ธอส.พร้อมเป็นเสาหลักดูแลภาคอสังหาฯ ประกาศตรึงอัตราดอกเบี้ยให้นานที่สุด เพิ่มโอกาสปล่อยสินเชื่อปีนี้อาจะสูงถึง 2.7 แสนล้านบาท เผยแนวโน้มราคาบ้านใหม่ปรับขึ้นตามต้นทุน
นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยถึงภาพรวมการปล่อยสินเชื่อที่อยู่อาศัยของธอส.ว่า ผลงานในไตรมาส 1 ปี 2565 สามารถทำได้อยู่ที่ 6.19 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 32.34% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งในสถานการณ์ทั่วไป ตัวเลขการปล่อยสินเชื่อดังกล่าวถือว่าอยู่ในระดับที่ต่ำที่สุด และหากคิดตลอด 4 ไตรมาส น่าจะได้เป้าปล่อยสินเชื่ออยู่ที่ 2.22 แสนล้านบาท แต่จากทิศทางเศรษฐกิจ และภาคอสังหาริมทรัพย์ที่เริ่มส่งสัญญาณการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ภาครัฐมีมาตรการเข้ามาพยุงและกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ การตรึงอัตราดอกเบี้ยจะเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยทำให้การปล่อยสินเชื่อของ ธอส. ในปีนี้โตได้สูงกว่าเป้าหมาย อย่างต่ำที่ 2.4 แสนล้านบาท หรือสูงสุดที่ 2.7 แสนล้านบาท
"แนวโน้มอัตราดอกเบี้ยในตลาดโลกเริ่มส่งสัญญาณการปรับขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งรัฐบาล และธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ล่าสุด คณะกรรมการนโยบายการเงิน หรือ กนง. ส่งสัญญาณจะตรึงอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 0.5 เพราะปัจจัยภายในประเทศ ธอส. ยืนยันจะตรึงอัตราดอกเบี้ยให้นานที่สุด เพราะปัจจัยภายในประเทศยังไม่อยู่ในช่วงที่เหมาะสมจะปรับขึ้นดอกเบี้ย โดยหลายฝ่ายประเมินว่าอัตราดอกเบี้ยของไทยจะขยับขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปี 65 ซึ่งในส่วนของ ธอส. เพื่อช่วยพยุงภาคอสังหาริมทรัพย์ ขณะเดียวกัน โปรดักต์สินเชื่อของ ธอส.จะเป็นแบบดอกเบี้ยคงที่ 1-2 ปี ซึ่งทางธนาคารยืนยันจะตรึงอัตราดอกเบี้ยให้นานที่สุด" นายฉัตรชัย กล่าว
สำหรับภาพรวมกำลังซื้อในภาคอสังหาริมทรัพย์นั้น นายฉัตรชัย กล่าวว่า เป็นตลาดของคนที่มีความพร้อม ขณะที่ผู้มีรายได้น้อย ในรอบ 2 ปีที่ผ่านมา ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทำให้รายได้ลดน้อยลง แต่ทางธนาคารได้เข้าไปช่วยเหลือผ่านมาตรการการตรึงอัตราดอกเบี้ย ปล่อยสินเชื่อในวงเงินเท่าเดิม อย่างไรก็ดี การปรับขึ้นของราคาอสังหาริมทรัพย์เป็นสิ่งที่เราควบคุมไม่ได้ ซึ่งที่ผ่านมา การจัดโปรโมชันราคาพิเศษจำนวนมาก และการปล่อยสินเชื่อของ ธอส.ประมาณ 2 แสนล้านบาทต่อปี ทำให้ดูดซับสต๊อกบ้านไปหมดแล้ว ดังนั้น บ้านสร้างใหม่มีสิทธิราคาปรับขึ้น ซึ่ง ธอส.จะเข้าไปช่วยเรื่องดอกเบี้ยให้ผู้มีรายได้น้อย
"ในเรื่องการปฏิเสธสินเชื่อนั้น แบงก์พาณิชย์ต้องเลือกที่มั่นคง ภายใต้สถานการณ์เกิดวิกฤตโควิด-19 ซึ่งในส่วนของ ธอส.บริหารความเสี่ยงในการปล่อยสินเชื่อ แต่ด้วยเป็นสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยจริง ทำให้ตัวเลขหนี้เสียต่ำ"