อัลฟ่า ดิวิชั่นส์ ลุยผลิตสารสกัดกัญชงเจ้าแรกของประเทศไทยป้อนออเดอร์ลูกค้า หลัง JP คว้าใบอนุญาตสกัดจาก อย. ผู้บริหารการันตีวัตถุดิบเพียงพอสำหรับกลุ่มลูกค้าที่ส่งออเดอร์เข้ามาจำนวนมาก เผยที่ผ่านมาจับมือพันธมิตรต้นน้ำทั้งในและนอกตลาดรองรับแผนอัปกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นอีก 100 เท่าในช่วงไตรมาส 3/65 คาดปีนี้กวาดรายได้จากธุรกิจกัญชงกัญชาไม่ต่ำกว่า 450 ล้านบาท
นายธีร ชุติวราภรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อัลฟ่า ดิวิชั่นส์ จำกัด (มหาชน) (ALPHAX) เปิดเผยว่า หลังจากบริษัทฯ ได้มีการขยายไลน์ธุรกิจเพิ่มเติมจากของเดิมที่มีอยู่คืออสังหาริมทรัพย์ ในปีที่ผ่านมาได้รุกสู่ธุรกิจกัญชงกัญชา และ Fin-Tech เพื่อการเติบโตที่แข็งแกร่งและยั่งยืน ล่าสุดในส่วนของธุรกิจกัญชงกัญชา บริษัทฯ ถือเป็นเจ้าแรกของประเทศไทยที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่คุมปัจจัยการผลิตตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำอย่างครบวงจร เริ่มต้นตั้งแต่การลงทุนผ่านบริษัทย่อยคือ บริษัท อัลฟ่า ไบโอเทค จำกัด ซึ่งร่วมกับบริษัท โรงงานเภสัชอุตสาหกรรม เจเอสพี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) (JP) ในฐานะผู้รับจ้างผลิต รวมถึงบริษัทฯ ได้สั่งซื้อเครื่องจักรสำหรับการผลิต โดยเน้นการจัดจำหน่ายสารสกัด และเคมีภัณฑ์
โดยลูกค้าหลักเป็นกลุ่มธุรกิจในอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร สมุนไพร รวมถึงยาแผนปัจจุบัน ซึ่งในวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2565 ได้รับใบอนุญาตผลิตสารกลุ่ม Cannabidiol หรือ CBD จากสํานักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เรียบร้อยแล้ว พร้อมที่จะผลิตสารสกัดให้กลุ่มลูกค้าที่ต้องการสารสกัดที่ได้ส่งคำสั่งซื้อเข้ามาเป็นจำนวนมาก โดยพร้อมส่งสินค้าให้ลูกค้าได้ภายในเดือนมีนาคม 2565 นี้ และจะรับรู้รายได้เข้ามาทันทีในไตรมาส 1/65
“ALPHAX กล้าที่จะบอกว่าเราคือ บริษัทจดทะเบียนรายแรกของประเทศไทยที่คุมปัจจัยการผลิตตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำ เพราะได้จับมือกับพันธมิตรที่มีความแข็งแกร่งอย่าง JP อีกทั้งยังได้ทำสัญญาความร่วมมือกับผู้ปลูกกัญชง ทั้งในส่วนของวิสาหกิจชุมชนต่างๆ ผู้ประกอบการทั้งในและนอกตลาดหลักทรัพย์ฯ เพื่อเป็นการันตีว่า เรามีวัตถุดิบเพียงพอสำหรับป้อนโรงงานสกัด เพียงพอสำหรับออเดอร์ของลูกค้าที่มีเข้ามาจำนวนมาก ในส่วนของธุรกิจปลายน้ำได้มีการจับมือผู้ประกอบการที่ต้องการนำสารสกัด CBD ไปใช้สำหรับผลิตอาหาร เครื่องดื่ม อาหารเสริม สมุนไพร โดยปัจจุบันมีลูกค้าที่ทำสัญญากับบริษัทแล้วประมาณ 35 ราย”
ทั้งนี้ ในช่วงที่ผ่านมาบริษัทมีพันธมิตรทั้งในด้านของต้นน้ำ เป็นบริษัทจดทะเบียนในตลท.ที่มีความเชี่ยวชาญในการปลูก เช่น บริษัท ซันสวีท จำกัด (มหาชน) (SUN) และบริษัท ไทยรับเบอร์ลาเท็คซ์กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TRUBB รวมทั้งได้ทำบันทึกความเข้าใจกับวิสาหกิจชุมชุนหลายแห่ง ทั้งในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยในส่วนของภาคเหนือ ล่าสุดได้มีการจับมือกับบริษัท เอ็ม เจ บี จำกัด (MJB) ที่พร้อมป้อนวัตถุดิบให้บริษัทฯประมาณ 1 ตัน ได้ในทันที
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ALPHAX กล่าวอีกว่า หลังจากที่บริษัทฯ ได้รับเงินจากการเพิ่มทุนที่เกิดจากการแปลงสภาพวอร์แรนต์เข้ามาประมาณ 600 ล้านบาท ทำให้มีศักยภาพเพียงพอสำหรับการเดินหน้าขยายธุรกิจ โดยในส่วนของธุรกิจกัญชงกัญชา บริษัทฯ เตรียมเพิ่มกำลังการผลิตอีก 100 เท่า โดยได้มีการสั่งซื้อเครื่องจักรแล้ว ซึ่งมีศักยภาพในการป้อนวัตถุดิบ 30,000 กิโลกรัมต่อเดือน หรือ 30 ตันต่อเดือน มีกำหนดเดินเครื่องผลิตในช่วงไตรมาส 3/65 ทำให้คาดว่าในปี 2565 จะมีรายได้จากธุรกิจกัญชงกัญชาประมาณ 450 ล้านบาท ผลักดันผลการดำเนินงานในปีนี้เติบโตอย่างก้าวกระโดด