xs
xsm
sm
md
lg

“พฤกษา” ชูลีฟวิ่งโซลูชันตอบโจทย์การอยู่อาศัยทุกมิติ ดึง 3 เทรนด์รับทุกการเปลี่ยนแปลง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ในอดีตนั้นการดำเนินธุรกิจของบริษัทอสังหาริมทรัพย์ ส่วนใหญ่ผู้ประกอบการจะคิดเพียงการพัฒนาที่อยู่อาศัยให้ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค เพื่อให้มียอดขายสูงๆ ทำกำไรเยอะๆ และหลังจากขาย ส่งมอบที่อยู่อาศัยให้ลูกค้าจบแล้วก็จบกัน แต่ในปัจจุบันนี้ การดำเนินธุรกิจอสังหาฯ ไม่ใช่เพียงแค่คำนึงถึงแต่การลดต้นทุนให้ต่ำ เพื่อให้สามารถทำกำไรจากธุรกิจสูงๆ แต่การคืนกำไรให้ผู้บริโภคและสังคม ที่สำคัญคือการทำธุรกิจยังต้องคำนึงถึงความยั่งยืนของธุรกิจ สิ่งแวดล้อม และคุณภาพชีวิตในการอยู่อาศัยของผู้บริโภค

ดังนั้น ในปัจจุบันเราจะเห็นว่าผู้ประกอบการอสังหาฯ ส่วนใหญ่ให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจแบบยั่งยืนเพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้ ในการทำการตลาดยังยึดเอาความต้องการและพฤติกรรมของผู้บริโภคเป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบโปรดักต์ที่มีการนำเอาดาต้าเบสพฤติกรรมผู้บริโภคมาศึกษาและพัฒนารูปแบบที่อยู่อาศัยให้สอดรับกับความต้องการและพฤติกรรมผู้บริโภคให้มากที่สุด ขณะเดียวกัน มีการนำเทคโนโลยีเพื่ออำนวยความสะดวกในการอยู่อาศัยและเทคโนโลยีที่ช่วยลดการใช้พลังงาน เช่น โซลาร์รูฟท็อป จุดชาร์จรถอีวีเข้ามาติดตั้ง หรือเข้ามาใช้ภายในโครงการที่อยู่อาศัย ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้นของการนำเทคโนโลยีที่ช่วยลดการใช้พลังงาน หรือส่งเสริมการใช้พลังงานทดแทน ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อรักษาสิ่งแวดล้อม

ขณะเดียวกัน การให้ความสำคัญในการดูแลลูกค้าและการยกระดับคุณภาพชีวิตการอยู่อาศัยของลูกค้าบ้านก็เป็นอีกหนึ่งภารกิจสำคัญในการดำเนินธุรกิจของผู้พัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยในปัจจุบัน โดยเฉพาะในยุคที่ผู้บริโภคให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพ ในห้วงเวลาที่มีการเกิดโรคระบาดไปทั่วโลก รวมถึงการก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุของสังคมไทยอย่างเต็มตัว ทำให้หลายๆ ค่าย หลายๆ บริษัทอสังหาฯ มีความร่วมมือกับสถานพยาบาลเพื่อดึงระบบการดูแลสุขภาพเข้ามาดูแลลูกค้าในโครงการที่อยู่อาศัย ทั้งนี้ “พฤกษา เรียลเอสเตท” คือหนึ่งในค่ายอสังหาฯ ที่เดินหน้าใน 3 เรื่องดังกล่าวอย่างชัดเจน โดยเฉพาะการให้ความสำคัญในการดูแลสุขภาพของลูกค้าและการดูแลลูกค้าผู้สูงอายุ

ปิยะ ประยงค์
นายปิยะ ประยงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ภายใต้แนวคิด “Tomorrow. Reimagined.” ที่พฤกษาฯ ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องเป็นการกำหนดทิศทางการดำเนินงานเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่ และอาจกล่าวได้ว่า ดีไซน์บ้านที่ครอบคลุมการใช้ชีวิตในทุกมิติ ถือเป็น “ลิฟวิ่ง โซลูชัน” นวัตกรรมจากพฤกษาฯ โดยเฉพาะที่มอบให้ผู้บริโภค เพราะบ้านคือการลงทุนทั้งชีวิต เพื่อกำหนดมาตรฐานใหม่ในการเลือกซื้อบ้านที่ต้องใส่ใจการอยู่อาศัย การใช้ชีวิตทั้งวันนี้และอนาคตโดยคำนึงถึงทั้งในเรื่องบ้านที่ออกแบบมาเพื่อสุขภาพที่ดีของทุกคนในครอบครัว

“บ้านที่ตอบโจทย์ความต้องการการใช้ชีวิตในวันนี้ที่แต่ละคนมีความต้องการที่แตกต่างกันพร้อมกับรองรับการใช้ชีวิตและความต้องการในอนาคตที่อาจเปลี่ยนแปลงไป และสุดท้ายคือการเลือกบ้านที่ช่วยให้ลดค่าใช้จ่ายทางด้านพลังงาน และการดูแลรักษาต่างๆ ซึ่งมาจากการใส่ใจเรื่องการประหยัดพลังงาน ใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อม ใส่ใจในคุณภาพ พฤกษาจึงมุ่งไปที่การสร้างสรรค์นวัตกรรม “พฤกษา ลีฟวิ่ง โซลูชัน” เพื่อพัฒนาบ้านที่ตอบโจทย์ให้คนไทยมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ซึ่งรวมถึงบ้านที่อยู่อาศัยและบริการต่างๆ ให้รองรับการใช้ชีวิตที่แตกต่างกันเป็นสำคัญ”

การมีบ้านสักหลังคือความตั้งใจที่จะอยู่อาศัยไปตลอดชีวิต พฤกษาฯ เห็นถึงบริบทสังคมและไลฟ์สไตล์ในอนาคตที่ปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ ดังนั้น ลีฟวิ่งโซลูชัน จึงสามารถปรับเปลี่ยนบ้านให้รองรับการอยู่อาศัยในทุกมิติทุกช่วงเวลาของชีวิตที่เปลี่ยนไปได้ตลอดดังนั้น ในการดีไซน์บ้านแนวใหม่ของ พฤกษาฯ จึงต้องตอบรับ 3 เทรนด์ สำคัญในปัจจุบัน คือ 1.เทรนด์ไลฟ์สไตล์ (Lifestyle Disruption) เพราะผู้คนเปลี่ยนมาใช้ชีวิตอยู่ที่บ้านมากขึ้น การออกแบบพื้นที่ใช้สอยต้องยืดหยุ่นปรับเปลี่ยนได้อย่างอิสระ ผนวกด้วยเทคโนโลยีสมาร์ทโฮมเพื่อความสะดวกสบายและปลอดภัย พื้นที่ส่วนกลางยังออกแบบให้มีความหลากหลายตอบรับการใช้งานทุกไลฟ์สไตล์


2.เทรนด์สุขภาพ (Health & Wellness) ตอบโจทย์สุขภาพดีเริ่มต้นได้ที่บ้าน โดยร่วมกับทีมโรงพยาบาลวิมุต ทำให้ดีไซน์บ้านมีส่วนช่วยส่งเสริมสุขภาพให้ทุกช่วงวัยด้วยความใส่ใจในทุกรายละเอียด เช่น การใช้ประตูหน้าต่างป้องกันฝุ่นมลพิษด้วยระบบ AirTightness System ใช้สีทาภายในปลอดสารพิษ พื้นภายในบ้านเป็นทางเรียบ ใช้วัสดุพื้นลดแรงกระแทก เป็นต้น พร้อมบริการ Health to Home ด้วยเทคโนโลยีที่ช่วยให้ผู้อยู่อาศัยอุ่นใจเสมือนมีโรงพยาบาลอยู่ใกล้แค่เอื้อม ทั้งนี้ ยังมีแผนการจัด Virtual Run เป็นกิจกรรมพิเศษช่วยส่งเสริมสุขภาพสำหรับลูกค้า ผู้ที่สนใจรวมถึงพนักงานพฤกษาทุกคน

โดยพฤกษาฯ มีความเชื่อมั่นว่าการสร้างสรรค์นวัตกรรมการอยู่อาศัยเป็นการเตรียมความพร้อมให้ผู้คนสามารถรับมือกับการเปลี่ยนแปลงทั้งในวันนี้และในอนาคต โดยเฉพาะการเปลี่ยนแปลงสำคัญซึ่งจะมีผลต่อรูปแบบการอยู่อาศัยใหม่ เช่น การก้าวสู่สังคมสูงวัย วิถีการใช้ชีวิตที่เปลี่ยนไปหลังโควิด-19 ที่ทำให้ผู้คนใช้เวลาอยู่ในบ้านมากขึ้น และความก้าวหน้าของเทคโนโลยีอย่างรวดเร็วก่อให้เกิด IoT (Internet of Things) นวัตกรรมเปลี่ยนโฉมชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนไปอย่างสิ้นเชิง สิ่งเหล่านี้ทำให้พฤกษาฯ มองเห็นเทรนด์การอยู่อาศัยที่ผนวกรวมเรื่องสุขภาพและการใช้ชีวิตที่มีคุณภาพภายในบ้านให้กลายเป็นเรื่องเดียวกัน

 ทำให้ พฤกษาฯ เป็นผู้พัฒนาอสังหาฯ รายเดียวที่มีโรงพยาบาลผูกรวมอยู่ในโครงสร้างธุรกิจ และเป็นจุดกำเนิดของการผนวกนิยามคำว่า "บ้านและการใช้ชีวิต" เข้าเป็นเนื้อเดียวกับนิยาม “สุขภาพ” ได้อย่างลงตัว การสร้างบ้านสุขภาพดีเพื่อคุณภาพชีวิตดีที่สุดได้กลายมาเป็นโมเดลการพัฒนาใหม่ที่มาจากการรวมพลังของ 2 ธุรกิจผู้เชี่ยวชาญการพัฒนาโครงการที่พักอาศัย-พฤกษา และผู้เชี่ยวชาญด้านการดูแลสุขภาพ-รพ.วิมุต ที่มีเป้าหมายอย่างเดียวกัน โดยความร่วมมือกับโรงพยาบาลวิมุตภายใต้แนวคิด (บ้าน) ใส่ใจทุกรายละเอียดการใช้ชีวิต คิดมาเพื่อคุณ...ในวันนี้และพรุ่งนี้ TomorrowReimagined. โดยยึดถือแนวทางการพัฒนานวัตกรรมเพื่อคุณภาพชีวิตที่ยั่งยืน โดยแกนหนึ่งให้ความสำคัญ คือมุ่งเน้นความใส่ใจในเรื่องของ Health&Wellness เพื่อการอยู่อาศัยอย่างมีคุณภาพและมีความสุข ช่วยตอกย้ำจุดมุ่งหมายของแบรนด์ที่ว่า “พฤกษา..ใส่ใจเพื่อทั้งชีวิต”

“การมีโรงพยาบาลเป็นส่วนหนึ่งของธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ทำให้พฤกษาฯ สามารถคิดต่อยอดได้ทั้งในแง่ของการพัฒนาบริการและโครงการ เพื่อให้ที่อยู่อาศัยของพฤกษามอบความสะดวกสบายและมีความยืดหยุ่นสำหรับการอยู่อาศัยในโลกที่การเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นทุกวันและรวดเร็ว บ้านจึงต้องมีฟังก์ชันที่สามารถปรับเปลี่ยนให้ตอบรับกับความต้องการที่เปลี่ยนไปตามช่วงเวลาในทุกมิติของช่วงชีวิตทั้งในวันนี้และในอนาคต”



ขณะที่พฤกษาฯ มีความเชี่ยวชาญการพัฒนาบ้าน ทุกดีไซน์ภายในบ้าน ดังนั้น ภายในโครงการย่อมมีส่วนสำคัญต่อการส่งเสริมสุขภาพและเรื่องนี้ถือเป็นจุดแข็งของเราที่มีทีมโรงพยาบาลวิมุตเข้ามาเติมเต็มไอเดียและคำแนะนำในเชิงสุขภาพ ช่วยให้การออกแบบบ้านยุคใหม่ในทุกรายละเอียด ทั้งการเลือกใช้วัสดุอุปกรณ์เครื่องใช้ภายในบ้านมีความสมบูรณ์และตอบโจทย์เทรนด์การอยู่อาศัยที่ผู้คนให้ความใส่ใจเรื่องสุขภาพมากขึ้น

สำหรับแนวทางการเชื่อมโยงเรื่องของสุขภาพ (Health) ให้เข้ากับการใช้ชีวิตในบ้าน (Home) นายแพทย์สันติ เอื้อนรเศรษฐ์ ผู้อำนวยการ โรงพยาบาลวิมุต ให้คำอธิบายเข้าใจง่ายๆ ว่า สุขภาพเป็นหนึ่งในปัจจัยสี่ที่ผู้คนควรเข้าถึงได้ง่ายทั้งในแง่ของราคาและการให้บริการ ดังนั้น โจทย์สำคัญคือผู้คนจะเข้าถึงบริการของโรงพยาบาลได้อย่างไรตั้งแต่อยู่ที่บ้าน คำตอบคือเรื่องของการเชื่อมโยงข้อมูลของบ้านและสุขภาพโมเดลจึงมีสามส่วนคือโฮมเฮลท์ และตัวเชื่อมคือเทคโนโลยี ดังนั้น การผนึกพลังร่วมกันของพฤกษา และรพ.วิมุตจะสร้างความเชื่อมั่นและไว้วางใจให้ผู้อยู่อาศัยในโครงการพฤกษาฯ โดยแผนการขยายบริการดูแลสุขภาพของ รพ.วิมุตนั้นจะเกาะติดไปกับทำเลที่อยู่อาศัยที่พฤกษาฯ เข้าไปพัฒนา

ทั้งนี้ ในบางทำเลมีแผนสร้างเป็นโรงพยาบาลสาขาขนาดเล็กสำหรับโครงการของพฤกษาและชุมชนแวดล้อม บางทำเลสร้างเป็นศูนย์ดูแลสุขภาพมีแพทย์หมุนเวียนมาให้บริการ แต่เพื่อให้ตอบโจทย์การเข้าถึงบริการสุขภาพตั้งแต่อยู่ที่บ้านโรงพยาบาลวิมุต จึงมีการจับมือร่วมกับพันธมิตรด้านเทคโนโลยีหลายกลุ่มทั้งที่เป็นผู้ให้บริการเครือข่ายอินเทอร์เน็ต และผู้พัฒนาแอปพลิเคชันต่างๆ การใช้เทคโนโลยีเป็นตัวเชื่อมต่อโฮมและเฮลท์ทำให้ผู้อยู่อาศัยโครงการของพฤกษาฯ รู้สึกเสมือนว่ามีโรงพยาบาลอยู่ใกล้แค่เอื้อมมีความเจ็บป่วยใดๆ สามารถเข้าถึงบริการสุขภาพได้ทันท่วงที เช่น ตัวอย่างในการโปรแกรมปรึกษาแพทย์ออนไลน์ (Telemedicine) ที่ให้คำปรึกษาโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ไม่มีค่าใช้จ่าย มีบริการจัดส่งยาให้ถึงบ้านสำหรับผู้ป่วย รวมทั้งแอปพลิเคชันช่วยเหลือผู้สูงวัยกรณีฉุกเฉินผ่านอุปกรณ์แจ้งเตือน และจัดส่งทีมดูแลพร้อมรถพยาบาลบริการ 24 ชม.

“ในอนาคตจะยังมีการพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อการเชื่อมต่อโฮม-เฮลท์เพิ่มเติมได้อีก เทคโนโลยีเหล่านี้เป็นเครื่องมืออำนวยความสะดวกให้ผู้อยู่อาศัยสามารถเข้าถึงบริการดูแลสุขภาพได้ง่ายขึ้นทั้งในระยะก่อนเจ็บป่วย ระยะเจ็บป่วย และระยะฟื้นฟูสุขภาพหลังการรักษา”


นายปิยะ กล่าวว่า สำหรับ เทรนด์ที่ 3 คือเทรนด์เพื่อความยั่งยืน (Sustainable Development) พฤกษาใช้นวัตกรรมลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และเทคโนโลยีด้านพลังงานทดแทนและพลังงานสะอาดตอบโจทย์การอยู่อาศัยอย่างยั่งยืน เช่น หลอดไฟประหยัดพลังงาน นวัตกรรมพื้นแบบ SPC (Stone Plastic Composite Flooring) การติดตั้งเครื่องกำจัดย่อยสลายเศษอาหารเหลือทิ้ง การใช้โซลาร์เซลล์ในพื้นที่ส่วนกลางและคลับเฮาส์ รวมไปถึงการติดตั้ง EV Charger ในพื้นที่คอนโดฯ และดีไซน์พื้นที่เพื่อรองรับการติดตั้ง EV Charger ภายในบ้าน

การดำเนินงานของพฤกษาฯ เพื่อคุณภาพชีวิตของผู้บริโภคทั้งหมดนี้ถูกสื่อสารผ่านคอร์ปอเรตแคมเปญชุดใหญ่ “PRUKSA Living Solution” ตั้งแต่ต้นปี 65 เป็นต้นมา โดยใช้กลยุทธ์การตลาดดิจิทัลที่มีประสิทธิภาพสูงเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายอย่างชัดเจน เพื่อตอกย้ำความเชื่อมั่นในแบรนด์ว่า พฤกษาฯ ให้ความใส่ใจลูกค้าทั้งในระดับกว้างและลึกโดยชี้ให้เห็นทุกรายละเอียดที่กลั่นกรองจากความคิดออกมาเป็นรูปธรรม ทั้งการปรับเปลี่ยนดีไซน์บ้านและโครงการเพื่อให้สอดคล้องกับ 3 แกนที่รองรับการใช้ชีวิตในวันนี้และอนาคต ตั้งแต่การพัฒนาบริการด้านสุขภาพและการออกแบบบ้านร่วมกับทีมโรงพยาบาลวิมุต รวมถึงสิทธิพิเศษต่างๆ ที่มอบให้เฉพาะลูกค้าพฤกษาฯ ผ่านโปรแกรม Health to Home บริการปรึกษาแพทย์ด้านสุขภาพผ่านออนไลน์ ตลอดจนโปรแกรมสิทธิพิเศษ Pruksa Member ที่มีการปรับเปลี่ยนรูปแบบเพื่อให้ตอบสนองไลฟ์สไตล์ของลูกค้าแต่ละกลุ่มได้ตรงใจมากขึ้น

อังคณา ลิขิตจรรยากุล
น.ส.อังคณา ลิขิตจรรยากุล รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาดองค์กรกลุ่ม บริษัท พฤกษา โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เพื่อสร้างการรับรู้ในแคมเปญการตลาด “PRUKSA Living Solution บ้านที่ใส่ใจทุกรายละเอียดการใช้ชีวิต” พฤกษาฯ ได้มีการต่อยอด Brand Purpose พฤกษา..ใส่ใจเพื่อทั้งชีวิต ภายใต้แนวความคิด Tomorrow. Reimagined. ที่คิดมาจากความเข้าใจในความต้องการของลูกค้า (Customer Centric) เพื่อประสบการณ์การอยู่อาศัยที่ดี ไม่เฉพาะแต่ในวันนี้ แต่ยังคิดเผื่อไปถึงความต้องการที่จะเปลี่ยนแปลงไปในอนาคตด้วย

โดยใช้กลยุทธ์สื่อสารแบบดิจิทัลเต็มรูปแบบ 100% มุ่งเน้นสะท้อนให้เห็นถึงสิ่งที่พฤกษามุ่งมั่นทำมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อส่งมอบประสบการณ์การอยู่อาศัยที่ดีให้เห็นภาพชัดเจนมากขึ้น ซึ่งในการออกแบบ Campaign Journey ได้นำข้อมูลผู้บริโภคเชิงลึกมาวิเคราะห์ ทำให้เราเห็นภาพ เข้าใจถึงความต้องการที่แตกต่างกันในแต่ละกลุ่มเป้าหมาย มาใช้ในการออกแบบการสื่อสารการตลาด (Customer Data Driven Marketing) ทำให้แคมเปญนี้มีทั้งการสื่อสารในภาพรวม และมีการสื่อสารที่เจาะเน้นความต้องการของแต่ละกลุ่มเป้าหมายที่แตกต่างกัน (Adaptive Insight) โดยสื่อถึงสิ่งที่พฤกษาออกแบบมารองรับการใช้ชีวิตที่แตกต่างมากขึ้น เช่น การออกแบบบ้านที่คำนึงถึงการใช้งานของผู้สูงอายุ สนามเด็กเล่นที่ออกแบบมาเพื่อพัฒนาการของเด็ก การออกแบบบ้านรวมถึงบริการต่างๆ ที่ตอบโจทย์สุขภาพของแต่ละคนในครอบครัว


นอกจากนี้ พฤกษาฯ ยังใช้การตลาดแบบ Holistic Marketing Campaign ตั้งแต่สร้างการรับรู้ ไปจนถึงเปิดให้ลูกค้าได้สัมผัสประสบการณ์ Virtual Experience ที่จำลองบรรยากาศการใช้ชีวิตในโครงการของพฤกษา 3 โครงการ ทั้งบ้านเดี่ยว ทาวน์โฮม คอนโดมิเนียม พร้อมกับ Pruksa Living Solution ที่ออกแบบมาเพื่อตอบสนองการใช้ชีวิตทั้งวันนี้และอนาคต ผ่าน Virtual 360 ในกิจกรรม “PRUKSA Tomorrow Verse” โดยนำเสนอผ่านทาง Virtual gamification และมีการจำลอง Avatar ของผู้เล่นแต่ละคน เป็นตัวตนเสมือนจริง ซึ่งนอกจากจะได้ในเรื่องของความสนุกในเกม ยังช่วยให้ผู้สนใจเลือกซื้อบ้านได้ลองสัมผัสและเยี่ยมชมโครงการผ่านประสบการณ์ในโลกเสมือนจริง สนุกไปกับการเล่นเกมทำภารกิจที่จัดเตรียมไว้ในแต่ละโครงการให้สำเร็จลุล่วง งานนี้มีรางวัลให้ผู้ชนะสะสมไอเทมเพื่อนำมาแลกรับของรางวัลได้จริง เช่น วอชเชอร์ส่วนลดเงินสดสำหรับซื้อบ้านมูลค่า 1 ล้านบาท โครงการตามเงื่อนไขของบริษัทฯ และของรางวัลพิเศษอื่นๆ อีกมากมาย

“แคมเปญสร้างการรับรู้ หรือแคมเปญทางการตลาด “PRUKSA Living Solution บ้านที่ใส่ใจทุกรายละเอียดการใช้ชีวิต” นี้ เป็นการการต่อยอดการทำ Brand Purpose พฤกษา..ใส่ใจเพื่อทั้งชีวิต ภายใต้แนวความคิด Tomorrow. Reimagined. นี้ไม่ได้มุ่งหวังในเรื่องของยอดขายในระยะสั้น แต่เปญแคมเปญส่งเสริมลักษณ์ขององค์กร ดังนั้น จึงไม่มีการตั้งเป้าทางด้านยอดขายจากแคมเปญนี้ แต่พฤกษาฯ หวังว่าในระยะยาวภาพลักษณ์ขององค์กรที่ดีจะเป็นปัจจัยหนุนส่งต่อยอดขายสินค้าภายใต้แบรนด์พฤกษาฯ ในอนาคต” นายปิยะ กล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น