แบงก์ชาติลาวเดินหน้าสู่ดิจิทัลมันนี่และคริปโต ฯ อนุมัติศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลจำนวน 2 ใบอนุญาตให้ 3 กลุ่มทุนที่ใกล้ชิดรัฐบาล ตั้งบริษัทกระดานเทรดคริปโต ฯ อย่างเป็นทางการ
ช่วงเช้าวันนี้ (17 ม.ค.) เว็บไซต์เวียงจันทน์ ไทม์ รายงานว่า ธนาคารแห่ง สปป.ลาว (แบงก์ชาติลาว) ได้ให้ใบอนุญาตทำธุรกิจศูนย์ซื้อขาย แลกเปลี่ยนเงินคริปโต และทรัพย์สินดิจิทัล แก่ 2 บริษัท ได้แก่ บริษัท ศูนย์แลกเปลี่ยนทรัพย์สินดิจิทัล ลาว (LDX) และบริษัท ศูนย์แลกเปลี่ยนทรัพย์สินคริปโต (Bitqik) เพื่อให้ทั้ง 2 บริษัทสามารถให้บริการซื้อขาย แลกเปลี่ยนเงินสกุลดิจิทัลอย่างเป็นทางการได้ภายใน สปป.ลาว
ทั้งนี้คาดว่าทั้ง 2 บริษัทจะเริ่มให้บริการได้ภายในเดือนเมษายนที่จะถึงนี้ โดยต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบของแบงก์ชาติลาวอย่างเข้มงวด เพื่อรับประกันความปลอดภัย และคุ้มครองเงินทุนของนักลงทุนจากภัยต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นทางอินเทอร์เน็ต โดย LDX เป็นบริษัทร่วมทุนระหว่างบริษัท AIF กับกลุ่มพงซับทะวี ส่วน Bitqik เป็นการลงทุนของบริษัทในเครือสีเมือง กรุ๊ป
ขณะที่ AIF มีลิดทิกอน พุมมะสัก เป็นบริษัทจัดการลงทุน ทำหน้าที่แม่สื่อจัดสรรเงินทุนให้ธุรกิจที่กำลังขยายตัว หรือมีอนาคตในหลายแขนงของลาว เช่น ธุรกิจพลังงาน และสาธารณูปโภค และยังลงทุนเองในเขื่อนผลิตไฟฟ้า 7 แห่ง กำลังการผลิตรวม 616 เมกะวัตต์ โรงไฟฟ้าพลังลม 4 แห่ง กำลังการผลิตรวม 2,200 เมกะวัตต์ รวมถึงเป็นผู้ลงทุนหลักในธุรกิจน้ำประปาในพื้นที่โซนเหนือของนครหลวงเวียงจันทน์ และยังมีบริษัทในเครือทำธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง
ด้านกลุ่มพงซับทะวี มีพงสะหวัด เสนาพวน เป็นประธาน เริ่มต้นธุรกิจจากรับเหมาก่อสร้าง ต่อมาได้ขยายสู่ธุรกิจพลังงาน โดยเป็นผู้รับเหมาก่อสร้างเขื่อนผลิตไฟฟ้าหลายแห่ง เช่น เขื่อนเซน้ำน้อย 1 และ 6 เขื่อนน้ำเงียบ 3A เขื่อนน้ำซัน 3A และ 3B เขื่อนน้ำใส เขื่อนน้ำแก และเขื่อนน้ำเปิน 1 จากนั้นได้เข้าไปร่วมทุนในโรงไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์ Song Luy 1 ในเวียดนาม และได้เข้าไปถือหุ้นใหญ่ 25% ในบริษัทผลิต-ไฟฟ้าลาว มหาชน (EDL-Gen)
ทั้งนี้เมื่องประมาณปี 2561 พงซับทะวีเริ่มเข้าไปลงทุนเป็นผู้สร้างและบริหารเขื่อนผลิตไฟฟ้าด้วยตนเอง เพื่อขายไฟฟ้าให้เวียดนาม จากข้อมูลล่าสุดเมื่อกลางปีที่แล้ว พงซับทะวีมีเขื่อนผลิตไฟฟ้าในมือทั้งสิ้น 33 โครงการ กำลังการผลิตรวม 748.89 เมกะวัตต์ เขื่อนส่วนใหญ่ตั้งอยู่ในพื้นที่ซึ่งมีชายแดนติดกับเวียดนาม
โดยเมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 2564 VinFast ค่ายรถยนต์สัญชาติเวียดนาม ได้เซ็นสัญญาแต่งตั้งให้กลุ่มพงซับทะวี ให้เป็นผู้ทำตลาดรถยนต์ Vinfast ในลาว สีเมือง กรุ๊ป มีเอกกะพัน พะพิทัก เป็นประธาน เป็นกลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่ มีกิจการหลากหลายอยู่ในเครือ ตั้งแต่ธุรกิจนำเข้า-ส่งออกสินค้า รับเหมาก่อสร้าง ธุรกิจยานยนต์ และธุรกิจพลังงาน โดยได้รับสัมปทานเขื่อนผลิตไฟฟ้าน้ำฮุ่ง ที่แขวงไซยะบูลี และเขื่อนผลิตไฟฟ้าเซละมอง ในแขวงสะหวันนะเขต โดยเมื่อปี 2555 สีเมือง กรุ๊ป ได้เข้าซื้อหุ้นทั้ง 100% ในธนาคารร่วมพัฒนา ธนาคารพาณิชย์เอกชนแห่งแรกของลาว ที่ตั้งขึ้นโดยคุณหญิงสุวรรณี พัวไพโรจน์ แห่งบริษัทพงษ์สุวรรณอบพืชและไซโลจากประเทศไทย ตั้งแต่เมื่อปี 2532
อย่างไรก็ดีลิดทิกอน พุมมะสัก พงสะหวัด เสนาพวน และเอกกะพัน พะพิทัก เป็น 1 ใน 7 คลังสมองด้านเศรษฐกิจของนายกรัฐมนตรี พันคำ วิพาวัน ที่ได้รับการแต่งตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 2564