xs
xsm
sm
md
lg

หุ้นไทยไม่กลัวน้ำร้อน / สุนันท์ ศรีจันทรา

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



สถานการณ์ยูเครน แม้จะตึงเครียดและหนักหน่วง ส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้น แต่ตลาดหุ้นไทยไม่สั่นไหวมากนัก ดัชนีหุ้นปรับตัวลงน้อยมากเมื่อเทียบกับตลาดหุ้นทั่วโลก

แม้ปัญหายูเครนจะปะทุขึ้น แต่บรรยากาศการซื้อขายหุ้นยังคึกคักสวนควันปืน โดยเมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ดัชนีหุ้นสร้างจุดสูงสุดที่ 1,713.20 จุด ก่อนจะปรับตัวลง เมื่อรัสเซียเริ่มเปิดฉากรุกรานยูเครน แต่ลงแรงเพียงวันเดียว 33.73 จุด เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ โดยปิดที่ 1,662.72 จุด

ข่าวดีสนับสนุนบรรยากาศการลงทุนแทบหาไม่ได้ มีแต่ข่าวร้ายที่ส่งผลกระทบมีมากมาย ทั้งจากภายในและภายนอก ซึ่งหุ้นควรจะทรุดหนัก

แต่การที่ไม่เกิดการปรับฐานรุนแรงเพราะมีต่างชาติเป็นกองหนุน โดยเข้ามาช้อนซื้อหุ้นตลอดตั้งแต่ต้นปี และมียอดซื้อสุทธิสะสมเมื่อสิ้นสุดวันที่ 24 กุมภาพันธ์ จำนวนทั้งสิ้น 70,512.07 ล้านบาท

รอบนี้ต่างชาติบุกหนัก ไล่ช้อนซื้อหุ้นแทบทุกราคาโดยไม่แสดงความหวั่นไหวในสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครน แตกต่างจากกองทุนรวมในประเทศที่ถล่มขายหุ้นไม่เลี้ยง

ถ้าตลาดหุ้นเกิดความผันผวน ดัชนีหุ้นดิ่งลงหนัก นักลงทุนที่จะต้องเจ็บตัวหนักคือต่างชาติ เพราะเป็นผู้ช้อนซื้อรายใหญ่ แบกหุ้นต้นทุนสูงไว้เต็มมือ และซื้อทุกสถานการณ์ โดยในช่วงที่ดัชนีหุ้นถอยลงไปตั้งหลักที่ระดับ 1,634 จุด ต่างชาติก็ปักหลักซื้อ หรือช่วงที่ขึ้นมาชน 1,713 ต่างชาติยังไล่เก็บของอยู่

ประเมินต้นทุนราคาหุ้นของต่างชาติ โดยคำนวณจากค่าดัชนีหุ้นเฉลี่ย ต้นทุนที่ซื้อน่าจะอยู่ที่ดัชนีประมาณประมาณ 1,685 จุด ดังนั้น ต่างชาติน่าจะแบกหุ้นอยู่ และคงจะไม่ตัดขาดทุนขายถ้าราคาแถวนี้

ดังนั้น นักลงทุนน่าจะอุ่นใจได้ระดับหนึ่งว่าจะไม่เกิดรายการเทขายของนักลงวทุนต่างชาติ หากดัชนีหุ้นไม่พุ่งทะยานทะลุ 1,700 จุดไปไกลๆ หรือสถานการณ์ในยูเครนจะไม่เลวร้ายลง จนกดดันให้ต่างชาติต้องตัดใจขายขาดทุน

อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ในยูเครนยังตึงเครียดอยู่ และเป็นปัจจัยเปราะบางที่ชี้นำตลาดหุ้นทั่วโลก ซึ่งนักลงทุนไม่ควรวางใจ หรือมองโลกในแง่ดีว่าจะไม่มีอะไรที่เลวร้ายลงไปอีก

เพราะก่อนหน้าเชื่อกันว่า รัสเซียจะไม่บุกยูเครน แต่สุดท้ายก็เปิดฉากโจมตี และยกกองทัพเข้าไปรุกราน สร้างความตื่นตระหนกให้นักลงทุนทั้งโลก

นักลงทุนยังจำเป็นต้องเฝ้าติดตามความเคลื่อนไหวในยูเครน เพราะเป็นตัวแรกที่อาจฉุดให้ตลาดหุ้นพลิกผันได้ตลอดเวลา การลงทุนในช่วงสั้นจึงเต็มไปด้วยความเสี่ยง และไม่ควรทุ่มน้ำหนักการลงทุน แต่น่าจะหาจังหวะขายในช่วงที่หุ้นปรับตัวขึ้นแรง

แม้ไม่มีสถานการณ์ยูเครน หุ้นไม่ควรจะพุ่งไปไกลเกิน 1,700 จุด เพราะยังไม่มีปัจจัยใดสนับสนุนอย่างเป็นรูปธรรม แต่เพราะเงินทุนต่างชาติที่ไหลกลับมาเท่านั้น ดัชนีจึงมาไกลทะลุ 1,700 จุดขึ้นมาได้

แต่ราคาหุ้นโดยรวมเริ่มไม่ถูกแล้ว ยิ่งมีปัจจัยลบกดดันรอบด้านทั้งจากภายในประเทศและภายนอกประเทศ ยิ่งต้องลดความเสี่ยง โดยหากหุ้นขึ้นต่อชิงจังหวะขายทำกำไรออกไปก่อน

ขายให้ฝรั่งแบกรับหุ้นต้นทุนสูงๆ ไป ต้อนรับการกลับมาโดยจับฝรั่งขังไว้ในตลาดหุ้นไทย ถ้าหุ้นดีดตัวแรง ถ้าฝรั่งไล่ซื้อ ชิงจังหวะผ่องถ่ายขายหุ้นทำกำไรออกบ้าง

อย่ามองว่าตลาดหุ้นมีภูมิคุ้นกันดี และไม่สะทกสะท้านกับสถานการณ์ยูเครน

เพราะการที่ดัชนีหุ้นไม่ปักหัวลงไปแถว 1,600 จุด ไม่ได้เกิดจากตลาดหุ้นมีปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง ทนแรงกระแทกจากปัจจัยลบภายนอกได้

แต่เป็นเพราะฝรั่งมาช่วยพยุงไว้เท่านั้น และไม่รู้ว่าทำไมฝรั่งจึงยกทัพใหญ่กลับมาบุกตลาดหุ้นไทย








กำลังโหลดความคิดเห็น