ตลาดหุ้นไทยปิด +3.44 จุด โบรก ฯ ชี้หุ้นไทยแกว่งตามตลาดภูมิภาค นักลงทุนยังหวังการเจรจายุติสงครามรัสเซีย-ยูเครน ลงโดยเร็ว พร้อมประเมินแนวรับที่ 1,630-1,640 จุด และแนวต้านที่ 1,660 จุด
ตลาดหุ้นไทยปิดทำการซื้อขายวันที่ 10 มีนาคม 2565 ปรับตัวเพิ่มขึ้น +3.44 จุด หรือ +0.21% โดยปิดตลาดที่ 1,647.08 จุด มูลค่าการซื้อขาย 100,156.72 ล้านบาท โดยภาพรวมการซื้อขายหุ้นวันนี้ SET INDEX แกว่งตัวในแดนบวก โดยระหว่างวันปรับตัวขึ้นสูงสุด ที่ 1,659.29 จุด ขณะเดียวกันปรับตัวลดลงต่ำสุดที่ 1,643.39 จุด
ขณะที่หลักทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงในวันนี้เพิ่มขึ้นจำนวน 1,009 หลักทรัพย์ ไม่เปลี่ยนแปลงจำนวน 524 หลักทรัพย์ และปรับตัวลดลงจำนวน 865 หลักทรัพย์
ด้านปริมาณการซื้อขายขายจำแนกตามกลุ่มนักลงทุนพบว่า นักลงทุนในประเทศขายสุทธิกว่า -2,064.44 ล้านบาท และ บัญชี บล. ขายสุทธิกว่า -519.92 ล้านบาท ในทางกลับกันพบว่า นักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิกว่า 1,959.83 ล้านบาท และ นักลงทุนต่างประเทศ ซื้อสุทธิกว่า 624.53 ล้านบาท
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
1.PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 6,759.46 ล้านบาท ปิดที่ 146.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท
2.KBANK มูลค่าการซื้อขาย 5,886.10 ล้านบาท ปิดที่ 157.00 บาท ลดลง 2.50 บาท
3.BANPU มูลค่าการซื้อขาย 4,172.43 ล้านบาท ปิดที่ 11.30 บาท ลดลง 0.40 บาท
4.TOP มูลค่าการซื้อขาย 2,588.84 ล้านบาท ปิดที่ 52.75 บาท เพิ่มขึ้น 2.50 บาท
5.PTT มูลค่าการซื้อขาย 2,491.71 ล้านบาท ปิดที่ 38.75 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
ด้านดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวบวกเพิ่มขึ้นมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.SCC ปิดที่ 377.00 บาท เพิ่มขึ้น 5.00 บาทหรือ 1.34%
2.TOP ปิดที่ 52.75 บาท เพิ่มขึ้น 2.50 บาทหรือ 4.98%
3.KCE ปิดที่ 58.25 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาทหรือ 2.64%
4.AEONTS ปิดที่ 198.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาทหรือ 0.76%
5.PTTGC ปิดที่ 50.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.25 บาทหรื 2.56%
ส่วนดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวลดลงมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.KBANK ปิดที่ 157.00 บาท ลดลง 2.50 บาท หรือ 1.57%
2.CB ปิดที่ 115.00 บาท ลดลง 1.50 บาท หรือ 1.29%
3.KKP ปิดที่ 66.25 บาท ลดลง 1.00 บาท หรือ 1.49%
4.BBL ปิดที่ 133.50 บาท ลดลง 1.00 บาท หรือ 0.74%
5.ADVANC ปิดที่ 231.00 บาท ลดลง 1.00 บาท หรือ 0.43%
ดัชนี SET100 ปิดที่ 2,263.63 จุด เพิ่มขึ้น 8.18 จุด หรือ 0.36% ส่วนดัชนี SET50 ปิดที่ 998.41 จุด เพิ่มขึ้น 3.45 จุด หรือ 0.35% และดัชนีตลาด mai ปิดที่ 612.37 จุด เพิ่มขึ้น 7.57 จุด หรือ 1.25%
นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคระห์หลักทรัพย์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นวันนี้แกว่งตัวอิงแดนบวก เป็นไปตามตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชีย โดยเฉพาะช่วงภาคเช้า จากความหวังสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครนจะยุติลงได้ หลังยูเครนมีท่าทียอมรับเงื่อนไขสำคัญของรัสเซีย
อย่างไรก็ตาม ช่วงบ่ายมีแรงขายทำกำไรออกมามากขึ้น โดยได้รับแรงกดดันจากความไม่แน่นอนของการเจรจาระหว่างรัสเซียและยูเครน และตลาดหุ้นยุโรปที่เปิดมาปรับตัวลงไปประมาณ 1%
ขณะที่แนวโน้มการลงทุนวันพรุ่งนี้คาดว่า ตลาดฯน่าจะยังแกว่งไซด์เวย์ ขึ้นกับผลของการเจรจาระหว่างรัสเซียและยูเครนว่าจะออกมาในทิศทางใด ขณะที่นักลงทุนจับตาดูการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในสัปดาห์หน้าคาดว่าจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ประเมินกรอบแนวรับไว้ที่ 1,630-1,640 จุด และแนวรับที่ 1,660 จุด