หุ้นไทยปิดตลาด +6.99 จุด โบรก ฯ เผยนักลงทุนลุ้นตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐ หลังเริ่มเห็นสัญญาณอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ ดีดตัวขึ้นมาใกล้ระดับ 2% จากตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรที่ออกมาดี พร้อมมองกรอบการลงทุนวันพรุ่งนี้ในแนวรับที่ 1,670 จุด และแนวต้านที่ 1,690 จุด
ตลาดหุ้นไทยปิดทำการซื้อขายวันที่ 8 ก.พ. 2565 ปรับตัวเพิ่มขึ้น +6.99 จุด หรือ +0.42% โดยปิดตลาดที่ 1,684.23 จุด มูลค่าการซื้อขายกว่า มูลค่าการซื้อขาย 84,621.58 ล้านบาท โดยภาพรวมการซื้อขายหุ้นไทยในวันนี้ ปรับตัวเคลื่อนไหวอยู่ในแดนบวกตลอดทั้งวันโดยระหว่างวันปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 1,685.14 จุด และปรับตัวลดลงต่ำสุดที่ 1,677.48 จุด
ขณะที่หลักทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงในวันนี้เพิ่มขึ้นจำนวน 731 หลักทรัพย์ ไม่เปลี่ยนแปลงจำนวน 1,049 หลักทรัพย์ และปรับตัวลดลงจำนวน 510 หลักทรัพย์
ขณะที่ปริมาณการซื้อขายขายจำแนกตามกลุ่มนักลงทุนพบว่า นักลงทุนต่างประเทศ ซื้อสุทธิกว่า 6,675.39 ล้านบาท และ บัญชี บล. ซื้อสุทธิกว่า 889.03 ล้านบาท ในทางกลับกันพบว่า นักลงทุนสถาบันขายสุทธิกว่า -4,199.12 ล้านบาท และนักลงทุนในประเทศขายสุทธิกว่า -3,365.31 ล้านบาท
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
1.KBANK มูลค่าการซื้อขาย 5,334.73 ล้านบาท ปิดที่ 154.50 บาท เพิ่มขึ้น 2.50 บาท
2.PTT มูลค่าการซื้อขาย 4,169.07 ล้านบาท ปิดที่ 40.25 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท
3.PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 3,772.23 ล้านบาท ปิดที่ 134.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.00 บาท
4.BBL มูลค่าการซื้อขาย 3,035.66 ล้านบาท ปิดที่ 141.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท
5.SCB มูลค่าการซื้อขาย 2,617.95 ล้านบาท ปิดที่ 130.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.00 บาท
ด้านดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวบวกเพิ่มขึ้นมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.AEONTS ปิดที่ 195.50 บาท เพิ่มขึ้น 7.00 บาท หรือ 3.71%
2.SCC ปิดที่ 387.00 บาท เพิ่มขึ้น 5.00 บาท หรือ 1.30%
3.ADVANC ปิดที่ 222.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.00 บาท หรือ 1.37%
4.KBANK ปิดที่ 154.50 บาท เพิ่มขึ้น 2.50 บาท หรือ 1.64%
5.PTTEP ปิดที่ 134.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.00 บาทหรือ 2.29%
ส่วนดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวลดลงมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.BGRIM ปิดที่ 33.50 บาท ลดลง 1.25 บาทหรือ -3.60%
2.SINGER ปิดที่ 46.25 บาท ลดลง 0.75 บาท หรือ 1.60%
3.VGI XA ปิดที่ 5.55 บาท ลดลง 0.50 บาทหรือ 8.26%
ด้านดัชนี SET100 ปิดที่ 2,300.81 จุด เพิ่มขึ้น 9.44 จุด หรือ 0.41% ส่วนดัชนี SET50 ปิดที่ 1,011.50 จุด เพิ่มขึ้น 5.34 จุด หรือ 0.53% และดัชนีตลาด mai ปิดที่ 648.37 จุด ลดลง -0.77 จุด หรือ -0.12%
นายณัฐชาต เมฆมาสิน ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทรีนีตี้ กล่าวว่า ดัชนีตลาดหุ้นไทยในวันนี้ทรงตัว ยืนในแดนบวกได้เล็กน้อย สอดคล้องกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชีย เนื่องจากนักลงทุนรอดูปัจจัยใหม่ โดยเฉพาะเรื่องของตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐ ที่จะมีการเปิดเผยในวันที่ 10 ก.พ.นี้ ซึ่งล่าสุดก็เริ่มเห็นสัญญาณอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ (Bond Yield) ที่ปรับตัวขึ้นมาใกล้ระดับ 2% จากตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรที่ออกมาดี ทำให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจเข้มงวดนโยบายการเงินมากขึ้น
ขณะที่แนวโน้มการลงทุนวันพรุ่งนี้มองว่าตลาดฯน่าจะแกว่งไซด์เวย์ในกรอบ แนวรับ 1,670 จุด และแนวต้าน 1,690 จุด โดยแนะนักลงทุนติดตามดูการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในวันที่ 9 ก.พ.นี้ คาดว่าจะมีการกล่าวถึงมุมมองต่อเศรษฐกิจไทย หลังเงินเฟ้อเริ่มสูง และส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อของประชาชนมากขึ้น
