เหรียญ LUNA ของ Terra เป็นโปรโตคอลบล็อกเชนที่ใช้เหรียญคงที่แบบ fiat-pegged เพื่อขับเคลื่อนระบบการชำระเงินทั่วโลกที่มีเสถียรภาพด้านราคา ซึ่งทำหน้าที่รวมความเสถียรของราคา และการยอมรับสกุลเงิน fiat อย่างกว้างขวางกับ Bitcoin และเสนอค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมที่รวดเร็วและราคาไม่แพง แต่จากสถานการณ์ความเลวร้ายของระบบเศรษฐกิจที่ FED ปรับนโยบายอัตราดอกเบี้ย เพื่อแก้ปัญหาเงินเฟ้อที่ทวีความรุนแรงเพิ่มขึ้น กลับกลายเป็นความเลวร้ายอย่างหนักต่ออุตสาหกรรมคริปโตฯ
จากรายงานของ economictimes.indiatimes ระบุถึงสถานการณ์ท่ามกลางการความเลวร้ายที่นักลงทุนในตลาด crypto อยู่ในภาวะกระอักเลือดโดย LUNA ของ Terra ซึ่งเป็นหนึ่งในเหรียญ crypto ปรับตัวลดลงอย่างรุนแรงมากที่สุด โดยมูลค่าด้านราคาหายไปกว่า 98% ภายในระยะเวลา 3 วัน หรือกว่า 70% ในเวลาเพียง 24 ชั่วโมง
สิ่งที่น่าสนใจคราวนี้เนื่องจาก LUNA ไม่ใช่เหรียญโทเคนขนาดเล็ก แต่เป็นองค์ประกอบใน 10 อันดับแรกของ crypto token หากเราไม่รวมเหรียญ stablecoin ที่ตรึงค่าเงินดอลลาร์ไว้ โดยโทเคนดั้งเดิมของบล็อกเชน Terra คือ "LUNA" นั้นร่วงลงแตะ 31.89 บาท ณ ช่วงเวลาที่เขียน ( 20.09 น. วันที่ 11 พ.ค.2565 ) จากราคาสูงสุดในรอบ 3 วัน โดยวันที่ 9 พ.ค.2565 เวลา 01.39 น. เหรียญ LUNA ยังเคลื่อนไหวอยู่ที่ 2,322.56 บาท ซึ่งเป็นราคาสูงสุดในรอบ 3 วัน ก่อนที่จะปรับตัวลดลงอย่างรุนแรงกว่า 98% ภายในระยะเวลาเพียง 3 วันเท่านั้น
ขณะที่ Will Comyns นักวิจัยจาก Messari กล่าวว่า LUNA ซึ่งทำหน้าที่เป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันเพื่อรักษาค่าเงินดอลลาร์ของ UST ตามนโยบายการเงินที่ยืดหยุ่นของ Terra ดังนั้น เมื่อค่า UST สูงกว่า $1.00 โปรโตคอล Terra จะกระตุ้นให้ผู้ใช้เบิร์น LUNA และ mint UST และในทางกลับกัน เมื่อราคาของ UST ลดลงต่ำกว่า $1.00 โปรโตคอลจะให้รางวัลแก่ผู้ใช้สำหรับการเผา UST และ mint LUNA ดังนั้น ในระหว่างการลดอุปทานของ UST การประเมินมูลค่าของ LUNA ควรลดลง ในทำนองเดียวกัน เมื่ออุปทานของ UST ขยายตัว การประเมินมูลค่าของ LUNA จะเพิ่มขึ้น
ขณะที่ TerraUSD (UST) ซึ่งเป็นเหรียญ Stablecoin ซึ่งสูญเสียการตรึงเงินดอลลาร์เป็นครั้งที่ 2 ในเวลาเพียง 3 วัน โดยตกลงไปต่ำสุดที่ $0.65 เนื่องจากราคาของ LUNA 'depegged' ของ UST
ด้าน Ganesh Kompella หุ้นส่วนด้านการลงทุนของ Tykhe Block Ventures กล่าวว่า "การร่วงลงอย่างรุนแรงของ LUNA และ UST เป็นเรื่องมหัศจรรย์ และมีคลังสำรองที่ประกอบด้วย Bitcoin ซึ่งดูเหมือนจะไม่ค่อยดีนัก ซึ่งคงได้แต่หวังว่าเวลาจะเป็นปาฏิหาริย์ช่วยเยียวยาให้ฟื้นตัวกลับขึ้นมา หรืออาจจะไม่กลับขึ้นมาอีกก็ได้"
ทั้งนี้ การลดลงนั้นสูงชันมาก จนมูลค่าตลาดของ Terra ลดลงต่ำกว่ามูลค่าตลาดของเหรียญที่มีเสถียรภาพ UST ตามข้อมูลจาก Coinmarketcap แม้จะร่วงลงมาอยู่ที่อันดับ 14 ท่ามกลางโทเคน crypto ที่ใหญ่ที่สุด
หลังจากการตกต่ำครั้งล่าสุด m-cap ของ LUNA ลดลงเหลือ 10 พันล้านดอลลาร์ ในขณะที่ US Terra (UST) กำลังควบคุม m-cap ที่เหนือกว่ามากกว่า 16.36 พันล้าน
ขณะที่ Raj A Kapoor ผู้ก่อตั้ง India Blockchain Alliance กล่าวว่า ในช่วงไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมา มีการชำระบัญชีประมาณ 830 ล้านดอลลาร์จากเศรษฐกิจ crypto และ Terra ก็ไม่มีข้อยกเว้น
"นี่เป็นการตอบสนองโดยตรงต่อ Luna Foundation ที่ทำให้ Bitcoin และ Ethereum Wallets ว่างเปล่า" เขากล่าว
โทเคน LUNA จะถูก 'เผา' เมื่อ stablecoin เบี่ยงเบนไปจากตรึง และในขณะที่พยายามรักษาราคาไว้ที่ 1 ดอลลาร์ เพื่อป้องกันไม่ให้ถูกเผามากขึ้น อันที่จริงแล้วราคาก็ร่วงลงไปอีก Kapoor กล่าว
ขณะที่ Edul Patel ซีอีโอและผู้ก่อตั้งร่วมของ Mudrex สะท้อนน้ำเสียงเดียวกันว่า มีหลายปัจจัยที่อยู่เบื้องหลังการลดลงนี้ ซึ่งรวมถึงช่วงเบต้าที่สูงและการขนถ่ายจากวาฬตัวใหญ่ ซึ่งส่งผลกระทบต่อความเสถียรของ LUNA
ในทางกลับกัน ปริมาณของ Terra อยู่ในระดับมหึมา เพิ่มขึ้นประมาณ 160% เนื่องจากโทเคนมูลค่ากว่า 12.12 พันล้านดอลลาร์ได้แลกเปลี่ยนกันในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ที่น่าสนใจคือมีมากกว่ามูลค่าตามราคาตลาดในปัจจุบัน
ขณะที่ Luna Foundation Guard ได้จัดสรรสินทรัพย์สำรอง 1.5 พันล้านดอลลาร์เพื่อสนับสนุนระบบการทำงานของ UST และการรักษาสำรองของ Bitcoin ตลอดจน cryptocurrencies อื่นๆ เพื่อช่วยรักษาเสถียรภาพ แต่ดูเหมือนว่าวิธีแก้ปัญหาดังกล่าวนั้นไม่ได้ช่วยยับยั้งการปรับตัวของเหรียญได้มากนัก
"Terra พยายามใช้ Bitcoin ซึ่งเป็นเหมือนหีบสมบัติที่ล้ำค่าในการรักษาเสถียรภาพของอัลกอริธึม Stablecoin UST เอาไว้ ซึ่งทันทีที่ BTC ลดลง LUNA ของ Terra ก็ต้องเผชิญกับแรงกดดันจากความผันผวนและการขายครั้งใหญ่” Patel กล่าว
ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญด้านตลาดคริปโตฯ กล่าวว่า เป็นการดีกว่าที่จะหลีกเลี่ยงการลงทุนในช่วงเวลาปัจจุบันนี้ และควรศึกษาความเสี่ยงข้างนอกสนามการลงทุนในช่วงเวลานี้ ไม่ควรกระโดดเข้ามาและลงทุนอย่างหุนหันพลันแล่น เนื่องจากตลาดอยู่ในภาวะที่ตกต่ำอย่างรุนแรงสำหรับนักลงทุนที่มีความเสี่ยงสูง มันเป็นโอกาสที่ดีในการหาค่าเฉลี่ย ส่วนผู้ที่มีความเสี่ยงน้อยกว่าควรสังเกตการเคลื่อนไหวของตลาดอย่างใกล้ชิด
นอกจากนี้ Kapoor กล่าวว่า "LUNA Terra ยังคงเหมาะกับการลงทุน แต่ควรพิจารณาถึงเวลาในการลงทุนและความเสี่ยงที่ต้องระมัดระวัง แม้ว่า Terra จะยังคงมีศักยภาพพอที่จะเติบโตได้ เนื่องจากได้ขยายพื้นที่ปฏิบัติการออกไปนอกเอเชีย แต่จากการที่ตลาดกลายเป็นขาลง ซึ่งยังไม่มีใครสามารถประเมินได้ว่า LUNA Terra จะลงไปต่ำสุดแค่ไหน” เขากล่าวเสริม
อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ทุกคนที่คัดค้านหรือเห็นด้วยกับโครงการ Stablecoin ของ Terra ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากเงินสำรอง Bitcoin จำนวนมาก นักลงทุนบางคนวิพากษ์วิจารณ์เรื่องนี้ โดยคาดว่าจะเกิดความล้มเหลวในโครงการดังกล่าว
