นายอารักษ์ สุธีวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บล.ไทยพาณิชย์ กล่าวว่า การที่ บล.ไทยพาณิชย์ (SCBS) เข้าซื้อหุ้นสามัญในสัดส่วน 51% ของจำนวนหุ้นทั้งหมดจาก บิทคับ แคปปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ ทำให้เป็นผู้ถือหุ้นหลักในบริษัท บิทคับ ออนไลน์ จำกัด (Bitkub) ซึ่งเป็นผู้นำด้านศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลของไทย (Digital Asset Exchange) ในส่วนของการให้บริการ Exchange โดยการลงทุนดังกล่าวเป็นไปตามยุทธศาสตร์ของกลุ่มที่มุ่งสร้างการเติบโตระยะยาวและวางรากฐานธุรกิจการเงินแห่งโลกอนาคต โดย บล.ไทยพาณิชย์ได้รับหน้าที่ในการผลักดันสร้างธุรกิจและสร้างระบบนิเวศทางด้านสินทรัพย์ดิจิทัลที่มี Digital Asset Exchange เป็นหนึ่งในโครงสร้างพื้นฐานสำคัญ
นายอารักษ์ กล่าวว่า การลงทุนใน Bitkub Online ครั้งนี้นับเป็นการลงทุนในธุรกิจที่สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ยานแม่ SCBX ในการยกระดับสู่กลุ่มบริษัทเทคโนโลยีการเงิน สามารถตอบสนองความต้องการใหม่ของผู้บริโภค สามารถแข่งขันกับคู่แข่งระดับโลกได้อย่างทัดเทียม และสามารถเข้าสู่สนามการแข่งขันแบบใหม่ที่กำลังจะเกิดขึ้นโดยเร็วในอีก 3-5 ปีข้างหน้า อีกทั้งยังสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ของ บล.ไทยพาณิชย์ในเรื่องของการสร้าง Ecosystem ให้ธุรกิจ Digital Assets เพื่อตอบรับการแข่งขันและบริบทที่เปลี่ยนแปลงไปของโลก ทำให้เกิดความได้เปรียบทางการแข่งขันอย่างเป็นรูปธรรม
โดยมีเป้าหมายที่จะเป็นผู้นำในการให้บริการด้านการลงทุนและสินทรัพย์ดิจิทัลที่น่าเชื่อถือของภูมิภาคอาเซียน ทำให้ทุกคนสามารถเข้าถึงการลงทุนในประเภทของสินทรัพย์ที่หลากหลายที่จะมี Digital Assets เข้ามาเสริม ผ่านความเชี่ยวชาญจากบุคลากรและเทคโนโลยี และเพื่อให้สอดรับกับเป้าหมายดังกล่าว SCBS จะดำเนินธุรกิจในรูปแบบทั้งที่ประกอบธุรกิจเองและประกอบธุรกิจผ่านบริษัทลูก ซึ่งเชื่อว่าการดำเนินธุรกิจในลักษณะนี้จะทำให้สามารถสร้างและเปิดโอกาสใหม่ๆ ให้ธุรกิจอย่างเต็มที่
การเข้าซื้อหุ้นจะอยู่ภายใต้การปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) โดยมีเงื่อนไขว่าผลการสอบทาน (Due Diligence) ในส่วนที่เป็นสาระสำคัญต้องเป็นที่น่าพอใจ และคาดว่าจะเสร็จสิ้นภายในไตรมาส 1/65 หากมีความคืบหน้าบริษัทจะแจ้งให้ทราบเป็นระยะต่อไป
อย่างไรก็ตาม ในด้านของธุรกิจหลักของ บล.ไทยพาณิชย์ทั้ง 3 ส่วนนั้น บริษัทยังคงมุ่งมั่นในการต่อยอดธุรกิจ Trading & Securities การเร่งการเติบโตให้ธุรกิจ Digital Securities เช่นเดียวกับ Digital Assets ในความร่วมมือกับพันธมิตรอย่าง Bitkub ที่จะพัฒนาธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลด้านต่างๆ ผ่านโมเดลทางธุรกิจแบบใหม่ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
โดยเพื่อให้แน่ใจว่าในปี 68 บริษัทจะสามารถประสบความสำเร็จในการเป็นบริษัทหลักทรัพย์ที่อยู่ในใจผู้บริโภค เป็นผู้นำในการให้บริการด้านดิจิทัลและบริการที่เกิดจากนวัตกรรม ทำให้บริษัทสามารถสร้างการเติบโตให้ธุรกิจและมีฐานลูกค้าเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด
"ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่าการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้จะเป็นสิ่งที่ทำให้ทุกคนมีความหวัง และเห็นโอกาสที่จะทำให้ SCBS เติบโตและเข้าใกล้เป้าหมายยิ่งขึ้น และเชื่อมั่นว่าสิ่งเหล่านี้จะช่วยสร้างการเติบโตและความมั่นคงให้องค์กรทั้งในระยะสั้นและระยะยาวกับบริบทใหม่ของโลกนี้" นายอารักษ์ กล่าว