xs
xsm
sm
md
lg

SET INDEX ปิด -3.59 จุด หลังขึ้นแรงต่อเนื่อง มองสัปดาห์หน้า Sideway 1,630-1,660 จุด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



หุ้นไทยปิดตลาด -3.59 จุด โบรกฯ ชี้แกว่งแคบขนานสะท้อนภาพเดียวตลาดต่างประเทศ มองเป็นการชะลอความร้อนแรง ขณะเดียวกัน ช่วงท้ายตลาดรับผลกระทบจาก FTSE Rebalance มองสัปดาห์หน้าแกว่ง Sideway ประเมินกรอบที่ 1,630-1,660 จุด

ตลาดหุ้นไทยปิดทำการซื้อขายวันที่ 17 ธันวาคม 2564 ปรับตัวลดลง -3.59 จุด หรือ -0.22% มาอยู่ที่ 1,641.73 จุด มูลค่าการซื้อขาย 96,453.20 ล้านบาท โดยภาพรวมดัชนี SET INDEX วันนี้เคลื่อนไหวในแดนลบเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 1,646.85 จุด และปรับตัวลดลงต่ำสุดที่ 1,637.09 จุด

ขณะที่ส่วนหลักทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงในวันนี้เพิ่มขึ้น จำนวน 514 หลักทรัพย์ ไม่เปลี่ยนแปลง จำนวน 523 หลักทรัพย์ และปรับตัวลดลง จำนวน 1,060 หลักทรัพย์

ขณะที่ปริมาณการซื้อขายขายจำแนกตามกลุ่มนักลงทุน พบว่า นักลงทุนในประเทศซื้อสุทธิกว่า 1,287.50 ล้านบาท และบัญชี บล. ซื้อสุทธิกว่า 195.17 ล้านบาท ในทางกลับกันพบว่า นักลงทุนสถาบันขายสุทธิกว่า -1,467.12 ล้านบาท และนักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิกว่า -15.55 ล้านบาท

ขณะที่หลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับ ได้แก่
1.EA มูลค่าการซื้อขาย 8,759.27 ล้านบาท ปิดที่ 93.25 บาท ลดลง 4.75 บาท
2.SCGP มูลค่าการซื้อขาย 4,619.44 ล้านบาท ปิดที่ 67.75 บาท เพิ่มขึ้น 3.25 บาท
3.KBANK มูลค่าการซื้อขาย 3,592.19 ล้านบาท ปิดที่ 141.00 บาท ลดลง 2.00 บาท
4.GPSC มูลค่าการซื้อขาย 3,543.38 ล้านบาท ปิดที่ 78.25 บาท เพิ่มขึ้น 1.25 บาท
5.AOT มูลค่าการซื้อขาย 3,475.50 ล้านบาท ปิดที่ 59.50 บาท ลดลง 1.00 บาท

ด้านดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวบวกเพิ่มขึ้นมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.SCGP ปิดที่ 67.75 บาท เพิ่มขึ้น 3.25 บาท หรือ 5.04%
2.TQM ปิดที่ 106.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.00 บาท หรือ 2.91%
3.CBG ปิดที่ 120.50 บาท เพิ่มขึ้น 3.00 บาท หรือ 2.55%
4.CPALL ปิดที่ 60.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.25 บาท หรือ 2.11%
5.GPSC ปิดที่ 78.25 บาท เพิ่มขึ้น 1.25 บาท หรือ 1.62%

ด้านดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวลดลงมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
DELTA ปิดที่ 426.00 บาท ลดลง 12.00 บาท หรือ 2.74%
EA ปิดที่ 93.25 บาทลดลง 4.75 บาท หรือ 4.85%
HANA ปิดที่ 92.00 บาท ลดลง 3.25 บาท หรือ 3.41%
SCB ปิดที่ 125.00 บาท ลดลง 3.00 บาท หรือ 2.34%
KCE ปิดที่ 90.00 บาท ลดลง 2.25 บาท หรือ 2.44%

ดัชนี SET100 ปิดที่ 2,236.03 จุด ลดลง -6.75 จุด หรือ -0.30% ส่วนดัชนี SET50 ปิดที่ 977.86 จุด ลดลง -2.65 จุด หรือ -0.27% และดัชนีตลาด mai ปิดที่ 570.19 จุด ลดลง -3.19 จุด หรือ -0.56%

นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ ผู้อำนวยการอาวุโสนักกลยุทธ์การลงทุน ฝ่ายวิจัย บล.เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) กล่าวถึงภาพรวมตลาดหุ้นวันนี้ว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งแคบสะท้อนภาพเดียวกับตลาดต่างประเทศ โดยตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียวันนี้เคลื่อนไหวในแดนบวก-ลบสลับกัน ขณะที่ตลาดในยุโรปเทรดบ่ายนี้ติดลบเล็กน้อยประมาณ 0.3% โดยวานนี้ได้มีการปรับตัวขึ้นค่อนข้างแรง ซึ่งการที่ดัชนีแกว่ง Sideway ในวั้นนี้ มองว่าเป็นการชะลอความร้อนแรง โดยในช่วงท้ายตลาดอาจรับผลกระทบจาก FTSE Rebalance แต่คงจะไม่มาก และวอลุ่มเทรดโดยรวมของตลาดอาจจะมีมากขึ้น

ขณะที่แนวโน้มการลงทุนในสัปดาห์หน้ามองว่าภาพรวมอาจจะแกว่ง Sideway ถึง Sideway up ในลักษณะสร้างฐานแต่ยังแกว่งขึ้นได้อยู่ จากแรงหนุนการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในสัปดาห์หน้าที่จะมีการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจช่วยเป็นแรงส่งให้การลงทุน ซึ่งเชื่อว่าน่าจะมีหลายโครงการออกมา

อย่างไรก็ดี แนะนำนักลงทุนให้ติดตามการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในวันที่ 22 ธ.ค.นี้ โดยจับตามุมมองเศรษฐกิจ ซึ่งเชื่อว่าน่าจะค่อยๆ ฟื้นตัว และให้ติดตามตัวเลขส่งออกของไทยที่จะออกมาในวันที่ 23 ธ.ค.นี้ด้วย รวมถึงติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิดสายพันธุ์โอมิครอน หลังจากที่อังกฤษมีจำนวนผู้ติดเชื้อที่เร่งตัวขึ้นมาก โดยประเมินกรอบการแกว่งตัวที่ประมาณ 30 จุด ระหว่าง 1,630-1,660 จุด


กำลังโหลดความคิดเห็น