สำนักงาน ก.ล.ต.เตรียมปรับเกณฑ์ตั้งกรรมการ ผู้บริหาร ผู้ประกอบธุรกิจหลักทรัพย์และสัญญาซื้อขายล่วงหน้า เพื่อให้สามารถบริหารจัดการงานและความเสี่ยงได้อย่างมีประสิทธิภาพ สอดคล้องกับสภาพแวดล้อมและแนวทางการประกอบธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงไป และหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดี รวมถึงคุ้มครองประโยชน์ของผู้ลงทุน
สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับการปรับปรุงหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการแต่งตั้งกรรมการและผู้บริหารของผู้ประกอบธุรกิจหลักทรัพย์และสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (ผู้ประกอบธุรกิจ) เพื่อให้สามารถบริหารจัดการงานและความเสี่ยงได้อย่างมีประสิทธิภาพ สอดคล้องกับสภาพแวดล้อมและแนวทางการประกอบธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงไป และหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดี รวมถึงคุ้มครองประโยชน์ของผู้ลงทุนจากการใช้บริการของผู้ประกอบธุรกิจ
ทั้งนี้ เพราะสภาพแวดล้อมในปัจจุบันที่เปลี่ยนแปลงไป ไม่ว่าจะเป็นพัฒนาการด้านเทคโนโลยี ความผันผวนของตลาดเงินและตลาดทุนทั่วโลก ผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา 2019 (Covid-19) และพฤติกรรมของผู้บริโภค ผู้ประกอบธุรกิจได้ปรับตัวเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลง เช่น การปรับโครงสร้างบริษัทในกลุ่มโดยการใช้บุคลากรของธุรกิจภายในกลุ่มร่วมกัน เพื่อให้สามารถใช้ทรัพยากรได้อย่างมีประโยชน์สูงสุด ตอบสนองต่อการขยายตัวของกลุ่มธุรกิจ รวมทั้งผลิตภัณฑ์และบริการที่หลากหลายมากขึ้น
ก.ล.ต. จึงมีแนวคิดในการปรับปรุงหลักเกณฑ์การแต่งตั้งกรรมการและผู้บริหารของผู้ประกอบธุรกิจ โดยได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการกำกับตลาดทุน ในการประชุมครั้งที่ 3/2565 เมื่อวันที่ 19 เมษายน 2565 ซึ่งหลักเกณฑ์ดังกล่าวจะมีการกำหนดจำนวนบริษัทสำหรับกรรมการและผู้บริหารในการดำรงตำแหน่ง เช่น ผู้จัดการสามารถดำรงตำแหน่งในบริษัทได้เพียงแห่งเดียว และกรรมการสามารถดำรงตำแหน่งในบริษัทต่างๆ ได้ไม่เกิน 5 บริษัท เป็นต้น เพื่อให้ผู้บริหารของผู้ประกอบธุรกิจมีเวลาเพียงพอที่จะสามารถบริหารจัดการงานและความเสี่ยงของผู้ประกอบธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ สอดคล้องกับหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดี (Corporate Governance : CG Code) ของบริษัทจดทะเบียน รวมถึงคุ้มครองประโยชน์ของผู้ลงทุนจากการใช้บริการของผู้ประกอบธุรกิจ
ทั้งนี้ ก.ล.ต. ได้เผยแพร่เอกสารรับฟังความคิดเห็นในเรื่องดังกล่าวไว้ที่เว็บไซต์ ก.ล.ต. https://www.sec.or.th/TH/Pages/PB_Detail.aspx?SECID=804 ผู้ที่เกี่ยวข้องและผู้สนใจสามารถแสดงความคิดเห็นได้ที่เว็บไซต์ หรือทาง email : supitcha@sec.or.th titibhorn@sec.or.th หรือ pongpim@sec.or.th จนถึงวันที่ 2 มิถุนายน 2565
