คริสติน ลาการ์ด ประธาน ECB ยันคริปโตฯ ไม่มีสินทรัพย์รองรับ จึงควรมีกฎระเบียบควบคุมเพื่อป้องกันคนสูญเงินที่ออมมาทั้งชีวิตจากการเก็งกำไรสินทรัพย์ดิจิทัล ด้านบิลล์ เกตส์ ผู้ก่อตั้งไมโครซอฟท์ ย้ำไม่ลงทุนบิตคอยน์เพราะไม่คิดว่ามีมูลค่า
ลาการ์ด ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) ยืนยันว่า สกุลเงินดิจิทัลไม่ได้อิงกับสิ่งใดหรือมีสินทรัพย์ค้ำประกันความปลอดภัย จึงน่าเป็นห่วงสำหรับผู้ที่ไม่เข้าใจความเสี่ยงนี้และอาจหมดตัวไปกับคริปโตฯ ดังนั้น ตนจึงเชื่อว่า ควรมีการกำหนดกฎระเบียบควบคุมคริปโตฯ
อดีตกรรมการผู้จัดการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ผู้นี้ ยอมรับระหว่างให้สัมภาษณ์กับดัตช์ ทีวี ว่า สงสัยในมูลค่าของสินทรัพย์คริปโตฯ ซึ่งตรงข้ามกับสกุลเงินดิจิทัลที่ออกโดยธนาคารกลาง (CBDC) เช่น ยูโรดิจิทัล ที่อีซีบีมีแผนเปิดตัวภายใน 2-3 ปีหน้า
การแสดงความคิดเห็นนี้มีขึ้นขณะที่ตลาดคริปโตฯ กำลังเจอสถานการณ์หนักหน่วงจากการที่ราคาเหรียญหลักทั้งบิตคอยน์ (BTC) และอีเธอร์ (ETH) ตกฮวบถึง 50% จากสถิติสูงสุดเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว นอกจากนั้น คริปโตฯ ยังถูกกดดันอย่างหนักและถูกตรวจสอบจากหน่วยงานที่รับผิดชอบทั่วโลกที่ส่วนใหญ่มองว่า สินทรัพย์ดิจิทัลเหล่านี้เป็นภัยคุกคามต่อระบบการเงิน
ลาการ์ด เสริมว่า ตนเองไม่ได้ถือสินทรัพย์คริปโตฯ แต่ยอมรับว่า ลูกชายคนหนึ่งไม่ฟังคำแนะนำและลงทุนในคริปโตฯ เธอจึงต้องเฝ้าดู “อย่างระมัดระวังมาก”
Bitcoin.com รายงานว่า นอกจากลาการ์ด ก่อนหน้านี้มีเจ้าหน้าที่ ECB หลายคนแสดงความกังวลคล้ายกัน เช่น เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ฟาบิโอ พาเนตตา สมาชิกคณะกรรมการบริหาร เปรียบเทียบการพุ่งขึ้นของราคาสินทรัพย์คริปโตฯ กับวิกฤตซับไพรม์ ปี 2008 ที่นำไปสู่วิกฤตการเงินโลก และการตื่นทองยุคไวด์เวสต์ พร้อมเรียกร้องให้มีการออกกฎระเบียบควบคุมในระดับโลก
และเมื่อเร็วๆ นี้ พาเนตตา ออกมาเปิดเผยว่า ยูโรดิจิทัลอาจกลายเป็นความจริงในปี 2026 โดยขณะนี้โปรเจกต์นี้อยู่ระหว่างขั้นตอนการตรวจสอบ และ ECB กำลังเร่งเพิ่มการมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย สำหรับขั้นตอนการพัฒนาและวางระบบจะเริ่มต้นปลายปีหน้า
ไม่เฉพาะบุคลากรของภาครัฐเท่านั้นที่ไม่มั่นใจคริปโตฯ ปลายสัปดาห์ที่แล้ว บิลล์ เกตส์ ผู้ก่อตั้งไมโครซอฟท์ และมหาเศรษฐีอันดับ 4 ของโลก ออกมาย้ำอีกครั้งว่า ไม่ได้ลงทุนในบิตคอยน์ หรือคริปโตฯ สกุลใดๆ เพราะไม่เห็นว่ามีค่า
เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันพฤหัสฯ ที่ผ่านมา (19) ที่เกตส์เปิดโอกาสให้ผู้ใช้เรดดิตถามอะไรก็ได้ (Ask Me Anything - AMA) และมีผู้ใช้คนหนึ่งถามว่า เขาคิดอย่างไรกับบิตคอยน์และคริปโตฯ สกุลอื่นๆ และเกตส์ตอบว่า ตนเองไม่ได้ลงทุนในคริปโตฯ ไม่ว่าสกุลใดๆ แต่ชอบลงทุนในสิ่งที่มีมูลค่ามากกว่า เช่น มูลค่าของบริษัทที่อิงกับผลิตภัณฑ์ที่ผลิต ขณะที่มูลค่าของคริปโตฯ เป็นแค่ความคิดของคนคนหนึ่งที่คาดเดาว่า คนอื่นจะยอมจ่ายให้คริปโตฯ สกุลนั้นๆ เท่าไหร่
จุดยืนของเกตส์ สอดคล้องกับวอร์เรน บัฟเฟตต์ มหาเศรษฐี และประธานเบิร์กไชร์ แฮธาเวย์ ที่กล่าวเมื่อต้นเดือนนี้ว่า จะไม่ลงทุนในบิตคอยน์ หรือคริปโตฯ สกุลอื่นใด เพราะเป็นสินทรัพย์ที่ไม่ก่อเกิดประโยชน์หรือมีผลผลิตที่จับต้องได้
อันที่จริง เกตส์ ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานร่วมของมูลนิธิบิลล์ แอนด์ เมลินดา เกตส์ วิจารณ์บิตคอยน์ และคริปโตฯ มานานแล้ว ตัวอย่างเช่นเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2021 เขาบอกว่า ไม่ได้ถือบิตคอยน์ แต่สำทับว่า ตัวเองมีความเห็นเป็นกลาง
อย่างไรก็ตาม เขายังบอกว่า คริปโตฯ เป็นหนึ่งในนวัตกรรมเทคโนโลยีที่ “ไม่มีจะดีกว่า” เนื่องจากกลไกการทำงานของคริปโตฯ เปิดช่องสำหรับกิจกรรมอาชญากรรมบางอย่าง
ช่วงเวลาไล่เลี่ยกันนั้น เกตส์ยังแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการที่อีลอน มัสก์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) เทสลาถือบิตคอยน์ว่า มัสก์มีเงินมากมายมหาศาล อีกทั้งเป็นคนที่ซับซ้อนมาก เพราะฉะนั้นเขาจึงไม่กังวลถ้าบิตคอยน์ในการครอบครองของมัสก์จะขึ้นๆ ลงๆ และเตือนนักลงทุนทั่วไปว่า ถ้าไม่รวยเท่ามัสก์ อาจต้องระวังให้มากเรื่องการลงทุนในบิตคอยน์
