นายทัตซึยะ โคโนชิตะ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ บริษัท กรุ๊ปลีส จำกัด (มหาชน) (GL) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2564 ศาลฎีกาสูงสุดของประเทศไทย มีคำพิพากษาที่เป็นผลดีแก่ กรุ๊ปลีส โดยศาลได้ปฏิเสธคำขอฎีกาของ JTA ในคดีฟื้นฟูกิจการ ที่ยื่นโดย JTA เดิมทีศาลล้มละลายกลาง ได้มีคำสั่งยกคำร้องของ JTA ที่กล่าวหาว่ากรุ๊ปลีสล้มละลาย และต่อมา ศาลอุทธรณ์คดีชำนัญพิเศษ ก็ได้มีคำสั่งยืนตามศาลล้มละลายกลาง และแม้ว่าจะพ่ายแพ้ทางกฎหมายถึง 2 ครั้ง แต่ JTA ยังพยายามยื่นฎีกาคำสั่งไปยังศาลฎีกา จนในวันนี้ ศาลฎีกาได้มีคำสั่งว่าคำตัดสินของศาลฎีกานั้นจะไม่แตกต่างจากคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ ศาลฎีกาจึงได้ยกคำขอฎีกาของ JTA
"ดังนั้น คดีความดังกล่าวจึงถึงที่สุด ทาง JTA จะไม่สามารถยื่นฎีกาได้อีกต่อไป เรารู้สึกยินดีที่เราสามารถเดินหน้าต่อไปได้ และสามารถแสดงให้เห็นว่า คำกล่าวหาของ JTA ที่กล่าวหาว่ากรุ๊ปลีสล้มละลายนั้นเป็นเรื่องหลอกลวง"
นายริกิ อิชิกามิ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ บริษัท กรุ๊ปลีส จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในขณะที่เรารู้สึกยินดีที่ศาลฎีกาได้ยุติข้อสงสัยในเรื่องที่กรุ๊ปลีสมีสถานะล้มละลาย การต่อสู้และการชนะคดีความทางกฎหมายทั้ง 3 ครั้งนั้นมีค่าใช้จ่ายมหาศาล อีกทั้งยังทำให้เราเสียชื่อเสียงอย่างมาก ทั้งในประเทศไทยและในต่างประเทศ บริษัทจึงต้องทำให้มั่นใจว่า JTA จะเป็นผู้รับผิดชอบต่อการกระทำของ JTA และต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นต่อผู้ถือหุ้นของกรุ๊ปลีส
ซึ่งขณะนี้ระบบกฎหมายของไทยได้ยืนยันและทำให้ถึงที่สุดแล้วว่า กรุ๊ปลีสไม่ได้ล้มละลาย และสิ่งที่ JTA กล่าวหานั้นเป็นเรื่องหลอกลวง ซึ่งทำให้ความต้องการของเราที่จะเรียกร้องค่าชดเชยนั้นเพิ่มมากยิ่งขึ้น และบริษัทจะใช้คำพิพากษาของศาลนี้เป็นหลักฐานเพื่อประโยชน์ในรูปคดีของเราในคดีเรียกร้องทางแพ่ง ที่กรุ๊ปลีสได้ยื่นฟ้อง JTA ให้ชดใช้เงิน จำนวน 9,130 ล้านบาท โดยเป็นค่าเสียหายและค่าใช้จ่ายทางกฎหมายที่เกิดขึ้นจากการต่อสู้กับการดำเนินการทางกฎหมายที่ไม่สุจริตของ JTA ในช่วงวันที่ 20 มีนาคม 2561 ถึงวันที่ 11 กันยายน 2563
นอกจากนี้ บริษัทยังจะใช้ผลของศาลฎีกานี้ในการอุทธรณ์ปัจจุบันของเราต่อศาลฎีกา เกี่ยวกับคดีที่เราเคยชนะคดี และได้รับคำพิพากษาให้ได้รับเงิน จำนวน 685 ล้านบาท ซึ่งเป็นค่าเสียหายจากการที่ JTA กล่าวหาว่ากรุ๊ปลีสล้มละลาย ซึ่งต่อมา ค่าเสียหายจำนวน 685 ล้านบาทนั้นได้ถูกศาลอุทธรณ์ กลับคำพิพากษาในชั้นอุทธรณ์ อย่างไรก็ตาม จากความเห็นของศาลฎีกาในวันนี้ เราคาดว่าศาลฎีกาจะพิจารณาให้เป็นคุณต่อรูปคดีของเรา และหวังว่าศาลฎีกาจะเห็นด้วยกับคำตัดสินของศาลชั้นต้น