เคทีซีเผยแผนปีหน้าตั้งเป้าพอร์ตสินเชื่อที่ 9.5 หมื่นล้าน แต่อยู่ระหว่างหารือกับกรุงไทยที่จะปรับเพิ่มจนแตะ 1 แสนล้าน ขณะที่กำไรมั่นใจทำนิวไฮอีกครั้งไม่ต่ำกว่า 6 พันล้าน แต่กำไรปีนี้จะถูกกระทบจากการตั้งสำรองเคทีบีลีสซิ่ง
นายระเฑียร ศรีมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) (KTC) กล่าวว่า แผนงานของบริษัทในปี 2565 นั้น ในเบื้องต้นได้ตั้งเป้าหมายยอดคงค้างที่ระดับ 95,000 ล้านบาท แต่ขณะนี้อยู่ระหว่างการหารือกับทางธนาคารกรุงไทย ซึ่งเป็นบริษัทแม่เพื่อปรับเป้าหมายยอดคงค้างสินเชื่อเป็น 100,000 ล้านบาท เนื่องจากมองว่าจากสถานการณ์ต่างๆ รวมถึงตัวธุรกิจของบริษัทเองอยู่ในวิสัยที่สามารถทำได้ในระดับดังกล่าว แต่อย่างไรก็ตาม ต้องรอความช้ดเจนอีกรอบหนึ่ง เนื่องจากยังต้องมีปัจจัยอื่นๆ ที่ต้องพิจารณาร่วมด้วย ขณะที่กำไรของบรืษัทในปีนี้อาจถูกกระทบด้วยการตั้งสำรองหนี้สงสัยจะสูญของบริษัท กรุงไทยลีสซิ่ง (KTBL) ซึ่งจะเป็นค่าใช้จ่ายที่กระทบเพียงครั้งเดียว
"เรามั่นใจว่ารายได้และกำไรในปี 65 จะทำสถิติสูงสุดใหม่อีกครั้ง หรือไม่น่าต่ำกว่า 6,000 ล้านบาท หลังจากแนวโน้มเศรษฐกิจเริ่มกลับมาฟื้นตัวได้ดี หลังจากเริ่มเปิดประเทศตั้งแต่เดือน พ.ย.64 ประกอบกับสถานการณ์โควิด-19 เริ่มมีทิศทางที่ดีขึ้น ขณะที่การปรับเป้าหมายสินเชื่อเพิ่มขึ้นนั้นแม้จะมองว่าเราอยู่ในวิสัยที่ทำได้ แต่ต้องพิจารณาในหลายด้าน โดยเฉพาะค่าใช้จ่ายที่จะตามมา พร้อมกันนั้น ยังต้องมีการหารือร่วมกันอีกหลายด้าน โดยเฉพาะในด้านเทคโนโลยี ซึ่งทางธนาคารถือเป็นหนึ่งในผู้นำด้านนี้เช่นกัน แม้ว่าปัจจุบันเคทีซีอาจจะไม่ดูโดดเด่นด้านไอทีมากนัก แต่เรามีความเชื่อมั่นในด้านบิสิเนส โมเดลของเราว่าสามารถทำรายได้ได้ดี ดังนั้น ส่วนที่ต้องทำคือ การนำตัวเองไปเชื่อมต่อกับเทคโนโลยีของธนาคารที่มีความโดดเด่นมากอยู่แล้ว โดยในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าจะมีการประกาศถึงเป้าหมายที่ชัดเจน ทั้งในส่วนของเคทีซีเอง และเคทีซีพี่เบิ้ม รวมถึงเคทีบีลีสซิ่งด้วย"
ส่วนเรื่องมาตรการรวมหนี้ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) นั้น ตามปกติพอร์ตของเคทีซีหากลูกค้ามีการผิดนัดชำระหนี้เกินกว่า 6 เดือน จะมีการตัดออกจากพอร์ตอยู่แล้ว ส่วนที่ยังไม่ถึงหรือมีการจ่ายไม่สม่ำเสมอนั้นอยู่ในการดูแลอยู่แล้ว ซึ่งเราคงจะไม่ได้นำส่วนของสถาบันการเงินอื่นมารวมเนื่องจากเป็นหนี้ที่ไม่มีหลักประกัน แต่สถาบันการเงินอื่นจะนำหนี้เคทีซีไปรวมก็ไม่มีปัญหาถ้าจะทำให้สถานะโดยรวมของหนี้ดีขึ้น
ด้านนายชุติเดช ชยุติ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน เคทีซี กล่าวว่า เป้าหมายทางธุรกิจของเคทีซีปี 65 คาดว่า ยอดใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตจะเติบโต 10% ส่วนสินเชื่อบุคคลจะเติบโต 7% และสินเชื่อพี่เบิ้มจะอยู่ที่ 2,500 ล้านบาท ด้านหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) คาดว่าจะใกล้เคียงกับปีนี้ สำหรับปัจจุบัน NPL อยู่ที่ 3.8% ณ ไตรมาส 3/64 ซึ่งเป็นส่วนที่รวมกับหนี้เอ็นพีแอลของ KTBL แล้ว ขณะที่ความคืบหน้าในการการชำระราคาค่าหุ้น KTBL ในส่วนที่เหลือคาดว่าจะชำระภายหลังการตรวจสอบตามเงื่อนไขเสร็จสิ้นภายในเดือนพฤศจิกายนนี้ ซึ่งมูลค่ารวมอาจมีการปรับราคาซื้อขายหุ้นต่ำลงหรือสูงขึ้นตามเงื่อนไขการชำระราคา โดยจะแจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ในวันที่ 29-30 พฤศจิกายนนี้
"ภายหลังการชำระราคาเรียบร้อยแล้ว สิ่งที่จะเกิดขึ้นคือ การตั้งสำรองเพิ่มเติมใน KTBLโดยจะเป็นรายการที่เกิดขึ้นในครั้งเดียว ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อกำไรในปีนี้ แต่ยืนยันว่าจะเห็นผลกระทบจากรายการพิเศษที่เกิดขึ้นครั้งเดียวเท่านั้น และจะไม่กระทบกับการจ่ายเงินปันผลอย่างแน่นอน"
