“ปุ้มปุ้ย” พร้อมเดินหน้าต่อ จัดทัพทีมผู้บริหารและทีมงานมืออาชีพ ลุยทำการตลาดแบบเชิงรุก มุ่งขยายตลาด ปรับภาพลักษณ์แบรนด์ สร้างฐานลูกค้า ตั้งเป้าหมายกลับมาส่งต่อความอร่อยและสร้างรอยยิ้มให้เกิดขึ้นในทุกมื้ออาหาร
นางปวิตา โตทับเที่ยง ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารองค์กร บริษัท ผลิตภัณฑ์อาหารกว้างไพศาล จำกัด (มหาชน) หรือ PUMPUI กล่าวว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน สินค้าของ ‘ปุ้มปุ้ย’ เข้ามามีความเกี่ยวข้องกับวิถีชีวิตของคนที่อยู่บ้านมากขึ้น ทั้งในแง่ของการ Work From Home และการรักษาตัวโดยวิธีการ Home Isolation รวมไปถึงการกักตัวของผู้ที่มีความเสี่ยง ทำให้สินค้าประเภทอาหารปรุงรสและอาหารพร้อมทานของ ‘ปุ้มปุ้ย’ เป็นที่ต้องการของผู้บริโภคกลุ่มนี้ เนื่องจากตอบโจทย์เรื่องของความสะดวกในการจัดเตรียมอาหาร และความง่ายในการนำสินค้ามาทำอาหารหรือรับประทานร่วมกับอาหารอื่นๆ
โดย PUMPUI เผยทิศทางในการดำเนินงาน หลังจากมีการปรับโครงสร้างองค์กร จัดทีมผู้บริหารและทีมงานมืออาชีพเข้ามาบริหารงานตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2564 ที่ผ่านมา ด้วยกลยุทธ์ทำการตลาดเชิงรุก โดยมุ่งไปที่การขยายตลาด ทั้งพื้นที่และช่องทางในการจัดจำหน่ายสินค้า เตรียมปรับโฉม ‘ปุ้มปุ้ย’ ให้มีความทันสมัยมากขึ้น เพื่อเข้าถึงผู้บริโภคในยุคปัจจุบัน และด้วยพฤติกรรมผู้บริโภคที่เห็นจากตรงนี้ ‘ปุ้มปุ้ย’ เลยเร่งเดินหน้ารุกตลาดออนไลน์มากขึ้น โดยได้นำสินค้าเข้าไปจัดจำหน่ายบนอีคอมเมิร์ซ แพลตฟอร์ม ซึ่งตอนนี้มีที่ JD Central, Lazada, Shopee และบนช่องทางของ ‘ปุ้มปุ้ย’ เอง ผ่านทาง Facebook Pumpuibrand และ LINE Official Account เพื่อตอบรับพฤติกรรมของผู้บริโภคที่นิยมชอปปิ้งผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้น
“ซึ่งหลังจัดจำหน่ายพบว่าได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ยอดขายบนช่องทางออนไลน์หรืออีคอมเมิร์ซเติบโตกว่า 70%” นางปวิตา กล่าว
ขณะเดียวกัน บนช่องทางขายหลักทั้งกลุ่มร้านค้าแบบดั้งเดิมและร้านค้าสมัยใหม่ยังให้ความสำคัญ เนื่องจากในปัจจุบันยังเป็นช่องทางที่สร้างยอดขายหลักให้บริษัท ด้วยสัดส่วน 50:50 เน้นการจัดกิจกรรมและโปรโมชัน On-Site แบบต่อเนื่อง รวมทั้งการสร้างและรักษาความสัมพันธ์ที่ดีกับคู่ค้า
“สำหรับอีกหนึ่งช่องทางการจัดจำหน่ายที่จะมุ่งเน้นเชิงรุกมากขึ้น ได้แก่ ช่องทางตลาดต่างประเทศ ที่ปัจจุบันมีสัดส่วนยอดขายในต่างประเทศเป็น 20% ของยอดขายภาพรวมของบริษัท อีกทั้งมีความสัมพันธ์อันดีกับคู่ค้ามาอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น ในปี 2565 นี้ จึงมุ่งมั่นที่จะเพิ่มยอดขายในกลุ่มตลาดดังกล่าวนี้ ด้วยการขยายพาร์ตเนอร์ทางธุรกิจในพื้นที่ต่างประเทศ” นางปวิตา กล่าว
นางปวิตา กล่าวอีกว่า โดยมีกิจกรรมที่เกิดขึ้นในปีนี้ เป็น Showcase ของ ‘ปุ้มปุ้ย’ ในงาน THAIFEX Anuga-Asia 2022 ที่จัดขึ้นในวันที่ 24-28 พฤษภาคม 2565 ณ อิมแพค เมืองทองธานี ด้วยความตั้งใจที่จะให้เป็นพื้นที่เปิดโอกาสในการติดต่อกับคู้ค้าใหม่และคู่ค้าปัจจุบัน มุ่งเน้นความหลากหลายของสินค้าพร้อมทาน ปลากระป๋อง หอยลายกระป๋อง น้ำแกงพร้อมปรุง
นางปวิตา กล่าวย้ำว่า ขณะเดียวกันปุ้มปุ้ยขอเป็นพลังส่วนหนึ่งในการมุ่งมั่นผลักดันอาหารไทยสู่ตลาดโลก และนำเสนอภาพลักษณ์ใหม่ของปุ้มปุ้ย ภายใต้คอนเซ็ปต์ “POP-ART Museum : Full of Flavor, Full of Joy” สีสันสดใส อร่อยครบรส เพื่อแสดงถึงความจัดจ้านในรสชาติอาหารของผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ปุ้มปุ้ย ตอกย้ำความเป็นตัวจริงเรื่องรสชาติที่เป็นจุดแข็งของปุ้มปุ้ยมาอย่างยาวนานกว่า 40 ปี
โดยมีกิจกรรมพิเศษภายในงานร่วมกับ “เชฟพฤกษ์ สัมพันธวรบุตร” เชฟผู้เชี่ยวชาญด้านวัตถุดิบและการปรุงรส ที่จะมาสร้างสรรค์อาหารของปุ้มปุ้ยออกมาเป็นเมนูพิเศษทั้ง 9 เมนู สไตล์โอมากาเสะให้อร่อย ผ่านเซ็ตอาหาร “Pumpui’s RawMat Box” นำเสนอแนวคิดของการทำอาหารที่มีวัตถุดิบตั้งต้นที่ดีและมีรสชาติที่อร่อยของผลิตภัณฑ์ปุ้มปุ้ย มาต่อยอดไอเดีย เพื่อทำเป็นเมนูอาหารที่มีความหลากหลายขึ้น สร้างความสนุกและความอร่อยให้เกิดขึ้นกับมื้ออาหารในแต่ละมื้อของผู้บริโภค
“และไฮไลตฺที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 28 พ.ค.นี้ เชฟพฤกษ์ จะมาลงมือสาธิตการทำอาหารชุด “Pumpui’s RawMat Box” ให้ผู้ที่มาร่วมงานทุกท่านได้รับชมในรูปแบบสนามประลองการทำอาหารที่มีเวลาจำกัดเพียง 20 นาทีเท่านั้น โดยกิจกรรมจะมี 2 รอบเวลาคือ 15.00 น. และ 17.00 น.”
นางปวิตา กล่าวอีกว่าส่วนการสื่อสารกับลูกค้า ได้วางแผนปรับภาพลักษณ์ของ ‘ปุ้มปุ้ย’ ให้กลับมามีสีสัน ดูทันสมัยมากขึ้น เพื่อเพิ่มฐานลูกค้าใหม่ ซึ่งจะเน้นไปที่กลุ่ม Gen Y-Z เพื่อสร้างการรู้จักและได้ลองทานสินค้าของ ‘ปุ้มปุ้ย’ ผ่านสินค้าที่เป็น Hero Product ได้แก่ ปลาราดพริก ปลาทอด หอยลายปรุงรส และปลาในซอสมะเขือเทศ โดยจะใช้วิธีการสื่อสารผ่านช่องทาง Social Media ในทุกแพลตฟอร์ม ไม่ว่าจะเป็น Facebook, Instagram, Tiktok, Youtube และ LINE Official Account นอกเหนือจากนี้ การหันมามุ่งเน้นพัฒนาการให้บริการบนช่องทางออนไลน์ มีวัตถุประสงค์เพื่อใช้เป็นเครื่องมือในการสื่อสารทางตรงกับลูกค้าของ ‘ปุ้มปุ้ย’ ได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น สามารถเข้าถึงและสร้างความใกล้ชิดระหว่างลูกค้ากับ ‘ปุ้มปุ้ย’ ได้
สำหรับเป้าหมายของธุรกิจหลังจากนี้ นางปวิตา กล่าวว่า ในเส้นทางต่อไปของ ‘ปุ้มปุ้ย’ จะเป็นการก้าวเดินด้วยก้าวที่ใหญ่ขึ้น ‘ปุ้มปุ้ย’ จะต้องกลับมามีสีสันในตลาดอีกครั้ง ด้วยภาพลักษณ์ใหม่ของแบรนด์ที่ตั้งใจจะปรับโฉมให้ดูทันสมัยและสนุกสนาน ด้วยเป้าหมายที่อยากจะสร้างความสุขและความสนุกให้ทุกมื้ออาหาร ตามวิสัยทัศน์ของบริษัทที่ต้องการส่งต่ออาหารอร่อยให้ผู้บริโภค เพื่อให้เกิดรอยยิ้มไปอย่างกว้างไพศาล
“เป้าหมายของ ‘ปุ้มปุ้ย’ ไม่ได้คิดแค่เพียงการขายสินค้าเพียงอย่างเดียว การกลับมาครั้งนี้ เราอยากเป็นแบรนด์ที่เป็นมากกว่าการขายอาหาร ไม่ได้เป็นแค่ผลิตภัณฑ์ที่ผู้บริโภคซื้อทานแล้วจบ แต่ผู้บริโภคต้องอยากซื้อสินค้าของเรา เพราะได้รับถึงความรู้สึกพิเศษในการทานสินค้าของเรา นี่คือโจทย์ใหม่ของเราที่ค่อนข้างท้าทาย แต่เรามั่นใจมาก เพราะจุดแข็งของปุ้มปุ้ยคือคุณภาพของสินค้า และทีม R&D ของเรามีความเชี่ยวชาญในการพัฒนาสินค้า เมื่อ 2 จุดแข็งนี้มารวมกัน เชื่อว่าเราจะสามารถส่งมอบสินค้าที่สร้างรอยยิ้มให้ทุกมื้อของผู้บริโภคได้อย่างแน่นอน” นางปวิตากล่าว