xs
xsm
sm
md
lg

ทริสเรทติ้งจัดอันดับเครดิตหุ้นกู้ “บ.เงินติดล้อ” ที่ “A” แนวโน้ม “Stable”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันชุดปัจจุบันของ บริษัท เงินติดล้อ จำกัด (มหาชน) ที่ระดับ “A” ด้วยแนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” พร้อมทั้งจัดอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันชุดใหม่ในวงเงินไม่เกิน 300 ล้านบาท ไถ่ถอนภายใน 1 ปีของบริษัทที่ระดับ “A” ด้วยเช่นกัน โดยบริษัทจะนำเงินที่ได้จากการออกหุ้นกู้ชุดใหม่นี้ไปใช้ในการดำเนินกิจการ ทั้งนี้ อันดับเครดิตดังกล่าวได้รับการปรับเพิ่มขึ้นมา 1 ขั้นจากอันดับเครดิตเฉพาะ (Stand-alone Credit Profile - SACP) ของบริษัทซึ่งอยู่ที่ระดับ “a-” จากการยกระดับสะท้อนถึงมุมมองของทริสเรทติ้งที่มีต่อสถานะของบริษัทซึ่งเป็นบริษัทลูกเชิงกลยุทธ์ของธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) โดยคำนึงถึงการที่บริษัทได้รับการสนับสนุนทั้งในด้านธุรกิจและการเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา

นอกจากนี้ อันดับเครดิตเฉพาะของบริษัทสะท้อนถึงสถานะทางการตลาดที่แข็งแกร่งในการเป็นหนึ่งในผู้ประกอบการรายใหญ่ในธุรกิจสินเชื่อที่มีทะเบียนรถเป็นประกันและธุรกิจนายหน้าประกันภัย นอกจากนี้ ปัจจัยอื่นๆ ที่ทริสเรทติ้งใช้ประกอบการพิจารณาอันดับเครดิต ยังรวมถึงการที่บริษัทมีฐานทุนที่แข็งแกร่ง คุณภาพสินทรัพย์ที่ดีจากการมีแนวทางการบริหารความเสี่ยงที่ระมัดระวัง รวมถึงการมีแหล่งเงินทุนและสภาพคล่องที่เพียงพอ อย่างไรก็ตาม อันดับเครดิตก็มีข้อจำกัดในระดับหนึ่งจากการแข่งขันที่รุนแรงในธุรกิจสินเชื่อเพื่อการอุปโภคบริโภค

ด้านผลการดำเนินงานของบริษัทเป็นไปในทิศทางที่ทริสเรทติ้งประมาณการไว้ โดย ณ สิ้นปี 2564 บริษัทมีพอร์ตสินเชื่อคงค้างอยู่ที่ระดับ 6.2 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 19.7% เมื่อเทียบกับยอดสินเชื่อ ณ สิ้นปีก่อนหน้า บริษัทมีรายได้สุทธิอยู่ที่ 3.2 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 31.2% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้วเนื่องจากบริษัทมีรายได้ดอกเบี้ยมากขึ้นจากการขยายสินเชื่อเพิ่มขึ้นอย่างมากและมีรายได้ค่าธรรมเนียมที่เพิ่มขึ้นจากธุรกิจประกันภัย ในขณะที่คุณภาพสินเชื่อที่ได้รับการควบคุมเป็นอย่างดีก็ช่วยให้บริษัทมีค่าใช้จ่ายสำรองสำหรับผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นที่ลดลง สำหรับอัตราส่วนสินเชื่อที่มีการด้อยค่าด้านเครดิตต่อสินเชื่อรวมของบริษัทนั้นปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ระดับ 1.19% ณ สิ้นปี 2564 จากระดับ 1.66% ณ สิ้นปี 2563 โดยเป็นผลเนื่องมาจากสาเหตุ 2 ประการคือ การลดลงของสินเชื่อที่มีการด้อยค่าด้านเครดิตที่เกิดขึ้นใหม่ และฐานเงินให้สินเชื่อที่ขยายตัวเพิ่มขึ้นในปี 2564 ทั้งนี้ อัตราส่วนค่าเผื่อผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นต่อเงินให้สินเชื่อที่มีการด้อยค่าด้านเครดิตของบริษัทยังคงอยู่ในระดับสูงที่ 357% เมื่อเทียบกับระดับ 325% ณ สิ้นปี 2563

ส่วนฐานทุนของบริษัทยังคงอยู่ในระดับที่เข้มแข็งและเป็นปัจจัยด้านบวกสำหรับอันดับเครดิต ทั้งนี้ ณ สิ้นปี 2564 บริษัทมีอัตราส่วนเงินทุนที่ปรับความเสี่ยงเพิ่มสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยอยู่ที่ระดับ 35.8% จากระดับ 22.6% ณ สิ้นปี 2563 ซึ่งได้รับอานิสงส์จากเงินที่ได้จากการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนใหม่แก่ประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) เมื่อเดือนพฤษภาคม 2564 เมื่อพิจารณาจากการคาดการณ์การเติบโตของพอร์ตสินเชื่อของบริษัทที่ระดับประมาณ 15% ต่อปีแล้ว ทริสเรทติ้งประมาณการว่าอัตราส่วนเงินทุนที่ปรับความเสี่ยงของบริษัทจะอยู่ในระดับที่เกินกว่า 33% ในช่วง 2-3 ปีข้างหน้า

แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” อยู่บนพื้นฐานการคาดการณ์ของทริสเรทติ้งว่าบริษัทจะยังคงรักษาฐานทุนให้อยู่ในระดับที่แข็งแกร่งและรักษาสถานะผู้นำในตลาดสินเชื่อทะเบียนรถเอาไว้ได้ ในขณะที่ยังคงมีผลประกอบการทางการเงินที่น่าพึงพอใจต่อไป นอกจากนี้ ทริสเรทติ้งยังคาดว่าบริษัทจะสามารถควบคุมคุณภาพสินทรัพย์ให้อยู่ในระดับที่ยอมรับได้อีกด้วย
กำลังโหลดความคิดเห็น