต่นักลงทุนก็ยังตัดสินใจลงทุนเนื่องจากหวังกำไรที่เพิ่มมากขึ้นในอนาคต
ขณะเดียวกัน "บิล เกตส์" ยังได้สะท้อนมุมมองเชิงเสียดสีว่า “รูปภาพลิงที่นำไปทำตราประทับในบล็อกเชนมีราคาแพง” ซึ่งมันคงจะ “ทำให้โลกดีขึ้นอย่างมาก” ซึ่งหมายถึงคอลเลกชันลิงในอิริยาบถต่างๆ ของ Bored Ape Yacht Club NFT ซึ่งได้รับความนิยมอย่างสูงในหมู่คนดัง ศิลปิน เซเลบ ไฮโซ หรือกลุ่มนักธุรกิจสีเทาต่างๆ หรือแม้กระทั่งกลุ่มนักการเมืองในบางประเทศอีกด้วย ซึ่งมีการประมูลซื้อขายกันด้วยราคาสูง เพื่อแลกกับสิทธิพิเศษที่ได้จากการถือครองเหมือนเป็นบัตรสมาชิกของ Yacht Club โดยจัดอยู่ในรูปแบบของการฟอกเงินในรูปแบบหนึ่ง
อย่างไรก็ดี NFT คือโทเคนที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ คงรูปอยู่ในลักษณะใดลักษณะหนึ่ง เช่นภาพ เสียง วิดีโอ งานศิลปะหรือของสะสมจากกีฬาประเภทต่างๆ ที่ถูกนำเข้าบันทึกในระบบบล็อกเชน โดยจะนำมาซื้อขายกันในตลาดซื้อขาย NFT ยอดนิยมต่างๆ เช่น Opensea และ NFT เหล่านี้มักถูกนักวิจารณ์มองว่า NFT เป็นเพียงวัตถุที่ใช้เก็งกำไร ซึ่งบางชิ้นไม่มีมูลค่าอ้างอิงหนุนมูลค่าที่แท้จริง และอาจเป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อม เพราะใช้ปริมาณพื้นที่ในการกระจายอำนาจจำนวนมาก เพิ่มปริมาณดาต้าที่ใช้ทั่วโลกต่อเนื่องทุกปี และสิ้นเปลืองทรัพยากรพลังงานสูงในการรับรองฉันทมติ เนื่องจากธรรมชาติของคริปโตฯ และ NFT นั้นมีปริมาณจำนวนมาก และส่วนใหญ่ถูกสร้างขึ้นบนเครือข่าย Ethereum
นอกจากนี้ "บิล เกตส์" ยังเปิดเผยอีกว่า “ผมคุ้นเคยกับสินทรัพย์แห่งความเป็นจริงที่จับต้องได้ เช่น ฟาร์มปศุสัตว์ที่มีผลผลิตเกิดขึ้นจริงในรูปธรรม หรือบริษัทต่างๆ ที่ผลิตสินค้าจับต้องได้จริง ไม่ใช้แทนค่าความรู้สึกมโนว่ามันมีอยู่” ขณะที่ในส่วนของคริปโตฯ นั้น เขากล่าวว่า “ผมขอไม่ไปยุ่งเกี่ยวด้วยดีกว่า” พร้อมทั้งยังกล่าวเสริมด้วยว่า "ไม่ว่าจะระยะสั้นหรือระยะยาว ผมขอไม่ลงทุนกับการลงทุนประเภทนี้เด็ดขาด"
ล่าสุด วันนี้ (16 มิ.ย.) ณ เวลา 07.00 น. ราคาบิตคอยน์ปรับตัวขึ้นมาเล็กน้อย โดยราคาซื้อขายอยู่ที่ 22,522.13 ดอลลาร์ เพิ่มขึ้น +1.48% โดยในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา Bitcoin เงินดิจิทัลที่ใหญ่ที่สุดในโลกได้มีมูลค่าลดลงไปแล้วกว่าครึ่งตั้งแต่ต้นปี 2565 โดยมูลค่า Market cap. ตลาดคริปโตฯ หลุดต่ำกว่า 1 ล้านล้านเหรียญสหรัฐแล้ว หลังเกิดวิกฤติราคา Bitcoin ปรับตัวลดลงต่ำกว่า 1 ล้านบาท ในรอบ 3 วันที่ผ่านมา