พบอุบายแท็กซี่รับเงินโอนผ่านแอปฯ ธนาคาร อ้างยอดเงินไม่เข้าทั้งๆ ที่ผู้โดยสารจ่ายแล้ว แต่บ่ายเบี่ยงไม่ยอมให้ดูแอปฯ พยายามบีบให้จ่ายเงินสด ท้าโทร.แจ้งตำรวจแต่พอตำรวจกำลังมากลับขับรถหลบหนี
วันที่ 11 พ.ย. ในยุคที่ประชาชนส่วนหนึ่งหันมาใช้วิธีการโอนเงินจ่ายค่าแท็กซี่ผ่านมือถือแทนเงินสด เพื่อความสะดวก ลดการสัมผัสธนบัตรและเหรียญ ลดความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโควิด-19 ปรากฏว่าเมื่อมีผู้ใช้ติ๊กต็อกรายหนึ่ง โพสต์ข้อความเตือนภัยระบุว่า "เตือนภัย ตอนแรกก็คิดว่าเงินไม่เข้าจริงๆ ก็เลยรอ แต่ป้าก็บอกให้ไปกดเงินสดมาเพราะป้าจะไปแล้ว เราเลยให้ รปภ.เรียกตำรวจ ป้าก็..ชิ่งหนีไปเลย" ก่อนจะอธิบายเพิ่มเติมว่า "ไอ้เราก็จะรีบไปกินข้าวต่อ แต่ป้าก็พยายามตื๊อ เราก็คิดว่าเงินไม่เข้าจริงๆ เลยจะช่วย แต่ป้าก็บอกไม่ไว้ใจ ก็จะให้ รปภ.มาช่วยดูโทรศัพท์ก็ไม่ยอมอีก จุดที่เราเริ่มคิดว่าป้าอาจจะโมเม เพราะมีพี่นิติคอนโดฯ เขาช่วยลงมาดูโทรศัพท์ให้ป้า แต่ป้าก็กดโทรศัพท์มั่วๆ พี่เขาก็เลยมาบอกเรา คือถ้าเป็นคนอื่นรำคาญก็คงไปกดเงินสดให้มันจบๆ เพราะป้าเสียงดังบวกโวยวาย แต่โชคดีเพื่อนเรามาพอดี เลยไม่ได้ไปกดให้ป้า
จากคลิปจะเห็นว่าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อผู้โดยสารรายหนึ่งใช้บริการรถแท็กซี่สีเหลือง ซึ่งมีสุภาพสตรีวัยกลางคนเป็นคนขับ เมื่อไปถึงคอนโดมิเนียมแห่งหนึ่ง ระยะทาง 13.4 กิโลเมตร ค่าโดยสาร 111 บาท จึงได้จ่ายเงินโดยการโอนเงินผ่านมือถือไปยังบัญชีของคนขับรถ ปรากฏว่าแม้จะทำรายการโอนสำเร็จ แต่คนขับรถแท็กซี่พยายามเปิดแอปฯ ธนาคาร แล้วอ้างว่ายอดเงินไม่เข้า ถามว่ามีวิธีอื่นไหมเพราะเสียเวลา ต้องหาลูกค้าเพราะใกล้จะหมดเวลา เมื่อถามว่าเช็กเงินเข้าหรือยัง ก็ได้คำตอบว่ายังไม่มีเงินเข้า อ้างว่าจะมีข้อความแจ้งเตือน (Notification) ทุกครั้งที่ลูกค้าจ่ายเงิน
แม้ผู้โดยสารพยายามให้คนขับรถแท็กซี่เปิดแอปพลิเคชันธนาคารเพื่อเช็กยอดเงินโดยตรงแต่ก็บ่ายเบี่ยง ผู้โดยสารจึงกล่าวว่า พวกตนไม่มีเงินสดนะ คนขับรถแท็กซี่กล่าวว่า งั้นแจ้งตำรวจ แค่ร้อยกว่าบาททำไมไม่จ่าย ผู้โดยสารยืนยันว่าได้จ่ายเงินไปแล้ว คนขับรถแท็กซี่ก็โวยวายว่าเงินไม่เข้า ต่อมา รปภ.ของนิติบุคคลคอนโดมิเนียมเดินเข้ามา คนขับรถแท็กซี่ก็โวยวายว่า เขาโอนมาบอกว่าเงินเข้าแล้ว เงินในบัญชีตนเช็กแล้วมันไม่เข้า ผู้โดยสารจึงได้โทร.เรียกตำรวจ กระทั่งก่อนที่ตำรวจจะมาถึงคนขับรถแท็กซี่กล่าวว่า เอาเบอร์มา เดี๋ยวพรุ่งนี้จะไปเช็กที่ธนาคาร ผู้โดยสารกล่าวว่า เดี๋ยวตำรวจจะมาแล้ว จะให้เขามาฟรีหรือไง ก่อนที่คนขับรถแท็กซี่คนดังกล่าวจะขึ้นรถแล้วขับออกไป โดยมีปากเสียงกับผู้โดยสารเล็กน้อย
อ่านโพสต์ต้นฉบับ คลิกที่นี่
ด้านชาวเน็ตต่างมีความเห็นแตกต่างกันไป บางคนก็เคยโดนในลักษณะเช่นนี้ คือโอนเงินค่าแท็กซี่แล้วแต่คนขับอ้างว่าไม่เข้า แต่ก็ไม่ได้โอนอีกเพราะมั่นใจว่าเงินเข้าแล้ว ตนเห็นมือถือมีเสียงข้อความเข้าแต่กลับไม่ให้ดู หลังจากนั้นก็บอกว่าทำบุญแล้วก็ขับรถไป บางคนกล่าวว่า แม้จะไม่แจ้งเตือนแต่ในแอปฯ มีประวัติการโอนเงิน เว้นเสียแต่ว่าระบบจะล่ม ในกรณีที่ไม่ยอมให้ดูแบบป้าคือตั้งใจจะโกง (จ่ายค่าโดยสารซ้ำสอง) แต่ลูกค้าฉลาดกว่า บางคนตั้งข้อสังเกตว่าคนขับรถน่าจะตั้งใจโกง ไม่เช่นนั้นก็ยอมเข้าแอปฯ ธนาคารแล้ว ป้าบอกว่าจะแจ้งตำรวจแต่พอตำรวจจะมาป้าก็หนีไปก่อน หลายความเห็นแนะนำให้ผู้โดยสารแจ้งความเอาผิดคนขับรถแท็กซี่รายนี้ จะได้ไม่ไปทำแบบนี้กับใครอีก