อนันดาฯ เดินหน้าเพิ่มพอร์ตรายได้ประจำ กระจายความเสี่ยงรายได้ระยะยาวหลังฝ่าวิกฤตเศรษฐกิจและโควิด-19 กดตลาดอสังหาฯ หดตัวนานกว่า 2 ปี กระทบยอดขาย-รายได้รวม ล่าสุด เตรียมเปิดให้บริการเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ พร้อมเดินหน้าขยายพอร์ตรายได้ประจำ จับมือ ดิ แอสคอทท์ ลิมิเต็ด พันธมิตรระดับโลกลุยธุรกิจปล่อยเช่า มั่นใจ บิสิเนสโมเดลในการสร้างการเติบโตของธุรกิจ Recurring income ตั้งเป้า 5 ปีรายได้ประจำแชร์รายได้รวมกว่า 20%
นายชานนท์ เรืองกฤตยา ประธานเจ้าหน้าบริหาร บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในช่วงที่ผ่านมา อนันดาฯ พยายามจะขยายพอร์ตรายได้ในกลุ่มธุรกิจ Recurring income อย่างต่อเนื่องเพื่อเป็นการกระจายความเสี่ยง เพิ่มรายได้ประจำให้ริษัท ซึ่งจะเป็นผลดีต่อบริษัทในระยะยาวโดยเฉพาะในช่วงที่เกิดภาวะวิกฤตทำให้บริษัทไม่ต้องพึ่งพารายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์เพียงด้านเดียว โดยที่ผ่านมา นอกจากการขยายธุรกิจเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์แล้ว ธุรกิจเกี่ยวเทคโนโลยี อย่างเช่นธุรกิจ Blockchain เป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่บริษัทก้าวเข้ามาลงทุนเพื่อเป็นอีกช่องทางการเพิ่มพอร์ตรายได้ประจำ
สำหรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 มีทิศทางที่ดีขึ้นภายใต้นโยบายเปิดประเทศ สงผลดีต่อความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจและผู้บริโภค รวมถึงตลาดอสังหาริมทรัพย์ส่งสัญญาณการฟื้นตัว นอกจากนี้ ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 อัตราการเข้าพักภาพรวมของเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์อยู่ที่ประมาณ 50-55% ในขณะที่โรงแรมอยู่ที่ประมาณ 27% ซึ่งอัตราการเข้าพักของเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์สูงกว่าโรงแรมเนื่องมาจากดีมานด์ของการเข้าพักแบบ Long stay ยังคงมีอยู่จากกลุ่มชาวต่างชาติ ซึ่งต่างจากโรงแรมที่เน้นการเข้าพักแบบ Short stay จากกลุ่มนักท่องเที่ยวเพียงกลุ่มเดียว ทำให้วิกฤตการณ์โควิด-19 ในครั้งนี้ส่งผลกระทบต่อธุรกิจเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ไม่มากนักถ้าเทียบกับธุรกิจโรงแรม
ทั้งนี้ อนันดาฯ ได้วางกลยุทธ์เชิงรุกเพื่อรองรับการเติบโตในระยะยาวด้วยโครงการเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ 5 โครงการ รวม 1,809 ยูนิต มูลค่า 12,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นการร่วมทุนกับพันธมิตรกลุ่มมิตซุย ฟูโดซัง ได้แก่ โครงการแอสคอทท์ ทองหล่อบางกอก โครงการแอสคอทห์ แอมบาสซี่ สาทร โครงการซัมเมอร์เซ็ต พระราม 9 โครงการซัมเมอร์เซ็ต พัทยา และโครงการไลพี สุขุมวิท 8 บางกอก เพื่อสร้างรายได้ประจำ และรองรับดีมานด์ชาวต่างชาติที่จะกลับเข้ามาทำงานในประเทศไทย (Expat) นักธุรกิจ และนักท่องเที่ยว ซึ่งมีความจำเป็นต้องการเช่าที่อยู่อาศัย ทำให้เซอร์วิสอพาร์ตเมนต์เป็นตัวเลือกอันดับต้นๆ
"ในปี 2565 อนันดาฯ จะมีโครงการเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์หลายเซกเมนต์ และหลายทำเล เพื่อรองรับตลาดนักท่องเที่ยวที่กำลังรีบาวนด์ (Rebound) กลับมา โดยโครงการเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์จะสามารถเปิดดำเนินการได้ทั้ง 5 โครงการ และจะเริ่มรับรู้รายได้ในลำดับต่อไป คาดว่าจะมีรายได้ประจำ (Recurring Income) กว่า 20% โดยจะสามารถบันทึกเป็นรายได้ใน 5 ปี ซึ่งอนันดาฯ ได้รับความร่วมมือจากพันธมิตรชั้นนำระดับโลก ดิ แอสคอทท์ ลิมิเต็ด หรืออพาร์ทเนอร์ ซึ่งเป็นเบอร์หนึ่งทางด้านเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ระดับโลกที่มีระบบ CRM ให้บริการลูกค้ามีฐานลูกค้ากว่า 1.2 แสนยูนิต ที่แอสคอทท์บริหารอยู่กว่า 200 เมือง ใน 30 ประเทศทั่วโลก"