xs
xsm
sm
md
lg

PFจ่อเซ็นสัญญาขายโรงแรมหนุนรายได้ คาดท่องเที่ยวเริ่มฟื้นตัวครึ่งหลังปี65

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


นายศานิต อรรถญาณสกุล
ผู้บริหารพร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค เผยเตรียมขายโรงแรมให้กับนักลงทุนรายใหม่ ตามแผนบริหารแอสเสท คาดจะหนุนรายได้ ชำระหนี้ และรองรับการดำเนินธุรกิจ คาดอัตราการเข้าพักโรงแรมจะกลับมาฟื้นตัวได้ระดับ 50-60% ครึ่งหลังปี 65 และเติบโตอย่างชัดเจนต้นปี 66 แนะรัฐหามาตรการชะลอการก่อสร้างโรงแรมใหม่ หยุดเติมซัปพลาย หวั่นดีมานด์นักท่องเที่ยวหดตัวรุนแรง ชี้ภาพอสังหาฯปี 65 บ้านเดี่ยวและทาวน์เฮาส์ ราคาเกินกว่า 5 ล้านบาทยังเติบโตได้ดี

นายศานิต อรรถญาณสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) หรือ PF เปิดเผยถึงการเปิดประเทศเพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวว่า น่าจะดี แต่ภาพรวมของการท่องเที่ยวแย่มานาน ก็ไม่รู้ว่าจะดีมากหรือดีน้อย โดยทางบริษัทฯประเมินว่า การท่องเที่ยวน่าจะฟื้นตัวได้ตั้งแต่กลางปี 2565 ซึ่งอัตราการเข้าพักน่าจะปรับตัวมากขึ้นในอัตรา 50-60% เมื่อเทียบกับปี 2562 แต่คาดว่าจะฟื้นตัวอย่างชัดเจนประมาณต้นปี 2566 เนื่องจากแม้ประเทศไทยจะมีการฉีดวัคซีนอย่างต่อเนื่อง แต่ต้องใช้เวลาอย่างน้อย1 ปีในการปรับเข้าสู่ภาวะปกติ ขณะที่ประชาชนชาวจีนกว่าจะได้รับการฉีดวัคซีน mRNA คงต้องใช้เวลา ทำให้กลุ่มนักท่องเที่ยวชาวจีนยังไม่ได้เข้ามาเต็มที่

" วิธีการบริหารธุรกิจ ทางบริษัทฯคงต้องหาวิธีใหม่ๆในการฟื้นตัว ต้องคิดอะไรใหม่ๆมากขึ้น ต้องรอให้พร้อมก่อน ซึ่งธุรกิจโรงแรมในรอบ 2 ปี โดนหนักมาก เป็นธุรกิจที่มีส่วนสำคัญต่อจีดีพีประมาณ 20 เปอร์เซ็นต์ ดังนั้น รัฐบาบต้องเร่งรัดการแก้ไขกลุ่มท่องเที่ยวให้เร็วที่สุด เนื่องจากคนที่ทำงานในธุรกิจโรงแรมกระจายตัวค่อนข้างมาก การจะใช้แคมเปญ ไทยเที่ยวไทย คิดว่ายังไม่แรงพอ ซึ่งเรามองว่า ฝั่งดีมานด์ แก้ยากเดิม ประเทศไทยมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทยประมาณ 40 ล้านคน แต่ปีนี้คงไม่ถึง 10 ล้านคน สัดส่วนน้อยมาก ดังนั้น ควรไปแก้ที่ซัปพพลาย โดยให้ชะลอการก่อสร้างโครงการโรงแรมใหม่ๆ ออกไปก่อนอย่างน้อย 2-3 ปี ซึ่งภาคสถาบันการเงินอาจจะชะลอการปล่อยสินเชื่้อโครงการออกไป เนื่องจากซัปพลายยังมีจำนวนมาก โดยน่าจะเข้าไปดูแลส่วนนี้น่าจะเหมาะกว่า"นาย ศานิต กล่าว

อย่างไรก็ตาม ในส่วนของแผนธุรกิจในช่วงที่เหลือของปี 2564 ทางบริษัทฯได้เตรียมที่จะขายโรงแรมให้กับนักลงทุนรายใหม่ ซึ่งขณะนี้ ตกลงในรายละเอียดเรียบร้อยแล้ว แต่ไม่สามารถเปิดเผยได้ เนื่องจากยังไม่ได้แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย แต่คาดว่าทุกอย่างจะแล้วเสร็จภายในไตรมาส 4 นี้ ซึ่งรายได้ที่เข้ามาจะนำไปชำระหนี้กับสถาบันการเงินและเป็นเงินทุนหมุน เวียนในการดำเนินธุรกิจต่อไป และในปี 2565 ทางบริษัทฯยังคงมีแผนที่จะขายสินทรัพย์ออกไป เพื่อเป็นการบริหารสภาพคล่องให้กับบริษัท

สำหรับภาพรวมธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในปี 2565 นั้น ประเมินว่า ที่อยู่อาศัยประเภทบ้านเดี่ยวและทาวน์เฮาส์ยังไม่มีปัญหา ยังมีการเติบโตในกลุ่มระดับราคากลางถึงบน ตั้งแต่ราคา 5 ล้านบาทขึ้นไป แต่กลุ่มที่ลดลงมา จะมีปัญหาเรื่องการเข้าถึงสินเชื่อและปัญหาหนี้ครัวเรือนที่ยังอยู่ระดับสูง ขณะที่กลุ่มคอนโดมิเนียมคาดว่าจะต้องใช้เวลาในการฟื้นตัวอีกระยะหนึ่ง เนื่องจากลูกค้าต่างชาติจะกลับมาซื้อโครงการคอนโดฯน่าจะประมาณครึ่งหลังของปี 2565.
กำลังโหลดความคิดเห็น