แม้ตลาดหุ้นทั่วโลกจะได้รับผลกระทบจากสงครามในยูเครน แต่ตลาดหุ้นไทยแทบไม่สั่นไหว แถมยังปรับตัวขึ้นสวนทางสถานการณ์ตึงเครียดในยุโรปอีกด้วย เนื่องจากนักลงทุนต่างประเทศกลับเข้ามาไล่ซื้อหุ้นอย่างต่อเนื่อง
สถานการณ์สงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครน กลายเป็นปัจจัยกระตุ้นให้ต่างชาติขนเงินมาลงทุนในตลาดหุ้นไทย เพราะเป็นประเทศที่อยู่ไกลจากการสู้รบ ไม่ได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจและการลงทุนมากนัก ขณะที่ปัจจัยพื้นฐานของตลาดหุ้นไทยน่าสนใจ รวมทั้งผลประกอบการบริษัทจดทะเยียนยังเติบโต ต่างชาติจึงย้ายเงินมาพักไว้ชั่วคราว
นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ โบรกเกอร์สำนักต่างๆ ยังมีมุมมองที่แตกต่างสำหรับเงินทุนไหลกลับในรอบนี้ โดยฝ่ายหนึ่งเชื่อว่า เป็นเงินที่กลับเข้ามาลงทุนระยะยาว เพราะมองว่าตลาดหุ้นไทยมีแนวโน้มที่สดใส การท่องเที่ยวและเศรษฐกิจกำลังเริ่มฟื้นตัว ราคาหุ้นยังไม่สูงเกินไป และบริษัทจดทะเบียนมีอัตราการเติบโตที่ดี
แต่โบรกเกอร์อีกฝ่ายหนึ่งประเมินว่า เงินทุนที่ไหลกลับเป็นเงินร้อน และย้ายเข้ามาพักในตลาดหุ้นไทยชั่วคราว เมื่อสถานการณ์ในยูเครนคลี่คลาย เงินทุนจะไหลกลับออกไป ซึ่งอาจส่งผลให้ตลาดหุ้นไทยเกิดความผันผวน หรือปรับฐานลง
ยอดซื้อต่างชาติสะสมนับจากต้นปี 2564 จนสิ้นสุดวันที่ 2 มีนาคมมีจำนวนทั้งสิ้น 84,267.93 ล้านบาท ขณะที่นักลงทุนสถาบันหรือกองทุนในประเทศขายสุทธิ 67,371.45 ล้านบาท พอร์ตโบรกเกอร์ซื้อสุทธิ 7,747.55 ล้านบาท และนักลงทุนรายย่อยขายสุทธิ 24,644.02 ล้านบาท
ตั้งแต่ปี 2560 นักลงทุนต่างชาติเทขายหุ้นตลอด 5 ปีติดต่อ ยอดขายหุ้นสะสมรวมกว่า 6 แสนล้านบาท และเพิ่งการกลับมาซื้ออย่างมีนัยสำคัญในช่วงต้นปีนี้ แต่ยังไม่มีใครชี้ชัดและกล้ารับประกันได้ว่า
ปีนี้จะเป็นปีแรกที่ต่างชาติขนเงินกลับตลาดหุ้นไทย หลังจากเทขายหนักมา 5 ปีติดต่อ
แรงซื้ออย่างคงเส้นคงวาของต่างชาตินับจากต้นปี ขับเคลื่อนให้ดัชนีหุ้นไต่ระดับขึ้นมาจนขึ้นไปสร้างจุดสูงสุดใหม่ที่ระดับ 1,718 จุด และแม้จะถูกผลกระทบจากสถานการณ์สงครามในยูเครน แต่หุ้นปรับตัวลงเพียงเล็กน้อย และสามารถประคองตัวแถวระดับ 1,700 จุดได้
ถ้าต่างชาติกลับมาจริง เงินทุนที่ไหลกลับไม่ใช่เงินร้อน แต่เป็นเงินลงทุนระยะยาว ตลาดหุ้นไทยรอบนี้อาจไปได้ไกล โดยเป้าหมายดัชนีปลายปีที่ระดับ 1,800-1,850 จุดคงไม่ไกลเกินเอื้อม
แต่ถ้าเป็นเงินร้อน เป็นเงินที่ถูกนำมาพักไว้เพียงชั่วคราว และเมื่อสถานการณ์สงครามยูเครนคลี่คลายอาจจะย้ายออกไป ตลาดหุ้นอาจกลับสู่ความผันผวนอีกครั้ง ในช่วงที่ต่างชาติถอนการลงทุน
เงินทุนต่างชาติที่ยังไหลบ่าเข้าตลาดหุ้นขณะนี้จะเป็นเงินเย็นหรือเงินร้อน เวลาเท่านั้นที่จะให้คำตอบ โดยระหว่างที่ยังไม่มีคำตอบ นักลงทุนได้แต่คาดเดากันเท่านั้น
นักลงทุนต่างชาติกลายเป็นปัจจัยหลักที่ชี้นำทิศทางตลาดหุ้นระยะสั้น ถ้าฝรั่งยังอยู่ บรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นมีแนวโน้มที่จะคึกคักสดใสต่อไป
แต่ถ้าต่างชาติหันมาเทขาย ตลาดหุ้นอาจปิดรอบขาขึ้นทันที นักลงทุนจึงต้องติดตามความเคลื่อนไหวของต่างชาติอย่างใกล้ชิด เพื่อปรับกลยุทธ์ให้ทันต่อเหตุการณ์
อย่าเพิ่งมองโลกสวยว่า เงินที่ไหลกลับเข้ามาเป็นเงินเย็น เป็นเงินลงทุนยาวๆ เพราะอาจเป็นเงินร้อน และเข้ามาพักไว้ในระยะสั้นเท่านั้น
ถ้าเป็นเงินร้อน ช่วงฝรั่งถอนทัพนักลงทุนต้องถอยออกจากตลาดหุ้นให้ทัน ไม่ต้องรอให้ใครเตือน