“กรุงศรี ออโต้” ผู้นำธุรกิจสินเชื่อยานยนต์ครบวงจร เครือธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) ประกาศกลยุทธ์ธุรกิจปี 2565 มุ่งสนับสนุนลูกค้าและคู่ค้าสู่ความเป็นไปได้ใหม่ๆ ด้วยโซลูชันสินเชื่อยานยนต์ที่จะยกระดับการดำเนินชีวิตและการทำธุรกิจ ผ่าน 3 แนวทาง ได้แก่ ผลิตภัณฑ์ถูกใจ ไร้กังวล (Product Harmonization) บริการราบรื่น ไร้รอยต่อ (Brand Experience) และดิจิทัล ไร้ขีดจำกัด (Digital Connectivity) ตั้งเป้าขับเคลื่อนธุรกิจอย่างยั่งยืนด้วยยอดสินเชื่อใหม่มูลค่า 173,000 ล้านบาท เติบโต 11%
นายคงสิน คงคา ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านธุรกิจสินเชื่อยานยนต์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) (BAY) กล่าวว่า กรุงศรี ออโต้มองภาพรวมตลาดสินเชื่อยานยนต์ในปีนี้มีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ โดยคาดว่ายอดสินเชื่อใหม่รวมทั้งตลาดจะมีมูลค่า 499,500 ล้านบาท เติบโตขึ้น 5% ขณะที่ยอดขายรถยนต์ใหม่คาดว่าจะมีจำนวน 810,000 คัน เพิ่มขึ้น 6% อย่างไรก็ดี ลูกค้าและคู่ค้าของเรายังคงต้องพบกับความท้าทายจากความไม่แน่นอนที่คาดเดาได้ยาก กรุงศรี ออโต้ จึงมุ่งมั่นที่จะพัฒนาโซลูชันสินเชื่อยานยนต์ที่จะช่วยให้ลูกค้ามีชีวิตที่ดียิ่งขึ้นตลอดเส้นทางที่เขาอยู่กับเรา และส่งเสริมให้คู่ค้าเข้าถึงโอกาสใหม่ๆ ในการดำเนินธุรกิจผ่านการเชื่อมโยงแพลตฟอร์มและนวัตกรรมดิจิทัลของเรา โดยกรุงศรี ออโต้ตั้งเป้าหมายปล่อยสินเชื่อใหม่ในปีนี้ที่ 173,000 ล้านบาท เติบโต 11% จากปีก่อน และมียอดคงค้างสินเชื่อรวม 425,000 ล้านบาท
โดยในปี 2565 กรุงศรี ออโต้ จะขับเคลื่อนการเติบโตของธุรกิจผ่าน 3 กลยุทธ์หลัก ในด้านแรก กรุงศรี ออโต้ จะมุ่งพัฒนาผลิตภัณฑ์ถูกใจ ไร้กังวล (Product Harmonization) โดยใช้ความแข็งแกร่งของดาต้าในเครือกรุงศรี เพื่อวิเคราะห์พฤติกรรมลูกค้าแบบ 360 องศา และมอบข้อเสนอสินเชื่อยานยนต์ที่ออกแบบมาอย่าง ‘เหมาะเจาะถูกใจ’ ลูกค้าแต่ละราย ทั้งดีลที่ดีที่สุดและแคมเปญสุดพิเศษ ควบคู่ไปกับการนำเสนอโซลูชันทางการเงินอื่นๆ ในเครือกรุงศรี เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าของเราในหลากมิติยิ่งขึ้น และตอบโจทย์กว่าเดิม
นอกจากนี้ กรุงศรี ออโต้ยังให้ความสำคัญกับการมอบประสบการณ์ราบรื่น ไร้รอยต่อ (Brand Experience) ผ่านการให้บริการด้วย Advisory Service Model ที่ผสมผสานการให้คำปรึกษาที่เชื่อมต่อกันในทุกจุดบริการ ตั้งแต่การประสานการทำงานต่างพื้นที่ ระหว่างสาขาของพันธมิตรหรือต่างพื้นที่บริการได้อย่างต่อเนื่องเป็นมาตรฐานเดียวกัน ตลอดจนบริการลูกค้าทุกสถานการณ์ผ่านระบบออนไลน์ (Digital Face-to-Face) สามารถเชื่อมต่อพูดคุยกันกับพนักงานได้ทุกที่ทุกเวลา
ภายใต้กลยุทธ์ที่สาม ดิจิทัล ไร้ขีดจำกัด (Digital Connectivity) กรุงศรี ออโต้ จะนำศักยภาพด้านดิจิทัลที่แข็งแกร่งมาสนับสนุนการขายของคู่ค้า ผ่านการนำเทคโนโลยี API มาเชื่อมต่อนวัตกรรมประเมินวงเงินเบื้องต้น “กรุงศรี ออโต้ พร้อมสตาร์ท”เข้ากับแพลตฟอร์มซื้อขายรถออนไลน์ต่างๆ ของทั้งดีลเลอร์รถยนต์ รถจักรยานยนต์และแบรนด์ผู้ผลิต เพื่อช่วยให้ผู้ซื้อสามารถเลือกชมรถ พร้อมกับวางแผนด้านสินเชื่อได้เบ็ดเสร็จในที่เดียว ในขณะเดียวกัน จะเดินหน้ายกระดับบริการสินเชื่อยานยนต์ดิจิทัลบน GO Application by Krungsri Auto ให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์ที่ดียิ่งขึ้น ขยายบริการให้ครอบคลุมสินเชื่อรถจักรยานยนต์ และคาร์ ฟอร์ แคช พร้อมทั้งนำเสนอโซลูชันสำหรับลูกค้าปัจจุบัน และผู้ใช้รถทั่วไป โดยคาดว่าจะเริ่มบริการ Digital Lending ในส่วนของรถจักรยานยนต์ และคาร์ ฟอร์ แคชได้ในครึ่งปีหลัง รวมถึงตั้งเป้าหมาย Digital Lending ในปีนี้เติบโต 53% หรือคิดเป็น 6% ของพอร์ตสินเชื่อรวม
นายคงสิน กล่าวอีกว่า เรามองภาพรวมเศรษฐกิจไทยปีนี้มีแนวโน้มดีขึ้นมีอัตราการเติบโตที่ 2.8% และแม้จะมีปัจจัยภายนอกอย่างเรื่องสงครามยูเครนเข้ามาทำให้มีผลต่อราคาพลังและอัตราเงินเฟ้อของไทย แต่มองว่าอาจจะไม่กระทบมากนัก โดยในช่วงไตรมาสแรกที่ผ่านมา สินเชื่อยังเติบโตได้ดี ขณะที่ตัวเลขการผิดนัดชำระหนี้ไม่มีสัญญาณเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยตั้งเป้าหมายสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ในปีนี้ไม่เกิน 2% ขณะเดียวกัน มีความพร้อมในด้านของมาตรการที่จะช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับผลกระทบที่หลากหลายตามความเหมาะสมสำหรับลูกค้าแต่ละรายอยู่แล้ว
"เรามองว่าราคาน้ำมันที่เพิ่มสูงขึ้นเป็นปัจจัยหนึ่งที่กดดันผู้ใช้รถ หรือผู้ที่ต้องการซื้อรถ แต่มีอีกหลายปัจจัยที่ทำให้ซื้อรถมีประโยชน์เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นป้องกันความเสี่ยงจากการติดโรคของครอบครัว ความสะดวกต่างๆ เป็นต้น ทำให้มองว่ายังมีดีมานด์ที่ต้องการซื้อรถอยู่ รวมถึงยานยนต์ไฟฟ้ากำลังได้รับความนิยม มีแนวโน้มที่ดีมากในอนาคต ภาครัฐให้การสนับสนุน จึงคาดแม้จะมีปัจจัยภายนอกเข้าเพิ่มเติม แต่มั่นใจว่าเราจะสามารถทำได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้" นายคงสิน กล่าว
