นักลงทุนระดับตำนาน มาร์ก โมเบียส เตือนเทรดเดอร์อย่ารีบใช้กลยุทธ์ “buy the dip” คาดราคาบิตคอยน์ร่วงยาว ด้านโรเบิร์ต คิโยซากิ ผู้เขียน “พ่อรวยสอนลูก” เชื่อ BTC มีสิทธิดิ่งถึง 17,000 ดอลลาร์
โมเบียส ผู้ก่อตั้งโมเบียส แคปิตอล พาร์ตเนอร์ส เตือนเทรดเดอร์เรื่อง “buy the dip” หรือการช้อนซื้อคริปโตฯ เมื่อราคาร่วงรุนแรงในระยะสั้น ระหว่างการให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์ไฟแนนเชียล ไทมส์ เมื่อวันศุกร์ (13) รวมทั้งยังพูดถึงการคาดการณ์ราคาและแนวโน้มสำหรับบิตคอยน์
Bitcoin.com รายงานว่า ก่อนตั้งบริษัทของตัวเอง โมเบียสเคยเป็นรองประธานบริหารเทมเพิลตัน อิเมิร์จจิ้ง มาร์เก็ต กรุ๊ป และบริหารพอร์ตในตลาดเกิดใหม่มูลค่ากว่า 50,000 ล้านดอลลาร์
แม้ยอมรับว่า ก่อนหน้านี้เทรดเดอร์คริปโตฯ บางรายประสบความสำเร็จในการใช้กลยุทธ์ “buy the dip” แต่โมเบียส ย้ำว่า กลยุทธ์นี้จะไม่ได้ผลถ้าตลาดยังอยู่ในแนวโน้มขาลง สำหรับสถานการณ์ในขณะนี้ เขาเชื่อว่า ควรรอให้ราคาบิตคอยน์ (BTC) ร่วงแตะ 20,000 ดอลลาร์ เนื่องจากเมื่อถึงจุดนั้นราคาจะเด้งขึ้นก่อนไถลลงต่อโดยเป้าหมายต่อไปอยู่ที่ 10,000 ดอลลาร์
คำเตือนลักษณะนี้เริ่มมีให้เห็นบนโซเชียลมีเดียมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากราคาเหรียญเทอร์รายูเอสดี (UST) และเทอร์รา (LUNA) ล่ม โดย UST นั้นหลุดออกจากการตรึงกับดอลลาร์และเทรดอยู่ที่ 0.11 ดอลลาร์เมื่อปลายสัปดาห์ที่แล้ว ส่วน Luna เหลือไม่ถึง 1 เซ็นต์
ปีเตอร์ ชิฟฟ์ นักลงทุนที่คลั่งไคล้ทองคำ ทวีตเมื่อวันพฤหัสฯ (12) ว่า เทอร์รา ลูนาเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนที่สุดที่อธิบายว่า ทำไมถึงไม่ควร buy the dip
โมเบียสเป็นคนหนึ่งที่ไม่วางใจบิตคอยน์ โดยเมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว เขาเตือนว่า คริปโตฯ อาจระเบิด และย้ำว่า เรื่องนี้เป็นความเสี่ยงที่บรรดาธนาคารกลางประเทศต่างๆ ควรให้ความสนใจ
เดือนถัดมา เขาแนะนำนักลงทุนไม่ให้มองว่า คริปโตฯ เป็นเครื่องมือการลงทุน แต่ควรซื้อเก็งกำไรเล่นๆ เท่านั้น และกลับมาลงทุนจริงจังกับหุ้นแทน
ขณะเดียวกัน โรเบิร์ต คิโยซากิ ผู้เขียน “พ่อรวยสอนลูก” เชื่อว่า บิตคอยน์จะดิ่งถึง 17,000 ดอลลาร์ กระนั้นเขาเชื่อว่า คริปโตฯ มูลค่าสูงสุดสกุลนี้ “จะชนะ” เพราะอเมริกาอยู่ภายใต้การนำทางของสามลูกคู่ตัวตลก
พ่อรวยสอนลูก (Rich Dad Poor Dad) เป็นหนังสือที่คิโยซากิ แต่งร่วมกับชารอน เลชเตอร์ ที่ออกวางแผงในปี 1997 และติดอันดับเบสต์เซลเลอร์ของนิวยอร์กไทมส์กว่า 6 ปี หนังสือเล่มนี้มียอดขายกว่า 32 ล้านเล่ม โดยพิมพ์ออกมา 51 ภาษา และวางจำหน่ายในกว่า 109 ประเทศทั่วโลก
วันพฤหัสฯ ที่ผ่านมาที่ราคา BTC ลดลง 2% จากวันก่อนหน้า และ 20% ในรอบ 7 วันล่าสุด โดยเทรดอยู่ที่ราว 29,289 ดอลลาร์นั้น คิโยซากิ ทวีตว่า บิตคอยน์กำลังล่ม และเขากำลังรอให้ราคาหล่นทะลุ 20,000 ดอลลาร์ และทดสอบระดับต่ำสุดที่เขาเชื่อว่า อาจอยู่ที่ 17,000 ดอลลาร์จึงจะเริ่มช้อนซื้อ
ทั้งนี้ เมื่อเดือนมกราคม ผู้เขียนพ่อรวยสอนลูกบอกว่า เขาจะซื้อบิตคอยน์เพิ่มเมื่อราคารูดลงทดสอบแนวรับที่ 20,000 ดอลลาร์ แม้ราคาบิตคอยน์ร่วง แต่คิโยซากิเชื่อว่า “BTC จะชนะ” เขาทวีตเมื่อวันพุธที่แล้ว (11) อธิบายว่า เนื่องจากตอนนี้อเมริกาอยู่ภายใต้การนำทางของสามลูกคู่ตัวตลก ได้แก่ ประธานาธิบดีโจ ไบเดน เจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีคลัง และเจอโรม พาวเวล ประธานผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด)
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่คิโยซากิแสดงความไม่ไว้วางใจคณะบริหารของไบเดน วอลล์สตรีท และเฟด
เดือนที่แล้วนักเขียนชื่อดังผู้นี้บอกว่า เหตุการณ์ฟองสบู่แตกครั้งใหญ่ที่สุดกำลังจะเกิดขึ้น และโจมตีว่า รัฐบาลอเมริกัน วอลล์สตรีท และเฟดคือ “หัวขโมย” อีกทั้งสำทับว่า ภาวะเงินเฟ้อพุ่งขึ้นรุนแรงและเศรษฐกิจตกต่ำกำลังเกิดขึ้นพร้อมแนะนำให้นักลงทุนซื้อทองคำ เงิน และบิตคอยน์
เดือนมีนาคม คิโยซากิบอกว่าดอลลาร์กำลังจะระเบิด และโทษไบเดนเป็นตัวการทำให้เงินเฟ้อพุ่ง เขายังแนะนำให้ซื้อทองคำ เงิน บิตคอยน์ อีเธอเรียม และโซลานา
อย่างไรก็ตาม เขามองว่าแนวโน้มสำหรับคริปโตฯ ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ โดยเตือนว่า ในที่สุดรัฐบาลจะยึดคริปโตฯ ทั้งหมดและผนวกเข้ากับคริปโตฯ ของรัฐ กระนั้น เขาทิ้งท้ายว่าสงครามยูเครนทำให้คริปโตฯ กลายเป็นเครื่องมือการลงทุนที่ปลอดภัยกว่าเงินเฟียตจอมปลอมของรัฐบาล