"อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ฯ" เผยผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 2564 ผลการดำเนินงานเป็นไปตามที่คาดการณ์ ทั้งยอดขายและยอดโอน โดยมียอดโอนสูงถึง 1,746 ล้านบาท จากโครงการพร้อมอยู่ที่ได้รับการตอบรับที่ดีอย่างต่อเนื่องจากลูกค้า พร้อมปิด 3 โครงการรวดในเดือน พ.ย.นี้ นอกจากนี้ ยังสามารถสร้างการเติบโตของยอดขายได้แบบดับเบิลดิจิทอีกด้วย โดยขณะนี้มีแบ็กล็อกกว่า 12,800 ล้านบาท ตอบรับความต้องการของลูกค้าที่เพิ่มขึ้นจากการผ่อนคลายมาตรการ LTV หลังจากนี้เตรียมลุยเปิดตัวธุรกิจใหม่และโครงการใหม่ ในวันจันทร์นี้ (15 พ.ย.) ทาง ANANDA FB LIVE
นายเสริมศักดิ์ ขวัญพ่วง ประธานเจ้าหน้าที่สายงานการเงิน บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ ANAN ผู้นำแห่งวงการพัฒนาที่อยู่อาศัยสำหรับคนเมือง ครองตำแหน่งผู้นำตลาดคอนโดมิเนียมติดรถไฟฟ้า กล่าวว่า เศรษฐกิจในไตรมาส 3 ยังคงมีความท้าทายสูงผลจากการระบาดโควิด-19 ระลอกใหม่ที่รุนแรงกว่าไตรมาส 2 ทำให้มีมาตรการล็อกดาวน์เกือบตลอดทั้งไตรมาส 3 ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยในวงกว้างและทำให้ความเชื่อมั่นผู้บริโภคลดลงอย่างต่อเนื่อง
ผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ในไตรมาส 3 ปี 2564 ทั้งยอดขายและยอดโอนเป็นที่น่าพอใจ อีกทั้งบริษัทฯ ยังคงมุ่งเน้นธุรกิจหลักเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน สามารถลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารจัดการ จำนวน 316 ล้านบาท ลดลงถึง 21% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน และลดลงอีก 9% จากไตรมาสก่อนหน้า
ในไตรมาส 3 ปี 2564 บริษัทฯ มียอดโอนทั้งสิ้น 1,746 ล้านบาท สูงกว่าที่ประมาณการไว้ และมีสัดส่วนยอดโอนจากลูกค้าชาวต่างประเทศใกล้เคียงจากปีก่อนที่ระดับ 20% ขณะที่มียอดขายรวม 2,403 ล้านบาท ใกล้เคียงกับประมาณการ โดยยอดขายส่วนใหญ่มาจากโครงการพร้อมอยู่ที่ความต้องการซื้ออสังหาริมทรัพย์มีอย่างต่อเนื่อง แม้ในช่วงที่มีสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่รุนแรงก็ตาม
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังสามารถสร้างการเติบโตของยอดขายได้แบบดับเบิลดิจิทในช่วงเดือนสิงหาคมถึงตุลาคมที่ผ่านมา ที่ระดับ 10-30% และเตรียมปิดการขายเพิ่มอีก 3 โครงการรวดภายในเดือนพฤศจิกายนนี้ ได้แก่ โครงการไอดีโอ โมบิ วงศ์สว่าง-อินเตอร์เชนจ์ มูลค่า 1,573 ล้านบาท โครงการไอดีโอ โมบิ บางซื่อ-แกรนด์ อินเตอร์เชนจ์ มูลค่า 2,272 ล้านบาท และโครงการ แอริ พระราม 5-ราชพฤกษ์ มูลค่า 682 ล้านบาท โดยมีมูลค่ารวมกว่า 4,527 ล้านบาท สะท้อนให้เห็นว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์และกำลังซื้อของผู้บริโภคเริ่มฟื้นตัวกลับมา และหลังจากนี้เตรียมลุยเปิดตัวธุรกิจใหม่และโครงการใหม่ เพื่อก้าวต่อไปอย่างมั่นคงและแข็งแกร่งในอนาคต
ในปี 2564 นี้ถือเป็นอีกปีที่ต้องปรับตัวอยู่ตลอดเวลาเพื่อรองรับสถานการณ์ที่มีการเปลี่ยนแปลงรับมือกับความเสี่ยง และความไม่แน่นอนที่อาจจะเกิดขึ้นได้ โดยที่การควบคุมการแพร่ระบาดในประเทศ และวัคซีนป้องกันไวรัสโควิด-19 จะเป็นปัจจัยสนับสนุนทำให้การท่องเที่ยวกลับมาฟื้นตัวและกำลังซื้อจากลูกค้าชาวต่างชาติโดยเฉพาะลูกค้าชาวจีนที่มีความต้องการซื้อสูงจะเป็นตัวช่วยให้แนวโน้มและความมั่นใจกลับมาดีขึ้น และเชื่อว่าเมื่อสถานการณ์เริ่มคลี่คลายลงทุกอย่างจะกลับสู่ภาวะปกติ ผู้คนจะเริ่มกลับมาใช้ชีวิตในเมือง
ณ สิ้นไตรมาส 3 บริษัทฯ ยังคงรักษากระแสเงินสดกว่า 5,900 ล้านบาท ทั้งยังได้รับการสนับสนุนที่แข็งแกร่งและต่อเนื่องจากสถาบันการเงินชั้นนำและมีทางเลือกในการจัดหาแหล่งเงินทุนที่หลากหลายสามารถเลือกใช้ได้ตามสถานการณ์ มีเป้าหมายในการรักษาอัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยสุทธิต่อทุนไว้ภายใต้เป้าหมายระยะยาวที่ 1:1