วาว แฟคเตอร์ เผยไตรมาสแรกยอดขาย 151 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 58% ผลจากการเติบโตขึ้นของยอดขายในทุกแบรนด์ โดยเฉพาะ Domino’s Pizza ที่ยอดขายเพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันของปีที่ผ่านมาถึง 39 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 143 เนื่องจากแบรนด์เป็นที่รับรู้มากขึ้น รวมถึงการปูพรมขยายสาขาใหม่ ทั้งในกรุงเทพฯ และปริมณฑล และการตอบรับของชาบูแบรนด์ Kagonoya ที่สร้างการรับรู้ได้ดี
นายศิรัตน์ รัตนไพฑูรย์ กรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) บริษัท วาว แฟคเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ W เปิดเผยว่า บริษัทประสบความสำเร็จจากผลการดำเนินงานที่ผ่านมาด้วยการปรับกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจของบริษัท การขยายสาขาเพื่อเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภค และการสร้างแบรนด์ให้เข้มแข็งมากขึ้น ทำให้ยอดขายธุรกิจอาหารไตรมาส 1/65 มีจำนวน 151 ล้านบาท โตขึ้นจากไตรมาส 1/64 ถึง 55 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 58 ซึ่งเป็นผลจากการเติบโตขึ้นของยอดขายในทุกแบรนด์ โดยเฉพาะ Domino’s Pizza ที่ยอดขายเพิ่มขึ้นจากไตรมาสที่ 1/64 ถึง 39 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 143 เนื่องจากแบรนด์เป็นที่รับรู้มากขึ้น รวมถึงการปูพรมขยายสาขาใหม่ทั้งในกรุงเทพฯ และปริมณฑล นอกจากนี้ การตอบรับของชาบูแบรนด์ Kagonoya ที่สร้างการรับรู้ได้ดี รวมถึงการเปิดสาขาใหม่ 2 แห่ง ทำให้ยอดขายเพิ่มขึ้นจากไตรมาสแรกของปีก่อนถึง 12 ล้านบาท
สำหรับแผนการดำเนินงานครึ่งปีหลังของปี 2565 บริษัทยังคงผลักดันการเพิ่มยอดขายของทุกแบรนด์ ไม่ว่าจะเป็น Kagonoya, Le Beouf, BAKE WORKS และ Domino’s Pizza โดยจะขยายสาขา พัฒนารูปแบบร้าน พัฒนาสินค้าและวัตถุดิบ และปรับเมนูของทุกแบรนด์ให้มีความหลากหลายและดึงดูดความสนใจของลูกค้า โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Domino’s Pizza บริษัทตั้งเป้าจะเพิ่ม Market Share ในตลาด โดยเร่งการขยายสาขาให้ได้ประมาณ 50 สาขา ภายในไตรมาส 3/65 เพื่อให้ถึงจุดคุ้มทุนเร็วที่สุด โดยคาดว่าผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/2565 บริษัทจะยังคงรักษาความสามารถในการเติบโตของผลการดำเนินงานได้อย่างต่อเนื่อง จากทั้งปัจจัยหนุนเรื่องการผ่อนคลายมาตรการเดินทางเข้าประเทศ และความสามารถในการบริหารจัดการต้นทุน วัตถุดิบ บุคลากรและค่าใช้จ่ายให้เป็นไปตามแผนของบริษัท
ทั้งนี้ การร่วมลงทุนกับเชฟดีเค (Deepanker Khosla) ซึ่งเป็นการขยายขอบเขตธุรกิจแบบ Horizontal Integration ให้ครอบคลุมถึงธุรกิจจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่มในโรงแรม โดยสาขาแรกจะเปิดดำเนินการที่โรงแรม Somerset พระราม 9 มีความคืบหน้าเป็นอย่างมาก คาดว่าจะเปิดดำเนินการได้ภายในเดือนมิถุนายน 2565 นี้ เพื่อให้บริการ Breakfast, Lunch, Dinner, Room Service, Pool Bar และ Banquet สำหรับร้านอาหารในโรงแรมแบบครบวงจรโครงการอื่นๆ จะเริ่มก่อสร้างต่อไปตามลำดับ โดยสาขาถัดไปคาดว่าจะแล้วเสร็จในช่วงไตรมาส 3/65 ซึ่งจะเข้ามาหนุนให้ยอดขายบริษัทเติบโตมากขึ้นได้อย่างแน่นอน
