"เฮลท์ลีด" เทรดวันแรกพุ่งเหนือจอง 58.16% เทียบจากราคาไอพีโอ 9.80 บาทต่อหุ้น ตอกย้ำนักลงทุนมั่นใจพื้นฐานธุรกิจ ผู้บริหารเผยแนวโน้มธุรกิจในอีก 1-3 ปีข้างหน้ามีโอกาสเติบโตอีกมากตามแนวโน้มอุตสาหกรรมสุขภาพที่เป็นเมกะเทรนด์โลก พร้อมปูพรมขยายสาขาในแหล่งชุมชนทุกระดับดันยอดขายเพิ่ม เร่งพัฒนาผลิตภัณฑ์นวัตกรรมใหม่ หนุนอนาคตโตแรงขึ้นแท่นหุ้น Growth Stock
ภก.ธัชพล ชลวัฒนสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เฮลท์ลีด จำกัด (มหาชน) HL เปิดเผยว่า์ หุ้นบริษัทฯ ได้เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพยเอ็ม เอ ไอ (mai) ในหมวดบริการ เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2564 เป็นวันแรก ปรากฏว่า ได้รับความสนใจจากนักลงทุนทั่วไปและสถาบันอย่างดีเยี่ยม โดยเปิดซื้อขายที่ 15.50 บาท เพิ่มขึ้น 5.70 บาท หรือ 58.16% เทียบจากราคาไอพีโอที่ 9.80 บาท สะท้อนถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีต่อปัจจัยพื้นฐานของบริษัทฯ ในฐานะธุรกิจร้านขายยาค้าปลีกในรูปแบบ Chain Drug Store รายแรกที่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai ที่มีโอกาสเติบโตได้อีกมากตามแนวโน้มของอุตสาหกรรมสุขภาพ ซึ่งเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมเมกะเทรนด์ของโลกที่จะเติบโตในระยะยาว
"ต้องขอขอบคุณผู้ถือหุ้นและนักลงทุนที่ให้การต้อนรับ HL อย่างอบอุ่น ทีมงานและผู้บริหารของบริษัทฯ พร้อมเดินหน้าขยายธุรกิจตามแผนที่วางไว้เพื่อสร้างโอกาสการเติบโตในอนาคต โดยกลุ่มบริษัทมีแผนการขยายสาขาอย่างต่อเนื่องโดยมุ่งเน้นในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และปริมณฑล เนื่องจากเป็นโลเกชันที่มีมูลค่าทางการตลาดที่สูง โดยมีแผนเปิดสาขาจำนวน 4-5 สาขาต่อปี ซึ่งจะช่วยสนับสนุนให้ยอดขาย และรายได้เติบโตอย่างต่อเนื่อง เบื้องต้นคาดว่าจะใช้เงินลงทุนตั้งแต่ระดับ 2-6 ล้านบาทต่อสาขา"
เขากล่าวอีกว่า แนวโน้มการดำเนินธุรกิจในอีก 1-3 ปีข้างหน้า คาดว่าผลประกอบการของ HL จะมีการเติบโตอย่างก้าวกระโดด เนื่องจากจะมีการร่วมพัฒนาผลิตภัณฑ์นวัตกรรมใหม่ร่วมกับองค์กรพันธมิตร ซึ่งเป็นสินค้าที่มีความสามารถในการทำกำไรระดับสูง และเป็นผลิตภัณฑ์ที่ช่วยดูแลป้องกัน รักษาสุขภาพ โดยปัจจุบันมีความต้องการที่เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน และได้รับความนิยมสูงในกลุ่มผู้ที่ดูแลรักษาสุขภาพ ขณะที่สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ยังคงเป็นปัจจัยที่ช่วยสนับสนุนให้มีการดูแลสุขภาพมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง จะทำให้ความต้องการผลิตภัณฑ์เพิ่มขึ้น ช่วยผลักดันการเติบโตระยะยาวและมีความยั่งยืน
นายสมภพ กีระสุนทรพงษ์ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้ประชาชนทั่วไป (IPO) ของ HL กล่าวว่าึ การเข้าเทรดในวันแรกได้รับการตอบรับอย่างคึกคัก เนื่องจากนักลงทุนมั่นใจในปัจจัยพื้นฐานของบริษัทฯ ที่มีความแข็งแกร่ง ซึ่งเห็นได้ชัดจากผลประกอบการที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง สำหรับเงินที่ได้จากการเสนอขาย IPO ในครั้งนี้บริษัทฯจะนำไปใช้สำหรับการขยายสาขา และใช้เป็นทุนหมุนเวียน เพื่อรองรับการเติบโตในช่วง 1-3 ปีข้างหน้า เพิ่มโอกาสในการสร้างรายได้และกำไรทำให้ธุรกิจเติบโตแข็งแกร่งในระยะยาว
"เชื่อว่า HL จะเป็นหุ้นที่สร้างผลตอบแทนที่ดีให้ผู้ลงทุนในอนาคต เนื่องจากมีแนวโน้มการเติบโตสูง โดยเฉพาะความสามารถในการทำกำไร หากพิจารณาตั้งแต่ปี 2561-2563 กลุ่มบริษัทฯ มีกำไรสุทธิจำนวน 0.39 ล้านบาท จำนวน 21.77 ล้านบาท และจำนวน 52.08 ล้านบาท ล่าสุดงวด 9 เดือน มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 57.53 ล้านบาท ซึ่งจะเห็นการเติบโตถึงร้อยละ 48.84% จากงวดเดียวกันของปีก่อนหน้า และภายหลังจากเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai มีฐานทุนที่พร้อมสนับสนุนให้มีศักยภาพผลักดันการเติบโตได้มากขึ้น" นายสมภพ กล่าวในที่สุด
ทั้งนี้ HL ได้เสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้ประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 72 ล้านหุ้น คิดเป็น 26.47% ของจํานวนหุ้นที่ออกและเรียกชําระแล้วทั้งหมด ได้แบ่งจัดสรรหุ้นเสนอขายต่อประชาชน จำนวน 64,800,000 หุ้น คิดเป็น 23.82% เสนอขายต่อกรรมการ ผู้บริหาร และพนักงานของบริษัทฯ และบริษัทย่อย จำนวน 7,200,000 หุ้น คิดเป็น 2.65%
