นายแมนพงศ์ เสนาณรงค์ รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานผู้ออกหลักทรัพย์ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า ตลท.ต้อนรับ บมจ.ฑีฆาก่อสร้าง เข้าจดทะเบียนและเริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง หมวดบริการรับเหมาก่อสร้าง โดยใช้ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ว่า "TEKA" ในวันที่ 15 มิ.ย.65
TEKA ประกอบธุรกิจให้บริการรับเหมาก่อสร้างอาคารและสิ่งปลูกสร้าง โดยเป็นผู้รับเหมาหลักของโครงการ ซึ่งครอบคลุมตั้งแต่งานโครงสร้าง งานสถาปัตยกรรม และงานระบบประกอบอาคาร บริษัทให้บริการในทุกขั้นตอน ตั้งแต่การวางแผนงาน การควบคุมดูแลการก่อสร้าง และการจัดหาวัสดุอุปกรณ์ ทั้งนี้ บริษัทมีประสบการณ์การรับงานก่อสร้างอาคารหลากหลายประเภท เช่น อาคารสำนักงาน โรงแรม อาคารโรงพยาบาล อาคารคลังสินค้า และคอนโดมิเนียม เป็นต้น โดยมีศักยภาพในการรับงานได้จากทั้งภาครัฐและเอกชน โดยทในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา บริษัทมีรายได้ส่วนใหญ่จากลูกค้าภาคเอกชนซึ่งมีอัตรากำไรที่สูงกว่า
TEKA มีทุนชำระแล้วหลังการเสนอขาย IPO 300 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท ประกอบด้วยหุ้นสามัญเดิม 225 ล้านหุ้น และหุ้นสามัญเพิ่มทุน (IPO) 75 ล้านหุ้น โดยเสนอขายต่อบุคคลตามดุลพินิจของผู้จัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่าย ผู้มีอุปการคุณ บุคคลผู้มีความสัมพันธ์ และพนักงานของบริษัท ในระหว่างวันที่ 2-8 มิ.ย.65 ในราคาหุ้นละ 4.60 บาท คิดเป็นมูลค่าระดมทุน 345 ล้านบาท และมีมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 1,380 ล้านบาท
ทั้งนี้ ราคาเสนอขายหุ้น IPO คิดเป็นอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (P/E ratio) เท่ากับ 9.91 เท่า โดยคำนวณจากผลประกอบการของบริษัทในช่วงไตรมาส 2/64 ถึงไตรมาส 1/65 ซึ่งเท่ากับ 139.21 ล้านบาท หารด้วยจำนวนหุ้นสามัญทั้งหมดของบริษัท ภายหลังการเสนอขาย IPO คิดเป็นกำไรสุทธิต่อหุ้น (fully diluted EPS) เท่ากับ 0.46 บาท โดยมี บล.เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) และ บล.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่ายหุ้นสามัญ
นายวีระศักดิ์ วานิชวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร TEKA เปิดเผยว่า บริษัทดำเนินธุรกิจให้บริการรับเหมาก่อสร้างอาคารและสิ่งปลูกสร้างมาแล้วกว่า 38 ปี โดยมีทีมงานผู้บริหารและทีมวิศวกรซึ่งมีความชำนาญ ทำหน้าที่ควบคุมและตรวจสอบการปฏิบัติงานอย่างใกล้ชิดเพื่อให้การก่อสร้างเป็นไปด้วยความถูกต้อง มีคุณภาพ และสามารถส่งมอบงานบริการที่มีคุณภาพที่ดีที่สุด ทำให้บริษัทมีข้อได้เปรียบสำหรับการเข้าประมูลงานก่อสร้างในอนาคต ทั้งนี้ บริษัทมีแผนจะนำเงินที่ได้จากการเสนอขายหลักทรัพย์ในครั้งนี้ใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนภายในบริษัทเพื่อรองรับงานก่อสร้างที่เพิ่มมากขึ้นในอนาคต
TEKA มีนโยบายในการจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราไม่ต่ำกว่า 40% ของกำไรสุทธิตามงบการเงินเฉพาะกิจการของบริษัท ภายหลังจากหักภาษีและเงินทุนสำรองต่างๆ ทุกประเภทตามที่กำหนดไว้ในกฎหมายและข้อบังคับของบริษัท ทั้งนี้ บริษัทอาจพิจารณาจ่ายเงินปันผลโดยคำนึงถึงปัจจัยอื่นๆ เช่น สภาวะเศรษฐกิจ กำไรจากการดำเนินงาน แผนการลงทุนในอนาคต เพื่อผลประโยชน์สูงสุดต่อผู้ถือหุ้น
ทั้งนี้ หลัง IPO TEKA จะมีผู้ถือหุ้นใหญ่คือ บริษัท วานิช โฮลดิ้ง จำกัด เป็นกลุ่มของนายวีระศักดิ์ วานิชวัฒน์ ซึ่งเป็นกลุ่มผู้ก่อตั้งบริษัทถือหุ้นรวม 75%