เม็ดเงินต่างประเทศไหลเข้าตลาดหุ้นเอเชียหลบภัยสงคราม หนุน SET INDEX ปิด +5.28 จุด

ตลาดหุ้นไทยปิด +5.28 จุด โบรกฯ ชี้ภาพตลาดผันผวนแรงจากสถานการณ์สงครามระหว่างยูเครนและรัสเซียจะยืดเยื้อ กระทบเศรษฐกิจโลกในระยะยาว นักลงทุนต่างประเทศมองเอเชียไม่ใช่คู่ขัดแย้ง และมีความปลอดภัยมากกว่า ทำให้เม็ดเงิน Fund Flow ไหลกลับเข้ามาดันให้ดัชนีฟื้นตัว พร้อมประเมินกรอบการลงทุนพรุ่งนี้ที่ 1,680-1,700 จุด

ตลาดหุ้นไทยปิดทำการซื้อขายวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2565 ดัชนีปรับตัวเพิ่มขึ้น +5.28 จุด หรือ +0.31% โดยปิดตลาดที่ 1,685.18 จุด มุลค่าการซื้อขาย 93,847.62 ล้านบาท โดยภาพรวมการซื้อขายในวันนี้ การซื้อขายภาคเช้ามีการแกว่งตัวในแดนลบ ก่อนที่จะขยับฟื้นตัวขึ้นมาในภาคบ่าย โดยระหว่างวันปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 1,690.61 จุด และปรับตัวลดลงต่ำสุดที่ 1,668.05 จุด

ขณะที่หลักทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงในวันนี้เพิ่มขึ้น จำนวน 723 หลักทรัพย์ ไม่เปลี่ยนแปลง จำนวน 560 หลักทรัพย์ และปรับตัวลดลง จำนวน 1,067 หลักทรัพย์

ขณะที่ปริมาณการซื้อขายขายจำแนกตามกลุ่มนักลงทุน พบว่า นักลงทุนต่างประเทศซื้อสุทธิกว่า 4,345.18 ล้านบาท ในทางกลับกัน พบว่า นักลงทุนในประเทศขายสุทธิกว่า -3,041.73 ล้านบาท นักลงทุนสถาบันขายสุทธิกว่า -1,274.13 ล้านบาท และบัญชี บล. ขายสุทธิกว่า -29.31 ล้านบาท

ขณะที่หลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับ ได้แก่
1.KBANK มูลค่าการซื้อขาย 4,078.97 ล้านบาท ปิดที่ 163.50 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
2.HANA มูลค่าการซื้อขาย 3,383.10 ล้านบาท ปิดที่ 51.00 บาท ลดลง 11.25 บาท
3.PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 3,249.18 ล้านบาท ปิดที่ 136.50 บาท เพิ่มขึ้น 4.00 บาท
4.AOT มูลค่าการซื้อขาย 3,043.31 ล้านบาท ปิดที่ 64.25 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท
5.PTT มูลค่าการซื้อขาย 2,980.61 ล้านบาท ปิดที่ 39.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท

ด้านดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวบวกเพิ่มขึ้นมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.VGI ปิดที่ 5.80 บาท เพิ่มขึ้น +0.30 บาท หรือ +5.45%
2.JMART ปิดที่ 56.50 บาท เพิ่มขึ้น +2.50 บาท หรือ +4.63%
3.BAM ปิดที่ 21.90 บาท เพิ่มขึ้น +0.90 บาท หรือ +4.29%
4.TCAP ปิดที่ 41.75 บาท เพิ่มขึ้น +1.25 บาท หรือ +3.09%
5.PTTEP ปิดที่ 136.50 บาท เพิ่มขึ้น +4.00 บาท หรือ +3.02%

ส่วนดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวลดลงมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.HANA ปิดที่ 51.00 บาท ลดลง -11.25 บาท หรือ -18.07%
2.PTTGC ปิดที่ 53.00 บาท ลดลง -2.00 บาท หรือ -3.64%
3.AWC ปิดที่ 4.80 บาท ลดลง -0.12 บาท หรือ -2.44%
4.CPF ปิดที่ 25.25 บาท ลดลง -0.50 บาท หรือ -1.94%
5.OR ปิดที่ 25.75 บาท ลดลง -0.50 บาท หรือ -1.90%

ด้านดัชนี SET100 ปิดที่ 2,305.32 จุด เพิ่มขึ้น 8.12 จุด หรือ 0.35% ส่วนดัชนี SET50 ปิดที่ 1,016.58 จุด เพิ่มขึ้น 4.06 จุด หรือ 0.40% และดัชนีตลาด mai ปิดที่ 634.42 จุด ลดลง -0.30 จุด หรือ -0.05%

นายกิจพล ไพรไพศาลกิจ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์และนักกลยุทธ์ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ผันผวน เนื่องจากกังวลสถานการณ์สงครามรัสเซียและยูเครนยืดเยื้อ แต่ตลาดทุนเอเชียฟื้นตัวขึ้นมา เพราะได้รับผลกระทบน้อยกว่ายุโรปที่มีความเสี่ยงทางเศรษฐกิจและภาวะเงินเฟ้อ โดยเฉพาะไทยมีการค้ากับรัสเซียเพียง 5% และยูเครน 0.8% หากเหตุการณ์ยืดเยื้อไม่ได้หมายถึงทั้งโลกจะได้รับผลกระทบ เนื่องจากเอเชียไมใช่คู่ขัดแย้งจึงมีความปลอดภัยมากกว่า ทำให้เม็ดเงิน Fund Flow ไหลกลับมาทำให้ตลาดหุ้นเอเชียฟื้นตัว

แนวโน้มวันพรุ่งนี้แนะนำติดตามตัวเลขการส่งออกไทยที่จะเห็นโมเมนตัมการฟื้นตัวของอุตสาหกรรม คาดว่ายอดส่งออกยานยนต์จะฟื้นตัวได้ดี โดยมองว่าตลาดหุ้นเอเชียยังเป็นบวกอีกถ้าหากยูเครนและรัสเซียมีการเจรจาบรรลุข้อตกลงกันได้ คาดว่าสินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลกฟื้นตัว แต่หากยังยืดเยื้อ ภูมิภาคเอเชียจะกระทบน้อย มองภาพตลาดเอเชียฟื้นตัวได้ดีกว่าฝั่งยุโรป พร้อมประเมินกรอบการลงทุน SET INDEX ในวันพรุ่งนี้ที่ 1,680-1,700 จุด