xs
xsm
sm
md
lg

REIC คาดอสังหาฯ ภูเก็ตฟื้นครึ่งปีหลัง ห่วงสงครามกระทบกำลังซื้อคอนโดฯ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ เปิดเผยผลสำรวจภาพรวมตลาดที่อยู่อาศัยของภาคใต้ ประกอบด้วย จังหวัดนครศรีธรรมราช ภูเก็ต สงขลา และสุราษฎร์ธานี ในช่วงครึ่งหลังปี 2564 พบว่าภาพรวมตลาดมีการชะลอตัวอย่างมากในด้านอุปทาน โดยมีหน่วยเปิดขายใหม่จำนวน 1,865 หน่วย ลดลงร้อยละ -11.4 คิดเป็นมูลค่า 7,007 ล้านบาท ลดลงร้อยละ -2.9 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ในส่วนของอุปสงค์ พบว่า หน่วยขายได้ใหม่ ทั้งจำนวนหน่วยและมูลค่าเพิ่มขึ้นโดยมีจำนวน 2,005 หน่วย เพิ่มขึ้นร้อยละ 10.6 คิดเป็นมูลค่า 7,922 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 18.9

และหากพิจารณาอัตราดูดซับทั้งบ้านจัดสรรและอาคารชุด พบว่า มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 1.7 ในช่วงครึ่งหลังปี 2563 เป็นร้อยละ 1.9 ในช่วงเดียวกันของปี 2564 โดยเป็นการเพิ่มขึ้นของอัตราดูดซับในกลุ่มที่อยู่อาศัยแนวราบ และลดลงในกลุ่มโครงการอาคารชุด

ดร.วิชัย วิรัตกพันธ์ ผู้ตรวจการธนาคารอาคารสงเคราะห์ และรักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ (REIC) กล่าวถึงแนวโน้มที่อยู่อาศัยเปิดขายใหม่จะเข้าสู่ตลาดในปี 2565 คาดมีจำนวน 6,030 หน่วย เพิ่มขึ้นร้อยละ 85 มูลค่ารวมประมาณ 25,849 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 101.7 ประกอบด้วย โครงการบ้านจัดสรรประมาณ 3,105 หน่วย มูลค่ารวมประมาณ 12,218 ล้านบาท และ โครงการอาคารชุดประมาณ 2,925 หน่วย มูลค่ารวมประมาณ 13,631 ล้านบาท

ในส่วนของหน่วยขายได้ใหม่ ศูนย์ข้อมูลฯ คาดการณ์ว่า ในปี 2565 ตลาดที่อยู่อาศัยในภาคใต้จะมีหน่วยขายได้ใหม่จำนวนประมาณ 5,495 หน่วย เพิ่มขึ้นร้อยละ 56.4 มูลค่ารวมประมาณ 22,922 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 67.7 ประกอบด้วยโครงการบ้านจัดสรรประมาณ 2,768 หน่วย มูลค่ารวมประมาณ 10,148 ล้านบาท โครงการอาคารชุดประมาณ 2,72 หน่วย เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 158.2 มูลค่ารวมประมาณ 12,774 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 188.4

ด้านหน่วยเหลือขายคาดการณ์ว่าในปี 2565 จะมีหน่วยเหลือขายในตลาดจำนวนประมาณ 15,319 หน่วย ลดลงร้อยละ -0.5 มูลค่ารวมประมาณ 65,623 ล้านบาท ลดลงร้อยละ -4.0 ประกอบด้วยโครงการบ้านจัดสรรประมาณ 9,907 หน่วย มูลค่ารวมประมาณ 37,904 ล้านบาท และโครงการอาคารชุดประมาณ 5,412 หน่วย มูลค่ารวมประมาณ 27,719 ล้านบาท ซึ่งหน่วยเหลือขายส่วนใหญ่จะยังคงอยู่ในจังหวัดภูเก็ตมากที่สุด

“อย่างไรก็ตาม ตลาดที่อยู่อาศัย 4 จังหวัดสำคัญในภาคใต้ โดยภาพรวมการขายอยู่ในสถานการณ์ชะลอตัว ดังนั้น เมื่อมีสินค้าใหม่เติมเข้ามาในตลาดต้องเพิ่มความระมัดระวังว่า จำนวนสินค้าเหลือขายจะเพิ่มขึ้นตาม โดยศูนย์ข้อมูลฯ คาดการณ์ว่าอัตราดูดซับของ 4 จังหวัดจะดีขึ้นในช่วงปลายปี 2565"

ทั้งนี้ เนื่องจากจังหวัดภูเก็ตกำลังซื้อส่วนหนึ่งมาจากชาวต่างชาติ กลุ่มนี้จะได้รับผลกระทบโดยตรงจากภาวะสงคราม ซึ่งอาจส่งผลให้จำนวนหน่วยขายได้ใหม่ต่ำกว่าประมาณการ โดยเฉพาะโครงการอาคารชุดที่ยังคงมีปัญหาด้านการขาย เมื่อมีสินค้าใหม่เข้าตลาดย่อมมีผลต่ออัตราดูดซับ และอาจมีผลให้อัตราดูดซับต่ำกว่าประมาณการที่ประเมินว่าจะดีขึ้นในช่วงปลายปี 2565 โดยคาดว่าจะมีที่อยู่อาศัยเหลือขายในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตจำนวน 7,844 หน่วย เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.3 มูลค่า 40,084 ล้านบาท ลดลงร้อยละ -23.7 แต่หากสภาวะสงครามยืดเยื้อ ศูนย์ข้อมูลฯ จำเป็นต้องปรับค่าประมาณการใหม่อีกครั้ง
กำลังโหลดความคิดเห็น