หุ้นไทยปิดตลาด -0.16 จุด นักวิเคราะห์ชี้ ตลาดยังจับตาการประกาศตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯ คืนนี้ หลัก ๆ หุ้นยังไม่ปรับตัวลดลงมากจากแรงซื้อหุ้นกลุ่ม Vule Play โดยเฉพาะกลุ่มแบงก์ช่วยหนุนดัชนี มองกรอบการลงทุนพรุ่งนี้ประเมินแนวรับที่ 1,695-1,685 จุด และแนวต้านที่ 1,708 จุด
ตลาดหุ้นไทยปิดทำการซื้อขายวันที่ 10 ก.พ.2565 ปิดตลาดที่ -0.16 จุด หรือ -0.01% โดยปิดตลาดที่ 1,703.00 จุด มูลค่าการซื้อขาย 112,335.48 ล้านบาท โดยในระหว่างวัน ดัชนีหุ้นไทยแกว่งตัวสลับระหว่างแดนบวกและแดนลบในกรอบแคบ โดยปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 1,707.44 จุด และลดลงต่ำสุดที่ 1,696.73 จุด
ขณะที่หลักทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงในวันนี้เพิ่มขึ้น จำนวน 607 หลักทรัพย์ ไม่เปลี่ยนแปลง จำนวน 491 หลักทรัพย์ และปรับตัวลดลง จำนวน 1,224 หลักทรัพย์
ขณะที่ปริมาณการซื้อขายขายจำแนกตามกลุ่มนักลงทุน พบว่า นักลงทุนต่างประเทศซื้อสุทธิกว่า 8,461.13 ล้านบาท และบัญชี บล. ซื้อสุทธิกว่า 151.24 ล้านบาท ในทางกลับกัน พบว่า นักลงทุนในประเทศขายสุทธิกว่า -3,704.64 ล้านบาท นักลงทุนสถาบันขายสุทธิกว่า -4,907.73 ล้านบาท
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
1.KBANK มูลค่าการซื้อขาย 14,844.03 ล้านบาท ปิดที่ 166.50 บาท เพิ่มขึ้น 4.00 บาท
2.BBL มูลค่าการซื้อขาย 4,606.46 ล้านบาท ปิดที่ 148.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.00 บาท
3.KCE มูลค่าการซื้อขาย 3,589.17 ล้านบาท ปิดที่ 62.00 บาท ลดลง 2.75 บาท
4.SCB มูลค่าการซื้อขาย 3,555.80 ล้านบาท ปิดที่ 135.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท
5.PTT มูลค่าการซื้อขาย 2,785.39 ล้านบาท ปิดที่ 40.50 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
ด้านดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวบวกเพิ่มขึ้นมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.KBANK ปิดที่ 166.50 บาท เพิ่มขึ้น 4.00 บาท หรือ 2.46%
2.BBL ปิดที่ 148.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.00 บาท หรือ 2.07%
3.ADVANC ปิดที่ 229.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.00 บาท หรือ 1.33%
4.RCL ปิดที่ 45.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.75 บาท หรือ 4.00%
5.MTC ปิดที่ 58.25 บาท เพิ่มขึ้น 1.25 บาท หรือ 2.19%
ส่วนดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวลดลงมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.KCE ปิดที่ 62.00 บาท ลดลง 2.75 บาท หรือ 4.25%
2.CBG ปิดที่ 103.00 บาท ลดลง 2.50 บาท หรือ 2.37%
3.SINGER ปิดที่ 43.75 บาท ลดลง 2.25 บาท หรือ 4.89%
4.JMT ปิดที่ 60.75 บาท ลดลง 2.00 บาท หรือ 3.19%
5.PTTEP(XD) ปิดที่ 131.50 บาท ลดลง 2.00 บาท หรือ 1.50%
ขณะที่ดัชนี SET100 ปิดที่ 2,333.82 จุด ลดลง -1.97 จุด หรือ -0.08% ด้านดัชนี SET50 ปิดที่ 1,029.88 จุด เพิ่มขึ้น 0.08 จุด หรือ 0.01% และดัชนีตลาด mai ปิดที่ 633.06 จุด ลดลง -8.67 จุด หรือ -1.35%
นายวีระวัฒน์ วิโรจน์โภคา ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งตัวไซด์เวย์กรอบแคบออกด้านข้าง เพราะนักลงทุนยังรอติดตามการประกาศตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯ คืนนี้ โดยหลักๆ วันนี้มีเม็ดเงินเข้าซื้อกลุ่ม Vule Play โดยเฉพาะกลุ่มแบงก์ซึ่งเทรด P/E ต่ำ บางตัวเทรดต่ำกว่า Book Value ขณะเดียวกัน มีแรงขายหุ้นมี P/E สูง หรือมีแรงเก็งกำไรมาก่อนหน้า เช่น RBF, CBG, JMT, AWC
ส่วนแนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ขึ้นกับตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯ หากออกมามากกว่าที่คาดการณ์ที่ 7.2% จะกดดันให้ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวลง แต่หุ้นไทยอาจจะไม่ลงแรง เพราะยังมีกลุ่มแบงก์ กลุ่มพลังงานซึ่งเป็น Sector ที่ hedge เงินเฟ้อได้ดี โดยประเมินแนวรับที่ 1,695 และ 1,685 จุด และแนวต้าน 1,708 จุด
