หุ้นไทยปิดตลาดปรับตัวเพิ่มขึ้น +10.93 จุด โบรกฯ ชี้ SET INDEX ปรับตัวขึ้นรับข่าวผู้นำรัสเซียยินดีเจรจาผู้นำยูเครน หวังยุติสงครามความขัดแย้ง ประเมินกรอบการลงทุนสัปดาห์หน้ามองแนวรับที่ 1,650 จุด และแนวต้านที่ 1,670 จุด
ตลาดหุ้นไทยปิดทำการซื้อขายวันศุกร์ที่ 11 มีนาคม 2565 ปรับตัวเพิ่มขึ้น +10.93 จุด หรือ +0.66% มาอยู่ที่ 1,658.01 จุด มูลค่าการซื้อขาย 78,505.61 ล้านบาท ขณะที่ภาพรวมการซื้อขายหุ้นวันนี้ดัชนี SET INDEX แกว่งตัวแดนลบในภาคเช้าก่อนที่จะทยอยปรับตัวฟื้นขึ้นมาอยู่ในแดนบวกช่วงภาคบ่ายจนกระทั่งปิดตลาด โดยระหว่างวันปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 1,659.67 จุด ขณะที่ปรับตัวลดลงต่ำสุดที่ 1,637.93 จุด
ขณะที่หลักทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงในวันนี้เพิ่มขึ้น จำนวน 960 หลักทรัพย์ ไม่เปลี่ยนแปลง จำนวน 642 หลักทรัพย์ และปรับตัวลดลง จำนวน 739 หลักทรัพย์
ด้านปริมาณการซื้อขายขายจำแนกตามกลุ่มนักลงทุน พบว่า นักลงทุนต่างประเทศซื้อสุทธิกว่า 3,483.88 ล้านบาท ในทางกลับกัน พบว่า นักลงทุนในประเทศขายสุทธิกว่า -3,118.63 ล้านบาท ส่วนบัญชี บล. ขายสุทธิกว่า -320.53 ล้านบาท และนักลงทุนสถาบันขายสุทธิกว่า -44.71 ล้านบาท
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
1.PTT มูลค่าการซื้อขาย 3,493.83 ล้านบาท ปิดที่ 39.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาท
2.INOX มูลค่าการซื้อขาย 3,212.54 ล้านบาท ปิดที่ 1.65 บาท เพิ่มขึ้น 0.10 บาท
3.KBANK มูลค่าการซื้อขาย 3,122.81 ล้านบาท ปิดที่ 157.00 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
4.TTA มูลค่าการซื้อขาย 2,295.32 ล้านบาท ปิดที่ 11.70 บาท เพิ่มขึ้น 1.60 บาท
5.JUTHA มูลค่าการซื้อขาย 2,266.62 ล้านบาท ปิดที่ 1.25 บาท เพิ่มขึ้น 0.14
ด้านดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวบวกเพิ่มขึ้นมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.PTTEP ปิดที่ 149.50 บาท เพิ่มขึ้น 3.00 บาท หรือ 2.05%
2.ADVANC ปิดที่ 234.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.00 บาท หรือ 1.30%
3.CBG ปิดที่ 104.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท หรือ 1.96%
4.TTA ปิดที่ 11.70 บาท เพิ่มขึ้น 1.60 บาท หรือ 15.84%
5.SCGP ปิดที่ 57.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท หรือ 2.70%
ส่วนดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวลดลงมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.COM7 (XD) ปิดที่ 42.25 บาท ลดลง 41.25 บาท หรือ 49.40%
2.BH (XD) ปิดที่ 166.00 บาท ลดลง 2.50 บาท หรือ 1.48%
3.TVO (XD) ปิดที่ 31.00 บาท ลดลง 1.50 บาท หรือ 4.62%
4.HANA (XD) ปิดที่ 46.00 บาท ลดลง 0.75 บาท หรือ 1.60%
5.GULF ปิดที่ 47.75 บาท ลดลง 0.50 บาท หรือ 1.04%
ด้านดัชนี SET100 ปิดที่ 2,278.95 จุด เพิ่มขึ้น 15.32 จุด หรือ 0.68% ขณะที่ดัชนี SET50 ปิดที่ 1,005.31 จุด เพิ่มขึ้น 6.90 จุด หรือ 0.69% และดัชนีตลาด mai ปิดที่ 618.54 จุด เพิ่มขึ้น 6.17 จุด หรือ 1.01%
นายณรงค์เดช จันทรไพศาล ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ไอร่า กล่าวว่า ตลาดหุ้นวันนี้มีภาพของการรีบาวนด์ หลังจากช่วงเช้าได้รับแรงกดดันจากความกังวลสงครามรัสเซียและยูเครนยืดเยื้อ หลังการเจรจาในระดับ รมว.ต่างประเทศของทั้งสองยังไม่สามารถบรรลุข้อตกลงหยุดยิงชั่วคราวได้ แต่ช่วงบ่ายเริ่มเห็นสัญญาณบวกจากการตั้งโต๊ะเจรจาร่วมกันในรอบต่อไป เมื่อประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย เปิดกว้างในการพบปะกับประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน
ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปีขึ้นทะลุ 2% หลังสหรัฐฯ เปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อพุ่งสูงสุดในรอบ 40 ปี ทำให้มีแรงเทขายในสินทรัพย์ปลอดภัยหนุนสินทรัพย์เสี่ยงปรับตัวขึ้น อย่างไรก็ตาม มองว่าตลาดหุ้นไทยค่อนข้างแข็งแกร่งเมื่อเทียบกับประเทศอื่น ดังนั้น ดัชนียังน่าจะฟื้นตัวขึ้นได้ต่อเนื่องจากที่คาดว่าจะสามารถดึงดูดเม็ดเงินต่างชาติเข้ามาได้
ส่วนแนวโน้มการลงทุนสัปดาห์หน้าประเมินว่าตลาดน่าจะปรับตัวขึ้นได้ต่อแบบค่อยเป็นค่อยไป โดยยังต้องติดตามสถานการณ์รัสเซียและยูเครนอย่างใกล้ชิด เพราะอาจกดดันให้เกิดความผันผวน รวมถึงการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ซึ่งตลาดคาดว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยราว 0.25% ตามคาด แต่ประเด็นสำคัญคือการส่งสัญญาณการทำ Quantitative Tightening (QT) หลังปรับขึ้นดอกเบี้ย โดยมองแนวรับไว้ที่ 1,650 จุด และแนวต้านที่ 1,670 จุด