บริษัท แฟนดอม แอพพลิเคชั่น จำกัด เปิดตัว FANDOM Application พื้นที่เชื่อมต่อระหว่างแฟนคลับและศิลปินเข้าถึงได้ง่าย ผ่านระบบบล็อกเชน รวมความสนุกสนาน และการสร้างรายได้ในรูปแบบ “Fun to Earn” ครั้งแรกในประเทศไทย รวมทั้งเปิดโอกาสให้ศิลปินในทุกแขนง ทุกวงการสามารถสร้างผลงานและรายได้ในรูปแบบที่ไม่จำกัด แบบใหม่ที่ไม่เคยมีมาก่อน เตรียมเปิดให้บริการสิงหาคมปีนี้
จากการที่ตลาดแฟนคลับติ่งศิลปินในประเทศไทยมีขนาดใหญ่มาก ปัจจุบันถือเป็นตลาดหลักขนาดใหญ่อยู่ที่อุตสาหกรรมบันเทิงเกาหลี ซึ่งมีส่วนแบ่งการตลาดเป็นอันดับ 6 ของโลก มูลค่าตลาดรวมกว่า 3,000 ล้านบาท ซึ่งนอกจากตลาด K-POP แล้ว ประเทศไทยยังเป็นตลาด J-POP, Gamer, Influencer และอุตสาหกรรมบันเทิงอีกหลายด้าน และตลาดแฟนคลับในไทยยังมีแนวโน้มเติบโตขึ้นเรื่อยๆ ขณะเดียวกันยังมี “ช่องว่าง” คือ ไม่มีพื้นที่หรือแพลตฟอร์มที่เป็นศูนย์กลางในการเชื่อมต่อกันระหว่างแฟนคลับกับศิลปิน ทำให้กลุ่มแฟนคลับกระจายตามแพลตฟอร์มต่างๆ แต่จุดอ่อนที่เป็นปัญหาคือ ศิลปินไม่สามารถเข้าถึงแฟนคลับทุกคนได้อย่างแท้จริง
ขณะที่งานวิจัยล่าสุดของบริษัทชื่อดัง Marketsand Markets พบว่าตลาดดิจิทัลคอนเทนต์แบบ NFT กำลังได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้น โดยปัจจุบันตลาด NFT ทั่วโลกมีมูลค่ารวม 3 พันล้านดอลลาร์ และมีแนวโน้มที่จะเติบโตถึง 4.5 เท่า หรือประมาณ 1.36 หมื่นล้านดอลลาร์ภายในปี 2027 เมื่อวิเคราะห์ภาพรวมของตลาด NFT ในประเทศไทย พบว่าตลาดส่วนใหญ่เป็น Marketplace เน้นการซื้อขายอย่างเดียว ไม่มีการเชื่อมต่อหรือ Connect กันระหว่างศิลปิน และแฟนคลับ หรือผู้ขาย และผู้ซื้อ จึงอยากจะพัฒนาแพลตฟอร์มให้แตกต่างออกไป
น.ส.สิรโสมย์ บริสุทธ์สุวรรณ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท แฟนดอม แอพพลิเคชั่น จำกัด ผู้บริหารและผู้ร่วมก่อตั้ง FANDOM Application เปิดเผยว่า ในช่วงที่ผ่านมา NFT สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนอย่างมหาศาลในตลาดต่างประเทศ ขณะที่ไทยถือเป็นช่วงของการเริ่มต้นและยังมีโอกาสอีกมากที่จะเติบโต โดย FANDOM Application จะทำหน้าที่เป็นแพลตฟอร์มกลางในการเชื่อมต่อพื้นที่ของการแสดงผลงานของศิลปินทุกแขนง กับความรักความชื่นชอบของแฟนคลับที่มีต่อศิลปิน รวมทั้งเป็นที่สำหรับการสร้างรายได้ใหม่ให้ศิลปิน รวมถึงแฟนคลับที่เข้าร่วมสนุกในกิจกรรมต่างๆ ผ่านการสร้างคอมมูนิตี และดิจิทัล แอ็กเซสบน Blockchain เมื่อวิเคราะห์ภาพรวมของตลาดดิจิทัลคอนเทนต์แบบ NFT ในประเทศไทย พบว่าตลาดส่วนใหญ่เป็น Marketplace เน้นการซื้อขายอย่างเดียว ทางบริษัทฯ จึงมองเห็นโอกาสและได้พัฒนารูปแบบ NFT ให้แตกต่างออกไป ในรูปแบบของ Application ที่เข้าถึงง่าย มีความเอ็นเตอร์เทนเมนต์ สนุกสนาน ไม่น่าเบื่อ ผู้ใช้สามารถร่วมทำกิจกรรมกับศิลปินที่ชื่นชอบ มีความสนุกสนาน ตื่นเต้น และรู้สึกถึงความแตกต่างจากแพลตฟอร์มอื่น รวมทั้งสามารถสร้างรายได้จากการร่วมสนุกใน Application หรือที่เรียกว่า Fun to Earn อีกด้วย
ขณะที่ FANDOM Application เป็นแพลตฟอร์มที่เปิดโอกาสให้ศิลปินในทุกแขนง ทุกวงการ ในหลากหลายสาขาอาชีพ ไม่ว่าจะเป็น ดนตรี ศิลปะ กีฬา หมอดู อินฟลูเอนเซอร์ จากทุกค่ายมาสร้างผลงานในรูปแบบที่ไม่จำกัด และเป็นช่องทางในการสร้างรายได้ใหม่ที่ศิลปินไม่เคยมีมาก่อน รวมทั้งแฟนคลับเองสามารถสนับสนุนศิลปินที่ตัวเองชื่นชอบ ด้วยการซื้อผลงานของศิลปินที่ถูกต้องตามลิขสิทธิ์ผ่าน Application
จุดเด่นของ “FANDOM Application แฟนคลับคอมมูนิตี”
- ศิลปินและแฟนคลับจะได้ใกล้ชิด และสื่อสารถึงกันได้ง่ายขึ้น
- กิจกรรมร่วมสนุกและแคมเปญสุดเอ็กซ์คลูซีฟระหว่างศิลปินกับแฟนคลับ
- แฟนคลับสามารถเชื่อมต่อใกล้ชิดกับศิลปินที่ชื่นชอบได้ทุกช่วงเวลา
- ติดตามข่าวสาร ความเคลื่อนไหวของศิลปินที่ชื่นชอบ
- แตกต่างจาก NFT รูปแบบทั่วไป ทุกคนสามารถสร้างผลงาน NFT เฉพาะของตัวเอง
- ศิลปินและแฟนคลับมีช่องทางในการสร้างรายได้ใหม่ที่ไม่เคยมีมาก่อนในรูปแบบ NFT
- เป็นการสนับสนุนผลงานที่ถูกต้องตามลิขสิทธิ์ของศิลปิน
- เก็บสะสมผลงาน NFT ที่ไม่ซ้ำใคร และแบ่งปันให้เพื่อนๆ ได้ชม
- สร้างรายได้แบบ Fun to Earn จากกิจกรรมต่างๆ ใน FANDOM Application
"สินทรัพย์ดิจิทัลในรูปแบบ NFT ถือเป็นโอกาสที่ศิลปินทุกวงการ ทุกสาขาอาชีพจะได้แสดงผลงานสะท้อนตัวตนอย่างเต็มที่ และสามารถเผยแพร่ไปทั่วโลกได้ โดย NFT ที่คาดว่าจะได้รับความนิยมในไทยสามารถเกิดขึ้นได้จากทุกวงการ ไม่ว่าจะเป็นดารา นักแสดง กลุ่มบุคคลที่มีชื่อเสียง ศิลปินแขนงต่างๆ หรือกลุ่มที่มีความสามารถพิเศษเฉพาะ ทุกกลุ่มสามารถออกผลงานที่เป็น NFT เฉพาะของตนเอง และสามารถได้รับความนิยมได้ เพราะทุกกลุ่มต่างมีฐานแฟนคลับเป็นของตัวเอง"
ขณะที่ FANDOM Application จะอยู่บนระบบ Blockchain ของ Bitkub สำหรับการสร้าง NFT ใน Application ซึ่งเทคโนโลยี Blockchain ดังกล่าวนั้นมีระบบนิเวศที่เป็นมิตรต่อผู้ใช้งาน
“FANDOM Application พร้อมเปิดให้ใช้บริการในเดือนสิงหาคมปีนี้ ขณะที่ยังมีแผนพัฒนาฟีเจอร์ใหม่ๆ ออกมาสร้างความสนุกสนานในทุกไตรมาส รวมถึงการเปิดโอกาสให้ศิลปินทุกแขนงสร้างผลงานในรูปแบบที่ไม่จำกัด และเป็นช่องทางในการหารายได้ใหม่ให้ศิลปินแบบอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ซึ่งแฟนคลับเองสามารถสนับสนุนศิลปินที่ตัวเองชื่นชอบ ด้วยการซื้อผลงานที่ถูกต้องตามลิขสิทธิ์ได้จาก Application”
ขณะเดียวกัน FANDOM อยู่ระหว่างการพูดคุยกับค่ายเอ็นเตอร์เทนเมนต์ยักษ์ใหญ่ของไทย ซึ่งศิลปินที่ตอบรับแล้ว เช่น วง Wish Me ศิลปินน้องใหม่ที่กำลังมาแรง และนอกจากศิลปินด้านงานเพลงและการแสดงแล้ว ยังมีศิลปินอีกหลากหลายวงการ ทั้งสายกีฬา ศิลปะ อาหาร ท่องเที่ยว หมอดู เน็ตไอดอล อินฟลูเอ็นเซอร์ ที่จะมาร่วมเป็นส่วนหนึ่งในระบบนิเวศนี้