xs
xsm
sm
md
lg

เงินเฟ้อสหรัฐฯ พุ่ง หนุน Bond Yield ขึ้นสูง กดหุ้นไทยร่วง -3.80 จุด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



หุ้นไทยปิดตลาด -3.80 จุด โบรกฯ ชี้ภาพรวมหุ้นไทยปรับฐานลงตามตลาดหุ้นอื่นๆ ในต่างประเทศ หลังจากปรับตัวขึ้นมาต่อเนื่องตลอดสัปดาห์ไม่น้อยกว่า 70 จุด จึงมีการทยอยขายทำกำไรออกมา หลังจากตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯ ที่ออกมาสูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ ประเมินดัชนีสัปดาห์หน้าคาดแกว่งในกรอบ 1,685-1,715 จุด

ตลาดหุ้นไทยปิดทำการซื้อขายวันที่ 11 ก.พ.2565 ปรับตัวลดลง -3.80 จุด หรือ -0.22% โดยแปิดตลาดที่ 1,699.20 จุด มูลค่าการซื้อขายกว่า 95,433.74 ล้านบาท โดยภาพรวมดัชนีหุ้นไทยในวันนี้แกว่งตัวอยู่ในแดนลบเป็นส่วนใหญ่ ในระหว่างวันดัชนีปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 1,703.95 จุด และปรับตัวลดลงต่ำสุดที่ 1,690.69 จุด

ขณะที่หลักทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงในวันนี้เพิ่มขึ้น จำนวน 507 หลักทรัพย์ ไม่เปลี่ยนแปลง จำนวน 510 หลักทรัพย์ และปรับตัวลดลง จำนวน 1,290 หลักทรัพย์

ขณะที่ปริมาณการซื้อขายขายจำแนกตามกลุ่มนักลงทุน พบว่า นักลงทุนต่างประเทศซื้อสุทธิกว่า 5,830.73 ล้านบาท และบัญชี บล. ซื้อสุทธิกว่า 16.44 ล้านบาท ในทางกลับกันพบว่า นักลงทุนสถาบันขายสุทธิกว่า -5,542.26 ล้านบาท และนักลงทุนในประเทศขายสุทธิกว่า -304.92 ล้านบาท

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
1.KBANK มูลค่าการซื้อขาย 9,054.62 ล้านบาท ปิดที่ 168.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท
2.BBL มูลค่าการซื้อขาย 5,130.04 ล้านบาท ปิดที่ 148.00 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
3.SCB มูลค่าการซื้อขาย 4,120.20 ล้านบาท ปิดที่ 137.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท
4.ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 3,171.88 ล้านบาท ปิดที่ 237.00 บาท เพิ่มขึ้น 8.00 บาท
5.KCE มูลค่าการซื้อขาย 2,828.96 ล้านบาท ปิดที่ 59.75 บาท ลดลง 2.25 บาท

ด้านดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวบวกเพิ่มขึ้นมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.ADVANC ปิดที่ 237.00 บาท เพิ่มขึ้น 8.00 บาท หรือ 3.49%
2.BLA ปิดที่ 47.50 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท หรือ 4.40%
3.SCB ปิดที่ 137.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท หรือ 1.11%
4.KBANK ปิดที่ 168.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท หรือ 0.90%
5.TINTUCH ปิดที่ 78.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท หรือ 1.30%

ส่วนดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวลดลงมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.SCC ปิดที่ 387.00 บาท ลดลง 4.00 บาท หรือ 1.02%
2.HANA ปิดที่ 61.00 บาท ลดลง 3.50 บาท หรือ 5.43%
3.CBG ปิดที่ 99.50 บาท ลดลง 3.50 บาท หรือ 3.40%
4.KCE ปิดที่ 59.75 บาท ลดลง 2.25 บาท หรือ 3.63%
5.BH ปิดที่ 150.00 บาท ลดลง 2.50 บาท หรือ 1.64%

ด้านดัชนี SET100 ปิดที่ 2,328.16 จุด ลดลง -5.66 จุด หรือ -0.24% ส่วนดัชนี SET50 ปิดที่ 1,028.14 จุด ลดลง -1.74 จุด หรือ -0.17% และดัชนีตลาด mai ปิดที่ 639.72 จุด เพิ่มขึ้น 6.66 จุด หรือ 1.05%

น.ส.ธีรดา ชาญยิ่งยงค์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) กล่าวว่า ดัชนีตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับฐานตามตลาดหุ้นอื่นๆ ในต่างประเทศ หลังจากที่ปรับตัวขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง 8-9 วัน และเพิ่มขึ้นมาราว 70 จุด ส่งผลให้มีแรงขายทำกำไรออกมา หลังจากตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯ ที่ออกมาสูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ นอกจากนี้ จากถ้อยแถลงของนายเจมส์ บูลลาร์ด ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) สาขาเซนต์หลุยส์ ที่ให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์บลูมเบิร์กว่า เขาสนับสนุนให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 1% ภายในวันที่ 1 ก.ค.นี้ เพื่อสกัดเงินเฟ้อ และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ (Bond Yield) ดีดตัวขึ้น

ขณะที่ปัจจัยในประเทศยังคงต้องติดตามตัวเลขผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ภายในประเทศที่เร่งตัวขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม หากไม่มีการใช้มาตรการปิดเมือง (Lock Down) เชื่อว่าจะไม่กระทบมากนัก รวมไปถึงสถานการณ์การเมืองในประเทศที่เริ่มมีความร้อนแรงมากขึ้น

ส่วนแนวโน้มการลงทุนสัปดาห์หน้า มองว่า ดัชนีน่าจะแกว่งตัวออกด้านข้าง โดยให้กรอบการเคลื่อนไหวไว้ที่ 1,685-1,715 จุด โดยยังคงต้องติดตามปัจจัยสำคัญคือเงินเฟ้อที่เร่งตัวขึ้นทั่วโลก


กำลังโหลดความคิดเห็น