หุ้นไทยปิดตลาดร่วง -7.39 จุด โบรกฯ ชี้ตลาดหุ้นต่างประเทศกลับมากังวลเฟดเร่งขึ้นดอกเบี้ยเร็วกว่าคาดอีกรอบเพื่อสกัดกระแสเงินเฟ้อที่กำลังร้อนแรง กดดันทำให้เกิดแรงเทขายหุ้นขนาดกลาง-เล็ก ประเมินกรอบการลงทุนสัปดาห์หน้าที่แนวต้าน 1,680 จุด และแนวรับ 1,660 จุด
ตลาดหุ้นไทยปิดทำการซื้อขายวันที่ 14 มกราคม 2565 ปรับตัวลดลง -7.39 จุด หรือ -0.44% โดยปิดที่ 1,672.63 จุด มูลค่าการซื้อขายกว่า 90,986.73 ล้านบาท โดยภาพรวมการซื้อขายหุ้นในวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนลบตลอดทั้งวัน โดยปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 1,680.02 จุด และปรับตัวลดลงต่ำสุดที่ 1,670.70 จุด
ขณะที่หลักทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงในวันนี้เพิ่มขึ้น จำนวน 429 หลักทรัพย์ ไม่เปลี่ยนแปลง จำนวน 512 หลักทรัพย์ และปรับตัวลดลง จำนวน 1,280 หลักทรัพย์
ขณะที่ปริมาณการซื้อขายขายจำแนกตามกลุ่มนักลงทุน พบว่า นักลงทุนสถาบันขายสุทธิกว่า -2,043.80 ล้านบาท และนักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิกว่า -1,059.58 ล้านบาท ในทางกลับกัน พบว่า นักลงทุนในประเทศซื้อสุทธิกว่า 1,544.51 ล้านบาท บัญชี บล. ซื้อสุทธิกว่า 1,558.88 ล้านบาท
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
1.GULF มูลค่าการซื้อขาย 4,846.72 ล้านบาท ปิดที่ 50.25 บาท เพิ่มขึ้น 1.25 บาท
2.SCGP มูลค่าการซื้อขาย 2,492.37 ล้านบาท ปิดที่ 63.25 บาท ลดลง 2.00 บาท
3.CGH มูลค่าการซื้อขาย 2,072.45 ล้านบาท ปิดที่ 2.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.01 บาท
4.EA มูลค่าการซื้อขาย 1,984.67 ล้านบาท ปิดที่ 93.50 บาท ลดลง 2.75 บาท
5.KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,816.50 ล้านบาท ปิดที่ 145.00 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
ด้านดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวบวกเพิ่มขึ้นมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
SAWAD ปิดที่ 66.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.75 บาท หรือ 2.70%
GULF ปิดที่ 50.25 บาท เพิ่มขึ้น 1.25 บาท หรือ 2.55%
MTC ปิดที่ 60.25 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท หรือ 1.69%
KKP ปิดที่ 66.75 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท หรือ 1.52%
TCAP ปิดที่ 41.25 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาท หรือ +1.85%
TISCO ปิดที่ 99.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาท หรือ 0.76%
ส่วนดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวลดลงมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
SYNEX ปิดที่ 34.00 บาท ลดลง 3.00 บาท หรือ 8.11%
RCL ปิดที่ 50.50 บาท ลดลง 2.75 บาท หรือ 5.16%
EA ปิดที่ 93.50 บาท ลดลง 2.75 บาท หรือ 2.86%
RCL ปิดที่ 50.50 บาท ลดลง 2.75 บาท หรือ 5.16%
HANA ปิดที่ 80.25 บาท ลดลง 2.25 บาท หรือ 2.73%
ดัชนี SET100 ปิดที่ 2,273.11 จุด ลดลง -9.45 จุด หรือ -0.41% ดัชนี SET50 ปิดที่ 993.89 จุด ลดลง -3.07 จุด หรือ -0.31% ดัชนีตลาด mai ปิดที่ 682.26 จุด เพิ่มขึ้น 3.48 จุด หรือ 0.51%
นายศราวุธ เตโชชวลิต ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์ บล.อาร์เอชบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวลดลงในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นภูมิภาค ตอบรับความกังวลโอกาสที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าคาด หลังจากเจ้าหน้าที่หลายคนของเฟดออกมาแสดงความเห็นสนับสนุนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อชะลอความร้อนแรงของเงินเฟ้อที่เร่งตัวขึ้น โดยเฉพาะในตลาดหุ้นไทยที่มีแรงเทขายออกมากดดัน โดยเฉพาะหุ้นขนาดกลาง-เล็ก รวมถึงกลุ่มเทคโนโลยีและชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ แต่มีสลับแรงซื้อเข้ามาในกลุ่มแบงก์และไฟแนนซ์ รวมถึงโบรกเกอร์คาดหวังผลประกอบการจะออกมาดี เข้ามาช่วยพยุงดัชนีได้ในระดับหนึ่ง
ส่วนแนวโน้มในสัปดาห์หน้าคาดว่าจะดัชนีแกว่งตัวไซด์เวย์ แนะติดตามการประกาศผลประกอบการกลุ่มแบงก์ที่จะทยอยออกมามากขึ้น โดยเฉพาะแบงก์ขนาดใหญ่ หากออกมาดีจะช่วยหนุนดัชนีหุ้นไทยกลับมาปรับตัวขึ้นได้ โดยประเมินกรอบการลงทุนสัปดาห์หน้าแนวต้านที่ 1,680 จุด และแนวรับที่ 1,660 จุด
