ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จัดงานสัมมนาออนไลน์ Krungsri Business Talk ภายใต้หัวข้อ Next Normal Trends and Metaverse for Business เพื่อลูกค้าธุรกิจของกรุงศรี รวมถึงผู้ประกอบการที่สนใจ ผู้เชี่ยวชาญสาขาต่างๆ ร่วมแบ่งปันอัปเดตเทรนด์ใหม่ๆ ในโลกดิจิทัลและการตลาดให้ผู้ประกอบการได้นำไปปรับใช้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและการแข่งขันในโลกธุรกิจ
โดยมี น.ส.ดวงกมล ลิมป์พวงทิพย์ ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านลูกค้าธุรกิจ SME ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) และ น.ส.มันตินี อัครเสริญ ผู้บริหารสายงานการตลาดลูกค้าธุรกิจ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) ให้การต้อนรับ
นายกล้า ตั้งสุวรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไวซ์ไซท์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำในการให้บริการด้านการวิเคราะห์ข้อมูลโซเชียลและข้อมูลการตลาด หนึ่งในผู้เชี่ยวชาญที่มาร่วมแบ่งปันมุมมอง ได้กล่าวถึงเทรนด์ผู้บริโภคในโลกโซเชียลปี 2565 ที่ต้องจับตาคือ 1) Drama is a new normal ที่มองว่าประเด็นร้อนๆ ในโลกโซเชียลจะกลายเป็นสิ่งที่เกิดบ่อยจนเป็นปกติ ธุรกิจที่จับกระแสได้ทันและเลือกนำมาเปลี่ยนเป็นโอกาสได้จะได้เปรียบในการแข่งขัน 2) Embrace consumer creativity คือการนำความคิดสร้างสรรค์ของผู้บริโภคมาปรับใช้ในธุรกิจเพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคเอง 3) Differentiate Identity คือการสร้างตัวตนให้แบรนด์ที่แตกต่าง กล้าแหวกแนวแบบที่แบรนด์ใหญ่ไม่กล้าทำ 4) Change of Loyalty คือการสนับสนุนของลูกค้าที่เปลี่ยนจากความภักดีในตัวสินค้า ไปสู่การภักดีและชื่นชอบในตัวเจ้าของกิจการแทน โดยไม่ว่าจะขายอะไร ลูกค้าพร้อมที่จะเชื่อถือและสนับสนุน นอกจากนี้ ยังมีสิ่งอื่นที่ต้องให้ความสนใจนั่นคือ แพลตฟอร์มที่มีการเติบโตสูง เช่น Tiktok แพลตฟอร์ม E-Commerce ต่างๆ และเครื่องมือการตลาดใหม่ๆ เช่น Social Listening Tools ที่จะช่วยสร้างโอกาสและเสริมประสิทธิภาพให้แก่ธุรกิจได้
นายณัฐเศรษฐ์ ไตรทิพย์เจริญชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แบรนด์เวิร์ส จำกัด ผู้ออกแบบและให้บริการด้าน Metaverse อย่างครบวงจรและผู้สร้าง Thailand Multiverse Bridge Platform แห่งแรกในประเทศไทยเพื่อให้เกิด Thailand Metaverse Ecosystem ได้ร่วมแบ่งปันมุมมองเกี่ยวกับ Metaverse ว่าเป็นอินเทอร์เน็ตยุคใหม่แห่งโอกาสใหม่ในรอบ 14 ปี ที่จะก่อให้เกิดอุตสาหกรรมใหม่ทั่วโลก โดยมีแรงหนุนจากทั้งเมกะเทรนด์ใหม่ๆ เทคโนโลยีใหม่ๆ รวมถึงเทรนด์ระดับโลกที่พร้อมขานรับ โดยมีการคาดการณ์ว่าจะมีมูลค่าตลาดถึง 4 แสนล้านดอลลาร์ ในอีก 3 ปีข้างหน้า จากการที่เราได้เห็นหลายธุรกิจโดยเฉพาะธุรกิจใหญ่ได้เริ่มก้าวเข้าสู่โลก Metaverse แล้ว ซึ่งเป็นเสมือนโลกใบที่ 2 ที่ผู้คนเข้าไปใช้ชีวิต สร้างตัวตนใหม่ (Avatar) และได้รับประสบการณ์ใหม่ ทำกิจกรรมต่างๆ เชื่อมต่อทั้งในโลกจริงและโลกเสมือนจริงที่นำไปสู่โอกาสธุรกิจได้ ซึ่งธุรกิจควรเริ่มอย่างค่อยเป็นค่อยไป โดยกำหนดวัตถุประสงค์ที่ชัดเจน ลองผิดลองถูก ซึ่งในระยะแรกเริ่มอาจจะเข้าไปในรูปแบบของการสร้างประสบการณ์ใหม่ต่อยอดจากธุรกิจในโลกจริง จากนั้นค่อยพัฒนาสู่การทำลูกค้าสัมพันธ์ หรือ CRM และสุดท้ายสามารถพัฒนาสู่รูปแบบการทำธุรกิจใหม่ (New Business Model) ในโลกเสมือนจริงได้
น.ส.สายสุนีย์ หาญประเทืองศิลป์ ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านนวัตกรรมดิจิทัลและข้อมูล ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) ได้ร่วมแบ่งปันมุมมองถึงภาคการเงินในโลก Metaverse โดยมองว่ากิจกรรมในโลกจริง หลายกิจกรรมจะมีธุรกรรมมาเกี่ยวข้อง เช่นเดียวกันกับโลกดิจิทัลในปัจจุบันและโลกเสมือนจริงที่กำลังจะเกิดขึ้น กรุงศรีได้เล็งเห็นและมีความพร้อมในการให้บริการทางการเงิน โดยให้ความสำคัญในเรื่องความรวดเร็ว ความปลอดภัย ความไร้พรมแดนในการให้บริการที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งธนาคารมีเทคโนโลยีและแพลตฟอร์มที่พร้อมสนับสนุนในรูปแบบ Banking as a Service (BaaS) ที่สามารถให้บริการต่างๆ ผ่านระบบ API ที่สามารถเชื่อมต่อบริการกับพันธมิตรต่างๆ ต่อยอดในโลกเสมือนจริงได้ และธนาคารมีความพร้อมในเรื่องเทคโนโลยีหรือแพลตฟอร์มใหม่ผ่านการลงทุนในสตาร์ทอัป ภายใต้กรุงศรี ฟินโนเวต อีกทั้งการที่กรุงศรีอยู่ในเครือ MUFG หนึ่งในกลุ่มสถาบันการเงินที่ใหญ่ที่สุดระดับโลก จะเป็นเสมือนพันธมิตรระดับโลกในการนำ Global Tech มาร่วมพัฒนาการบริการทางเงินใหม่ๆ ของธนาคารได้ นอกจากนี้ ยังมีบริการทางเงินของธนาคารในปัจจุบันที่สามารถพัฒนาการเข้าสู่โลก Metaverse ได้เช่นกัน เช่น บริการ Krungsri Biz Online (KBOL) ดิจิทัล แบงกิ้งเพื่อธุรกิจ บริการ Krungsri Business Link แพลตฟอร์มเพื่อธุรกิจในการหาพันธมิตรและโอกาสธุรกิจ
งานสัมมนาครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของสัมมนาออนไลน์เพื่อลูกค้าธุรกิจ หนึ่งในกิจกรรมเพื่อช่วยเสริมสร้างศักยภาพด้านธุรกิจของลูกค้าธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน ผ่านกิจกรรมสัมมนาที่จัดขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพื่อแบ่งปันข้อมูลความรู้และสร้างโอกาสในการต่อยอดธุรกิจให้ลูกค้า ผู้สนใจสามารถรับชมสัมมนาออนไลน์ย้อนหลังผ่านช่องทาง Krungsri Business Empowerment Facebook