"เวิลด์เฟล็กซ์" หุ้นไอพีโอน้องใหม่ ผู้นำตลาดเส้นด้ายยางยืดชั้นนำระดับโลก ปลื้ม! กระแสตอบรับโรดโชว์บนแพลตฟอร์มออนไลน์คึกคึก ชู 6 จุดเด่น “สินค้ามีความหลากหลาย-ดีมานด์เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง-ได้เปรียบทางภูมิศาสตร์-ผู้ผลิตเส้นด้ายยางยืดรายใหญ่ของโลก-ทีมการตลาดและฝ่ายขายมีความเชี่ยวชาญ-การพัฒนาสินค้าอย่างยั่งยืน มั่นใจแนวโน้มผลการดำเนินงานโต
นายรัฐชัย ธีระธนาวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม ฝ่ายวาณิชธนกิจ-ด้านตลาดทุน บริษัทหลักทรัพย์ เคทีบีเอสที จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน บริษัท เวิลด์เฟล็กซ์ จำกัด (มหาชน) (WFX) เปิดเผยว่า ในวันที่ 22 พฤศจิกายน 2564 ที่ผ่านมา ทีมผู้บริหาร WFX และที่ปรึกษาทางการเงินได้ร่วมกันนำเสนอข้อมูล (โรดโชว์) บนแพลตฟอร์มออนไลน์ให้กับนักลงทุนทั่วไป และนักลงทุนสถาบันได้เข้าใจถึงภาพรวมธุรกิจและแผนการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ เพื่อฉายให้เห็นถึงศักยภาพในการเติบโต หลังเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) โดยคาดว่าจะสามารถระดมทุนและเข้าจดทะเบียนได้ภายในเดือนธันวาคม 2564
“การโรดโชว์ผ่านรูปแบบออนไลน์ ภายใต้ยุค New Normal ในครั้งนี้ ได้รับการตอบรับจากนักลงทุนทั่วไป และนักลงทุนสถาบันอย่างดีเยี่ยม เนื่องจาก WFX ผู้นำตลาดเส้นด้ายยางยืดชั้นนำระดับโลก ที่มีการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง จากกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจที่มีความชัดเจนมาก ในการขยายตลาดใหม่ และแผนขยายกำลังการผลิตเพิ่มอีก 14,200 ตัน/ปี จากปัจจุบัน 3.5 หมื่นตัน/ปี จะช่วยผลักดันยอดขาย และกำไรขั้นต้นสูงขึ้น จากต้นทุนการผลิตต่อหน่วยที่ลดลง (Economies of Scale) ส่งผลให้ธุรกิจเติบโตอย่างต่อเนื่อง”
นายรัฐชัย กล่าวว่า ผลการดำเนินงานของบริษัทฯที่เติบโตอย่างโดดเด่นในช่วงที่ผ่านมา ไม่ได้โตเพราะฟลุ๊ค หรือโควิด แต่เกิดขึ้นจากการวางแผนงานรองรับไว้เป็นอย่างดีตั้งแต่ปี 2562 ด้วยการเพิ่มกำลังการผลิต การขยายตลาดใหม่ เพื่อเพิ่มโอกาสเติบโต โดยปัจจุบันสินค้าของ WFX ส่งออกไปต่างประเทศประมาณ 98% ส่วนที่เหลือราว 2% อยู่ในประเทศไทย โดยกลุ่มลูกค้ารายใหญ่อยู่ในประเทศจีน คิดเป็นสัดส่วนราว 60-70% การเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯในครั้งนี้ จะช่วยสนับสนุนรายได้โตติดสปริง
นายชวลิต ติยาเดชาชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เวิลด์เฟล็กซ์ จำกัด (มหาชน) (WFX) กล่าวว่า บริษัทฯมี 6 จุดเด่นที่สนับสนุนธุรกิจเติบโตอย่างแข็งแกร่ง ประกอบด้วย 1.ผลิตภัณฑ์ครอบคลุมสินค้าในหลากหลายอุตสาหกรรม 2.ผลิตภัณฑ์เป็นที่ต้องการอย่างต่อเนื่อง 3.ความได้เปรียบทางภูมิศาสตร์ 4.ผู้ผลิตเส้นด้ายยางยืดรายใหญ่ของโลก 5.ทีมการตลาดและทีมฝ่ายขายที่มีความเชี่ยวชาญ และ 6.การพัฒนาสินค้าอย่างยั่งยืน
“เห็นได้ชัดว่าจากความได้เปรียบทางภูมิศาสตร์ เมื่อเทียบกับประเทศคู่แข่ง เนื่องจากไทยถือเป็นผู้ผลิตน้ำยางพาราข้นรายใหญ่ของโลก ขณะที่ WFX เป็นบริษัทลูก บริษัท ไทยรับเบอร์ลาเท็คซ์กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (TRUBB) ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ผลิตน้ำยางข้นในไทย เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัท ช่วยให้บริษัทฯเข้าถึงวัตถุดิบที่มีคุณภาพ ทำให้มั่นใจว่าแนวโน้มผลการดำเนินงานจะเติบโตอย่างแข็งแกร่งตามกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้น”
นายณัฐ วงศาสุทธิกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท เวิลด์เฟล็กซ์ จำกัด (มหาชน) (WFX) กล่าวว่า จากดีมานด์ที่มีอยู่อย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอ ความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ ส่งขาย 50 ประเทศทั่วโลก อีกทั้งมีทีมวิจัยและพัฒนา ที่ติดตามคู่แข่งตลอด สามารถตอบสนองความลูกค้าได้อย่างหลากหลาย ทำให้มั่นใจว่าจะรักษาการเติบโตได้มากกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรม
ทั้งนี้ WFX เตรียมเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 142 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) 1 บาท/หุ้น คิดเป็น 30.59% ของหุ้นที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ ภายหลังการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนในครั้งนี้ ซึ่งแบ่งออกเป็น 3 ส่วน ประกอบด้วย 1.เสนอขายให้กับผู้ถือหุ้นของบริษัท ไทยรับเบอร์ลาเท็คซ์กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (TRUB) ตามสัดส่วนการถือหุ้น TRUBB (Pre-emptive Right) จำนวนไม่เกิน 11,360,000 หุ้น 2.เสนอขายให้แก่กรรมการ ผู้บริหาร และพนักงานของบริษัทฯ จำนวนไม่เกิน 14,200,000 หุ้น และ 3.เสนอขายต่อประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 116,440,000 หุ้น