สมาร์ทคอนกรีต เผยผลงานไตรมาสแรกรายได้รวม 137.71 ล้านบาท โต 11.14% กำไรสุทธิ 8.34 ล้านบาท ทิศทางไตรมาส 2/65 นโยบายขับเคลื่อนเศรษฐกิจภาครัฐเปิดประเทศ สร้างความมั่นใจผู้ประกอบการลงทุน หนุนความต้องการวัสดุก่อสร้าง-อิฐมวลเบาเพิ่ม เน้นกลยุทธ์การตลาด O2O ขยายช่องทางจำหน่ายครอบคลุมทั่วประเทศ ดันรายได้โตตามเป้า
นายรังสี ทีปกรสุขเกษม กรรมการผู้จัดการ บริษัท สมาร์ทคอนกรีต จำกัด (มหาชน) (SMART) ผู้ผลิตและจำหน่ายอิฐมวลเบาด้วยระบบอบไอน้ำภายใต้ความดันสูงเพื่อใช้ในงานก่อสร้างและงานกั้นผนังอาคาร เปิดเผยว่า ผลประกอบการไตรมาส 1 ปี 2565 บริษัทมีรายได้รวม 137.71 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 123.91 ล้านบาท จำนวน 13.80 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 11.14% และมีกำไรสุทธิ 8.34 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 14.53 ล้านบาท จำนวน 6.19 ล้านบาท หรือลดลง 42.62 %
ทั้งนี้ ผลประกอบการของบริษัทในส่วนรายได้รวมปรับตัวดีขึ้นจากความต้องการใช้งานวัสดุก่อสร้างอิฐมวลเบา-อิฐมวลเบาตกแต่งเพิ่มขึ้น จากการกลับมาก่อสร้างโครงการอสังหาริมทรัพย์แนวราบและแนวสูง โครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC ) เร่งการก่อสร้าง โรงงานอุตสาหกรรม อาคารสำนักงาน และมีคำสั่งซื้อต่อเนื่องจากโครงการภาครัฐที่เริ่มดำเนินการก่อสร้างในปีงบประมาณใหม่ เช่น อาคารสำนักงาน อาคารศาลยุติธรรม อาคารโรงพยาบาล และโครงการรถไฟฟ้าสายต่างๆ ขณะที่กำไรสุทธิปรับตัวลดลง เนื่องจากต้นทุนเชื้อเพลิงและวัตถุดิบในการผลิตปรับตัวสูงขึ้น
สำหรับทิศทางธุรกิจไตรมาส 2/65 แนวโน้มอยู่ในเกณฑ์ดีจากการกลับมาลงทุนโครงการใหม่ของนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ ขณะที่นโยบายการเปิดรับนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศ คาดว่าจะกระตุ้นให้ธุรกิจภาคบริการ การท่องเที่ยว และภาคอสังหาฯ เร่งปรับปรุง ต่อเติม และกลับมาเปิดดำเนินการโครงการ
อย่างไรก็ตาม บริษัทยังมีความเสี่ยงเรื่องของราคาต้นทุนที่อยู่ในระดับสูง จึงมีแผนปรับปรุงกระบวนการผลิตและบริหารจัดการต้นทุนการผลิต รวมถึงนำเทคโนโลยีมาใช้มากขึ้นเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ
นายรังสี กล่าวต่อว่า บริษัทเร่งพัฒนาและออกผลิตภัณฑ์ใหม่เพื่องานโครงสร้าง และงานตกแต่งภายใน-ภายนอกเพิ่ม รองรับความต้องการของตลาดที่เพิ่มขึ้น และช่วยแก้ปัญหาขาดแคลนแรงงาน เช่น อิฐมวลเบาขนาดใหญ่พิเศษ (Jumbo Block) อิฐมวลเบาขนาดเล็กพิเศษ ( Compack Block )
นอกจากนี้ เตรียมออกสินค้าบล็อกมวลเบาตกแต่งเพิ่ม 2 ลาย กระจายสินค้าผ่านช่องทางการจำหน่ายดีลเลอร์ กลุ่มร้านค้ารายย่อย และโมเดิร์นเทรด เช่น ไทวัสดุ โกบอลเฮาส์ ดูโฮม เพื่อข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายให้ครอบคลุมทั่วประเทศ ควบคู่กับการใช้กลยุทธ์ Online to Offline กระตุ้นการสร้างยอดขายให้เติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้