กระทรวงการคลังยังยืนยันเจตนารมณ์เก็บภาษีขายหุ้น วงเงินตั้งแต่ 1 ล้านบาทขึ้นไป ในอัตรา 0.10% มีผลในปี 2565 และจะส่งผลกระทบโดยตรงกับหุ้นที่ขึ้นลงอย่างร้อนแรง จนถูกจับตาว่าอาจมีกลุ่มคนอยู่เบื้องหลังการสร้างราคา
การเก็บภาษีขายหุ้นในอัตรา 0.10% หรือมูลค่าขายหุ้น 1 ล้านบาท ต้องจ่ายภาษี 1,000 บาท กลายเป็นต้นทุนที่นักลงทุนรายใหญ่หรือเจ้ามือหุ้นจะต้องตระหนัก
เพราะนักลงทุนขาใหญ่ หรือเจ้ามือหุ้นซึ่งอยู่เบื้องหลังการลากราคาหุ้น หรือปั่นหุ้น จะต้องคอยพยุงราคาหรือลากราคาหุ้น โดยป้อนคำสั่งซื้อขายตลอดเวลา เพื่อสร้างภาพลวงตานักลงทุนรายย่อย
นักลงทุนรายใหญ่หรือเจ้ามือหุ้น รวมทั้งนักลงทุนต่างประเทศที่ซื้อขายหุ้นรายวัน หรือเดย์เทรดมักจะเปิดบัญชีกับโบรกเกอร์ที่คิดอัตราค่าธรรมเนียม หรือค่านายหน้าซื้อขายหุ้นต่ำๆ
บางโบรกเกอร์คิดค่านายหน้าเพียง 0.03% หรือมูลค่าซื้อขายหุ้น 1 ล้านบาท จ่ายค่านายหน้าเพียง 300 บาท และทำให้โบรกเกอร์บางรายติดอันอับ 1 ใน 5 ของโบรกเกอร์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด แต่ผลกำไรจากการดำเนินงานน้อยมาก เพราะคิดค่านายหน้าต่ำเตี้ยติดดิน
ค่านายหน้าที่ต่ำทำให้ขาใหญ่หรือเจ้ามือ สามารถโยกหุ้น หรือโยนคำสั่งซื้อขายหุ้น เพื่อสร้างภาพลวงตาได้ โดยไม่ต้องพะวงกับต้นทุนมากนัก
แต่หากถูกเก็บภาษีการขายหุ้น ต้นทุนของบรรดานักปั่นหุ้น นักลากหุ้นจะพุ่งขึ้นทันที และถ้าปั่นหุ้นไม่ขึ้น หรือปั่นแล้วรายย่อยไม่ตามแห่เก็งกำไร
รายใหญ่ หรือเจ้ามือหุ้นจะเจ็บหนักเสียเอง
ปี 2564 มีหุ้นที่พุ่งขึ้นอย่างร้อนแรงนับร้อยบริษัท แม้ตลาดหลักทรัพย์จะดำเนินมาตรการกำกับการซื้อขายอย่างเข้มข้น แต่ไม่อาจสยบหุ้นร้อนๆ ได้
หุ้นบริษัทจดทะเบียนนับสิบบริษัท ผลประกอบการขาดทุนติดต่อหลายปี แต่ราคาหุ้นกลับพุ่งขึ้นสวนทาง ราคาเพิ่มขึ้นหลายร้อยเปอร์เซ็นต์ และเมื่อลากหุ้นขึ้นไปแล้วไม่ปล่อยให้ลง เพราะขาใหญ่ยังไม่มีโอกาสเทขายทำกำไร จนต้องพยุงราคาหุ้นมาข้ามปี
และยังมีหุ้นอีกนับสิบบริษัทที่ค่าพี/อี เรโช ระดับ 500 เท่า
แต่เมื่อมีต้นทุนภาษีขายหุ้นที่ต้องจ่าย ขาใหญ่หรือเจ้ามือหุ้นยังจะพยุงราคาหุ้นกันไหวหรือไม่
หุ้นที่ปรับตัวขึ้นอย่างร้อนแรงนับร้อยนับพันเปอร์เซ็นต์ในปี 2564 จึงน่าจับตาว่า ในปีนี้จะรักษาความร้อนแรงได้เพียงใด และราคาหุ้นที่ถูกลากขึ้นไปสู่ยอดดอย โดยไม่มีปัจจัยพื้นฐานรองรับ
ขาใหญ่หรือเจ้ามือจะพยุงราคาหุ้นไว้ได้หรือไม่
เพราะถ้าขาใหญ่หรือเจ้ามือไม่โยนคำสั่งซื้อขายเพื่อพยุงราคา หุ้นที่มีพฤติกรรมปั่นนับสิบๆ ตัว อาจจะปักหัวลงอย่างรุนแรง จนนักลงทุนรายย่อยที่ตามแห่ไปเก็งกำไรขายทิ้งไม่ทัน
หุ้นร้อนปี 2564 กำลังจะเป็นหุ้นอันตรายในปี 2565 และนักลงทุนอาจจะต้องชิงขายทิ้ง ก่อนจะมีการเก็บภาษีขายหุ้น
ภาษีขายหุ้นอาจกระทบต่อการซื้อขายหุ้น จนมูลค่าซื้อขายคงลดลง จากมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยในปี 2564 วันละ 9.38 หมื่นล้านบาท
แต่สิ่งที่ดีคือ พฤติกรรมการซื้อขายในลักษณะเก็งกำไรระยะสั้น วันต่อวันในตลาดหุ้นจะลดลง
และพฤติกรรมการปั่นหุ้นอาจจางหายไป เพราะขาใหญ่หรือเจ้ามือหุ้นจะถูกสยบด้วยภาษี จนไม่คุ้มที่จะปั่นหุ้นต่อไป