xs
xsm
sm
md
lg

เล่นหุ้น บล.ระวังภาษี / สุนันท์ ศรีจันทรา

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



หุ้นกลุ่มบริษัทหลักทรัพย์ หรือบริษัทโบรกเกอร์กำลังกลับมาได้รับความสนใจอีกครั้ง ราคาวิ่งแรงกันยกแผง พุ่งทะยานชนเพดานกันเป็นลูกระนาด แต่นักลงทุนที่แห่เก็งกำไรต้องระมัดระวัง เพราะมรสุมลูกใหญ่รอถล่มใส่หุ้นกลุ่มนี้ หากกรมสรรพากรเก็บภาษีการขายหุ้น

การฟื้นคืนสู่ความคึกคึกของหุ้นบริษัทหลักทรัพย์เกิดจากหลายปัจจัยสนับสนุน โดยบรรยากาศการลงทุนที่คึกคัก นักลงทุนหน้าใหม่หลั่งไหลเข้าตลาดหุ้น ทำให้มูลค่าการซื้อขายหุ้นเติบโตขึ้นมาก

ปี 2564 มูลค่าซื้อขายหุ้นเฉลี่ยต่อวัน 93,845.64 ล้านบาท เพิ่มขึ้นมาจากปี 2563 ที่มีมูลค่าซื้อขายหุ้นเฉลี่ยต่อวัน 68,606.91 ล้านบาท ทำให้รายได้จากค่านายหน้าซื้อขายเพิ่มขึ้น

นอกจากนั้น ยังมีหุ้นใหม่เข้ามาจดทะเบียนจำนวนมาก จึงมีรายได้จากค่าธรรมเนียมการเป็นที่ปรึกษาทางการเงินและการเป็นผู้จัดการจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นเข้ามาเสริม

รายได้ของบริษัทหลักทรัพย์ที่เติบโตทำให้จ่ายเงินปันผลได้มากขึ้น และคาดว่าไตรมาสที่ 4 ปี 2564 ผลประกอบการจะออกมาดีจึงเกิดแรงซื้อดักเก็งกำไร ขณะที่บริษัทหลักทรัพย์หลายแห่งกำลังรุกเข้าไปในธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล หรือคริปโตเคอร์เรนซี ซึ่งกลายเป็นอีกปัจจัยกระตุ้นหุ้นบริษัทหลักทรัพย์ทั้งกลุ่ม หุ้นบริษัทหลักทรัพย์หลายแห่งมีผลประกอบการที่ดีต่อเนื่องมาหลายปีแล้ว ค่าพี/อี เรโชต่ำกว่า 10 เท่า อัตราเงินปันผลตอบแทนระดับ 5% แต่เนื่องจากนักลงทุนกังวลในการแข่งขันที่รุนแรงในธุรกิจหลักทรัพย์ โดยเฉพาะการตัดราคาค่านายหน้าการซื้อขายหุ้น ซึ่งบางโบรกเกอร์คิดค่านายหน้าเพียง 0.03% หรือมูลค่าซื้อขาย 1 ล้านบาท คิดค่านายหน้าเพียง 300 บาทเท่านั้น

สงครามการแข่งขันตัดราคาค่านายหน้าที่ดุเดือดในอดีต โดยเฉพาะค่านายหน้า 0% หรือไม่คิดค่านายหน้าซื้อขายหุ้น ทำให้โบรกเกอร์แทบล้มตายกันเป็นเบือมาแล้ว นักลงทุนจึงกลัวภาพหลอนการแข่งขันในอดีต และไม่กล้าเข้าไปเล่นหุ้นบริษัทหลักทรัพย์อยู่หลายปี แม้จะมีปัจจัยพื้นฐานที่ดีก็ตาม

แต่ตลาดหุ้นที่คึกคัก มูลค่าการซื้อขายที่พุ่งขึ้นเฉียด 100,000 ล้านบาทต่อวัน โบรกเกอร์ทุกรายรอดแน่ และโบรกเกอร์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงในอันดับต้นๆ กำไรมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง ขณะที่การขยายธุรกิจไปสู่คริปโตเคอร์เรนซีจะทำให้รายได้บริษัทหลักทรัพย์เพิ่มขึ้นอีก

นักลงทุนจึงแห่ไปลุยหุ้นบริษัทหลักทรัพย์กันฝุ่นตลบ และลืมไปว่า หุ้นกลุ่มนี้มีข่าวร้ายที่กำลังคืบคลานเข้ามา

กระทรวงการคลังยืนยันแล้วจะต้องเก็บภาษีการขายหุ้นในอัตรา 0.10% ของมูลค่าการขายหุ้นตั้งแต่ 1 ล้านบาทขึ้นไป ซึ่งแม้จะไม่ส่งผลกระทบต่อนักลงทุนรายย่อยประเภทแมลงเม่า แต่จะส่งผลกระทบต่อนักลงทุนรายใหญ่ เจ้ามือหุ้น หรือเจ้าของหุ้นที่ตั้ง "นอมินี" หรือตัวแทนเปิดบัญชีซื้อขายหุ้นแทน

รวมทั้งนักลงทุนต่างชาติและนักลงทุนสถาบันหรือกองทุนในประเทศด้วย

มูลค่าการซื้อขายจะลดฮวบลง เพราะพฤติกรรมการซื้อขายเก็งกำไรด้วยความถี่ในลักษณะวันต่อวันหรือวันละหลายรอบจะถูกจำกัดลง ขณะที่การสร้างราคาหุ้น การพยุงราคาหุ้น หรือการจุดพลุเก็งกำไรหุ้นจะทำได้ยากขึ้น

เพราะรายใหญ่ เจ้ามือหรือเจ้าของหุ้นมีภาระต้นทุนสูงในการโยนคำสั่งซื้อขายเพื่อสร้างภาพลวงตา

มูลค่าการซื้อขายหุ้นที่เกิดจากขาใหญ่ เจ้ามือหรือเจ้าของหุ้น รวมทั้งต่างชาติ เฉลี่ยแต่ละวันน่าจะมีจำนวนหลายหมื่นล้านบาท และถ้านักลงทุนกลุ่มนี้ชะลอหรือพยุงการซื้อขาย มูลค่าการซื้อขายหุ้นรวมของตลาดจะลดลงทันที ซึ่งหมายถึงรายได้จากค่านายหน้าของโบรกเกอร์จะทรุดตาม

หุ้นบริษัทหลักทรัพย์ทำท่าจะกลับมาสู่ความรุ่งโรจน์ อาจต้องเผชิญผลกระทบระลอกใหญ่จากการเก็บภาษีขายหุ้นที่กระทรวงการคลังกำลังทำคลอดออกมา

นักลงทุนที่กำลังวิ่งเข้าใส่หุ้นบริษัทหลักทรัพย์ อย่าเพลิดเพลินกับการเก็งกำไร จนลืมไปว่า ข่าวร้ายกำลังรอถล่มหุ้นกลุ่มนี้

ประกาศเก็บภาษีขายหุ้นเมื่อไหร่ หุ้นบริษัทหลักทรัพย์ดิ่งลงเหวแน่








กำลังโหลดความคิดเห็น