“ทีวี ไดเร็ค” ยกระดับเป็น “โฮลดิ้ง คอมพานี” พร้อมเปลี่ยนชื่อใหม่ “ทีวีดี โฮลดิ้งส์” ส่ง “ทีวีดี เอ็ม” ลุยธุรกิจเหมืองขุดบิตคอยน์-คริปโตฯ ด้วยงบลงทุน 80 ล้านบาท ขณะบอร์ดไฟเขียวเพิ่มทุนให้ผู้ถือหุ้นเดิม (RO) 513 ล้านหุ้น เพื่อเพิ่มสภาพคล่องเป็นทุนลงทุนธุรกิจใหม่ เตรียมเสนอที่ประชุมผู้ถือหุ้น 30 มิ.ย.นี้
นายทรงพล ชัญมาตรกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทีวี ไดเร็ค จำกัด (มหาชน) หรือ TVD เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการของบริษัท (บอร์ด) เมื่อวันที่ 30 พ.ค.2565 บอร์ดอนุมัติหลักการการปรับโครงสร้างบริษัทเพื่อให้เป็นบริษัทลงทุนในบริษัทอื่น (Holding Company) พร้อมอนุมัติการเปลี่ยนชื่อและตราประทับของบริษัท จากเดิมบริษัท ทีวี ไดเร็ค จำกัด (มหาชน) เปลี่ยนเป็นบริษัท ทีวีดี โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) ซึ่งจะเสนอต่อที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นที่จัดขึ้นในวันที่ 30 มิ.ย.นี้
“การที่บริษัทต้องปรับเป็น Holdings Company เนื่องจากดิสรัปชันที่เกิดขึ้น เชื่อว่าระบบโฮลดิ้งมีความมั่นคง และจะเข้ามาเสริมรายได้ของบริษัทให้เติบโตอย่างแข็งแกร่ง หากในอนาคตมีความผิดพลาดในธุรกิจใดธุรกิจหนึ่งยังมีธุรกิจเข้ามาช่วยทดแทนได้ จึงมั่นใจว่าผลประกอบการของบริษัทจะปรับตัวดีขึ้น ล่าสุด นายวิชัย ทองแตง เข้าถือหุ้นในบริษัทฯ 155 ล้านหุ้น คิดเป็นประมาณ 9% เพราะมองเห็นศักยภาพของบริษัทฯ ที่มีธุรกิจที่ความหลากหลายและโอกาสกลับมาเติบโตแข็งแกร่งในอนาคต" นายทรงพลกล่าว
สำหรับการปรับโครงสร้างเพื่อจะทำการโอนกิจการและเปลี่ยนแปลงโครงสร้างการลงทุนในบริษัทย่อย ดังนั้น คณะกรรมการบริษัทจึงมีมติอนุมัติในหลักการให้บริษัทไปดำเนินการศึกษาความเป็นไปได้ รวมทั้งมอบหมายให้ที่ปรึกษาทางการเงินของบริษัททำการประเมินมูลค่ากิจการตามโครงสร้าง ทั้งการโอนกิจการขายสินค้าของบริษัทให้แก่บริษัทย่อยที่จะตั้งขึ้นใหม่ ซึ่งจะใช้ชื่อบริษัท ทีวี ไดเร็ค จำกัด จะเกิดขึ้นภายหลังจากที่บริษัทได้เปลี่ยนชื่อเป็น บมจ.ทีวีดี โฮลดิ้งส์ แล้ว พร้อมศึกษาการเข้าลงทุนในหุ้นของบริษัท ทีวีดี โบรกเกอร์ จำกัด และบริษัท ฟู้ด ออเดอรี่ จำกัด ซึ่งถือโดยบริษัท เอบีพีโอ จำกัด รวมถึงการเข้าลงทุนในบริษัทย่อยที่จะตั้งใหม่ ซึ่งจะเกิดจากการแยกหน่วยงานภายในบริษัท เอบีพีโอ จำกัด ตั้งเป็นบริษัทใหม่ เพื่อให้บริการรับส่งสินค้าและพัสดุภัณฑ์
อีกทั้งอนุมัติให้บริษัท ทีวีดี เอ็ม จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยเข้าลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล ด้วยงบลงทุน 80 ล้านบาท เพื่อเข้าลงทุนในธุรกิจเหมืองขุดบิตคอยน์ (Bitcoin Mining) โดยจัดซื้อเครื่องขุดบิตคอยน์ 25 เครื่อง รวมถึงเตรียมระบบไฟฟ้า อุปกรณ์และระบบอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง คาดทยอยซื้อได้ครบทั้ง 25 เครื่อง ภายในไตรมาส 3 ปีนี้ ขณะที่ธุรกิจประเภทคริปโตเคอร์เรนซี (เหรียญ KUB) เพื่อเป็น Node Validators คาดเริ่มในเดือนมิถุนายน 2565 วงเงิน 15 ล้านบาท สุดท้ายจะลงทุนในธุรกิจประเภทคริปโตเคอร์เรนซี เพื่อนำเหรียญดิจิทัลเป็นหลักประกันแลกกับการเป็นผู้ตรวจสอบธุรกรรม Proof of Stake ในการสร้างหรือบันทึกข้อมูลธุรกรรมผ่าน Block Chain ได้รับค่าตอบแทนจากตรวจสอบและบันทึกธุรกรรมดังกล่าวด้วยงบ 15 ล้านบาท คาดเริ่มไตรมาส 3 ปีนี้
โดยการเข้าดำเนินธุรกิจเหมืองขุดบิตคอยน์ และการเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของผู้ตรวจสอบธุรกรรมในแพลตฟอร์ม Bitkub Chain และ Proof of Stake เป็นการขยายการลงทุนในธุรกิจใหม่ และระบบหลักที่เป็นพื้นฐานในการให้บริการทางการเงินในรูปแบบ Decentralized Finance (DeFi) ซึ่งเป็นบริการทางการเงินโดยไม่ต้องอาศัยตัวกลางในการควบคุม และทำงานบนเครือข่าย blockchain จะสามารถสร้างรายได้ใหม่ให้แก่บริษัท ทีวีดี เอ็ม จำกัด ในอนาคต และยังได้รับประโยชน์ในการศึกษาการทำแพลตฟอร์มที่ใช้สำหรับแพลตฟอร์มการให้บริการซื้อขายแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัล
"การลงทุนดังกล่าวจะสนับสนุนและขยายธุรกิจของบริษัท ทีวีดี เอ็ม จำกัด ไปยังระบบหลักที่เป็นพื้นฐานในการให้บริการทางการเงินในรูปแบบ Decentralized Finance (DeFi) ซึ่งเป็นบริการทางการเงินโดยไม่ต้องอาศัยตัวกลางในการควบคุม และทำงานบนเครือข่าย blockchain ซึ่งจะสามารถสร้างรายได้ใหม่ให้แก่บริษัท ทีวีดีเอ็ม จำกัด ในอนาคต นอกจากนั้น ยังได้รับประโยชน์ในการศึกษาการทำแพลตฟอร์มที่ใช้สำหรับแพลตฟอร์มการให้บริการซื้อขายแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัล ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อบริษัทฯ และผู้ถือหุ้นโดยรวม ดังนั้นคณะกรรมการบริษัทฯ จึงเห็นสมควรอนุมัติให้บริษัทฯ ลงทุนในธุรกิจเหมืองขุดบิตคอยน์และสินทรัพย์ดิจิทัลได้
ดังนั้น บอร์ดจึงให้เพิ่มทุน 256.7 ล้านบาท หรือ 513.46 ล้านหุ้น มูลค่าหุ้นที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท คิดเป็น 29.99% จากทุนจดทะเบียนเดิม 967.72 ล้านบาท หรือ 1,935 ล้านหุ้น ด้วยการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวนไม่เกิน 513.46 ล้านหุ้น ขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วน ( RO) ตามแบบมอบอำนาจทั่วไป (General Mandate) โดยจะออกและเสนอขายครั้งเดียวเต็มจำนวนหรือแต่บางส่วนก็ได้ เพื่อฐานเงินทุนที่แข็งแกร่ง รองรับการขยายธุรกิจ และการลงทุนของบริษัทในอนาคต
"การเพิ่มทุนครั้งนี้เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นทางการเงินและรองรับการขยายธุรกิจและการลงทุนของบริษัทฯ ในอนาคต รวมถึงการได้มาซึ่งธุรกิจใหม่/ผลิตภัณฑ์ใหม่ เป็นการเพิ่มสภาพคล่องและเงินทุนหมุนเวียน รวมทั้งเสริมสร้างให้บริษัทฯ มีฐานเงินทุนที่แข็งแกร่งทั้งในด้านโครงสร้างทางการเงินและสัดส่วนของหนี้สินต่อทุนของบริษัทฯ ในระยะยาว ตลอดจนเพิ่มศักยภาพของบริษัทฯ ในการระดมทุนเพิ่มขึ้นทั้งจากการกู้ยืมเงิน หรือการระดมเงินจากตลาดตราสารหนี้ ซึ่งโครงการในอนาคตจะนำมาซึ่งรายได้ที่เพิ่มขึ้น และคาดว่าจะส่งผลให้อัตราการทำกำไรของบริษัทฯ ปรับตัวดีขึ้น และจะเป็นประโยชน์แก่บริษัทและผู้ถือหุ้นของบริษัทในระยะยาว" นายทรงพล กล่าว