ตลาดหุ้นเอเชียเปิดผันผวนในเช้าวันนี้ หลังจากธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ส่งสัญญาณว่าอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเวลาที่รวดเร็วขึ้นเพื่อสกัดเงินเฟ้อ ขณะเดียวกัน นักลงทุนยังคงจับตาสถานการณ์ตึงเครียดในยูเครนอย่างใกล้ชิด
ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 26,991.52 จุด ลดลง 19.81 จุด หรือ -0.07%, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 23,952.01 จุด ลดลง 337.89 จุด หรือ -1.39% และดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 3,456.10 จุด เพิ่มขึ้น 0.43 จุด หรือ +0.01%
คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 0.00-0.25% ในการประชุมเมื่อวานนี้ พร้อมระบุว่าเฟดจะยังคงปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) จำนวน 3 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือน ก.พ. ซึ่งจะส่งผลให้การทำ QE ของเฟดสิ้นสุดลงในเดือน มี.ค. พร้อมกับการเริ่มต้นปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนดังกล่าวเช่นกัน
ทางด้านนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟดกล่าวภายหลังการประชุมว่า "ยังคงมีความเป็นไปได้ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยโดยไม่ให้ส่งผลกระทบต่อตลาดแรงงาน และเฟดไม่ปฏิเสธความเป็นไปได้ที่ว่าอาจจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมากกว่า 0.25% เมื่อพิจารณาจากการพุ่งขึ้นของตัวเลขเงินเฟ้อในขณะนี้"
นักลงทุนยังจับตาสถานการณ์ยูเครนอย่างใกล้ชิด โดยล่าสุดทำเนียบเครมลินออกแถลงการณ์เตือนว่า รัสเซียจะตอบโต้อย่างรวดเร็ว หากสหรัฐฯ และพันธมิตรปฏิเสธข้อเรียกร้องของรัสเซีย นอกจากนี้ รัสเซียจะไม่ตัดทางเลือกในการเพิ่มกำลังทหารและยุทโธปกรณ์เข้าไปในคิวบาและเวเนซุเอลา หากข้อเรียกร้องของรัสเซียไม่ได้รับการตอบสนอง
ทั้งนี้ รัสเซียได้ยื่นข้อเรียกร้องต่อสหรัฐฯ และชาติตะวันตกเพื่อให้มีการรับประกันว่า องค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต) จะไม่รับยูเครนและประเทศซึ่งเคยอยู่ในอดีตสหภาพโซเวียตเข้าเป็นสมาชิก อีกทั้งเรียกร้องให้สหรัฐฯ และพันธมิตรถอนกำลังทหารออกจากกลุ่มประเทศอดีตสหภาพโซเวียต
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่น่าติดตามวันนี้ ได้แก่ ความเชื่อมั่นภาคธุรกิจของเกาหลีใต้เดือน ม.ค. และกำไรภาคอุตสาหกรรมของจีนเดือน ธ.ค.