“กัลฟ์” ผนึก “ไบแนนซ์” ลุยคริปโตฯ ไทย-สหรัฐฯ

“กัลฟ์” ส่งบริษัทลูกเซ็นสัญญาร่วมทุน “ไบแนนซ์” ถือหุ้น 51% ลุยธุรกิจซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลครบวงจรในไทย และลงทุนสกุลเงินดิจิทัล BNB ของระบบนิเวศทางธุรกิจกลุ่มไบแนนซ์ มูลค่า 50 ล้านเหรียญสหรัฐ ปูทางขึ้นเป็นผู้นำด้านโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล พร้อมส่ง “กัลฟ์ ฮ่องกง” ลงทุน 20 ล้านเหรียญสหรัฐ ซื้อหุ้นบุริมสิทธิ “Binance.US” ศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลในสหรัฐฯ

น.ส.ยุพาพิน วังวิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 13 เม.ย.2565 ที่ผ่านมาบริษัท กัลฟ์ อินโนวา จำกัด (Gulf Innova) บริษัทย่อยที่ GULF ถือหุ้นในสัดส่วน 100% ได้เข้าลงนามในสัญญาผู้ถือหุ้น (Shareholders’ Agreement) กับ Binance Capital Management Co.,Ltd. (Binance Capital Management) เพื่อจัดตั้งบริษัทร่วมทุนในการดำเนินธุรกิจศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลในประเทศไทย โดยกัลฟ์ อินโนวา ถือหุ้นในบริษัทร่วมทุน 51% และ Binance Capital Management จะถือหุ้น 49% ตามลำดับ ซึ่งภายหลังที่บริษัทร่วมทุนได้จัดตั้งแล้วเสร็จ บริษัทร่วมทุนนั้นจะดำเนินการขอใบอนุญาตศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล และใบอนุญาตอื่นๆ กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป

ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 17 ม.ค.2565 GULF ได้แจ้งให้ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ว่า บริษัท กัลฟ์ อินโนวา จำกัด ได้ลงนามบันทึกความร่วมมือกับ Binance เพื่อร่วมกันพัฒนาธุรกิจศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล (Digital Asset Exchange) ในประเทศไทยและธุรกิจอื่นที่เกี่ยวเนื่อง

ขณะเดียวกัน เพื่อเป็นการเข้าไปมีส่วนร่วมในระบบนิเวศทางธุรกิจของ Binance และเพื่อเป็นการต่อยอดในธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัล Gulf International Investment Limited บริษัทย่อยที่ GULF ถือหุ้นในสัดส่วน 100% ยังได้ลงทุนในสกุลเงินดิจิทัล BNB ซึ่งเป็นสกุลเงินดิจิทัลหลัก มูลค่า 50 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งเป็นสกุลเงินดิจิทัลหลัก (Native Coin) ของระบบนิเวศทางธุรกิจของ Binance (BNB Chain Ecosystem) ใช้เป็น utility token เพื่อใช้งาน Application ที่อยู่บน BNB Chain ซึ่งนับเป็นบล็อกเชนที่ใหญ่ที่สุดของโลกตามจำนวนผู้ใช้งาน (Active Users) ด้วยค่าธรรมเนียมที่ต่ำและมีความสามารถในการจัดการธุรกรรมได้อย่างรวดเร็ว ส่งผลให้จำนวนการทำธุรกรรมผ่าน BNB Chain เติบโตอย่างก้าวกระโดด นำไปสู่ความต้องการ (demand) การใช้สกุลเงิน BNB ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

“บริษัทเชื่อมั่นว่าความร่วมมือในหลายระดับกับ Binance ซึ่งเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยี Blockchain Infrastructure ระดับโลก สอดคล้องกับเป้าหมายของบริษัทที่ต้องการเป็นผู้นำในด้านโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัล และเปิดโอกาสให้บริษัทสามารถขยายธุรกิจไปสู่ธุรกิจอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องได้ในอนาคต” น.ส.ยุพาพินกล่าว

น.ส.ยุพาพิน กล่าวว่า Gulf International Investment (Hong Kong) Limited (Gulf HK) บริษัทย่อยที่ GULF ถือหุ้นในสัดส่วน 100% ยังได้เข้าลงทุนในหุ้นบุริมสิทธิใหม่ (Series Seed Preferred Stock) ที่ออกโดย BAM Trading Services Inc. ซึ่งเป็นผู้ประกอบธุรกิจศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล (Digital Asset Exchange) ในสหรัฐฯ ภายใต้ชื่อ Binance.US โดย gulf HK ได้เข้าลงทุนรวม 20 ล้านเหรียญสหรัฐ จากเงินระดมทุนทั้งหมด 200 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือคิดเป็นสัดส่วนการถือหุ้นประมาณ 0.4 ของมูลค่ารวมของ Binance.US ก่อนเพิ่มทุน (Pre-money valuation) ทั้งสิ้นเป็นจำนวน 4,500 ล้านเหรียญสหรัฐ

โดย Binance.US ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2562 และเป็นผู้นำในธุรกิจศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล ที่มีผู้ใช้จำนวนหลายล้านคน และมีปริมาณการซื้อขายมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปัจจุบัน Binance.US ได้รับใบอนุญาตในการประกอบธุรกิจศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลในสหรัฐฯ จำนวน 45 รัฐ และ 7 ดินแดน โดยมีเป้าหมายที่จะเปิดให้บริการทั่วประเทศสหรัฐฯ ภายในสิ้นปี 2565

ทั้งนี้ Binance.US จะนำเงินจากการระดมทุนในครั้งนี้ไปใช้ในการเพิ่มจำนวนบุคลากร ทำการตลาดเพื่อสร้างผลตอบแทน เพิ่มความหลากหลายของผลิตภัณฑ์และลงทุนซื้อกิจการที่มีศักยภาพในอนาคต โดยมีแผนจะเสนอขายหุ้นให้แก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (Initial Public Offering: IPO) ในอีก 2-3 ปีข้างหน้า ดังนั้น การลงทุนใน Binance.US จึงเป็นการเปิดโอกาสให้บริษัทมีส่วนร่วมในธุรกิจศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลที่มีจำนวนผู้ใช้งานเติบโตเร็วที่สุดในโลก และยังสามารถรับรู้มูลค่าการลงทุนที่เพิ่มขึ้นภายหลังจากที่ Binance.US เข้าจดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์อีกด้วย