นายผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย (KTB) กล่าวว่า การที่รัฐบาลจะมีการเริ่มเปิดประเทศในวันที่ 1 พฤศจิกายนที่จะถึงนี้ นับว่าเป็นเรื่องที่ดี ซึ่งรัฐบาลได้เน้นย้ำมาตลอดถึงความสำคัญการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ เร่งการฉีดวัคซีน และการอยู่ร่วมให้ได้กับโควิด-19 ซึ่งทำให้ภาคธุรกิจและเอกชนมีความมั่นใจขึ้น ดังจะเห็นได้จากการประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชน (กกร.) วานนี้ที่ได้มีการยกระดับมุมมองอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจในปีนี้ที่ 0-1% หรือไม่ติดลบ และมองว่าการเติบโตของเศรษฐกิจจะมีความโดดเด่นขึ้นในปี 2565 หากการใช้เงินจากมาตรการของรัฐเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงการเพิ่มเพดานหนี้สาธารณะเป็น 70% ของจีดีพี จะทำให้ภาครัฐมีพื้นที่ในการดำเนินมาตรการต่างๆ ในการกระตุ้นเศรษฐกิจมากขึ้น
ขณะที่กรุงไทยซึ่งเป็นธนาคารของรัฐ มุ่งมั่นในการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการต่างๆ เพื่อรองรับ New Economy และตอบโจทย์พฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไปของประชาชน โดยการสร้างแอปพลิเคชันเป๋าตัง ซึ่งเป็น Thai-land Open Digital Platform ซึ่งสามารถเชื่อมโยงทั้งภาครัฐ เอกชน และประชาชนอย่างไร้รอยต่อ ดังจะเห็นได้จากจำนวนผู้ใช้แอปที่มีอยู่กว่า 33 ล้านคน ที่เข้าสู่ระบบดิจิทัลขั้นพื้นฐานเพื่อรองรับสู่สังคมดิจิทัลในอนาคต
ล่าสุด นอกจากระบบการชำระเงินผ่านแอปเป๋าตังแล้ว ธนาคารได้ต่อยอดไปสู่การเข้าถึงตลาดเงินแะการลงทุน โดยได้ร่วมกับบริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท.สผ. ในการเสนอขาย “หุ้นกู้ดิจิทัล ปตท.สผ.” บนช่องทางออนไลน์เต็มรูปแบบผ่านวอลเล็ต บนแอปเป๋าตัง เงินลงทุนเริ่มต้นเพียง 1,000 บาท จ่ายดอกเบี้ยทุก 6 เดือน ถือเป็นการสร้างโอกาสเข้าถึงการลงทุนหุ้นกู้ภาคเอกชนอย่างเท่าเทียม ตอบโจทย์สร้างผลตอบแทนที่มั่นคง ด้วยอันดับความน่าเชื่อถือที่ “AAA” จากทริสเรทติ้ง ซึ่งเป็นการต่อยอดจากก่อนหน้านี้ที่ได้เปิดให้จองซื้อพันธบัตรออมทรัพย์รุ่นวอลเล็ต สบม.ของกระทรวงการคลังผ่านแอปเป๋าตังไปแล้ว ซึ่งได้รับผลตอบรับที่ดี พร้อมกันนั้น ธนาคารจะเดินหน้าพัฒนาระบบต่อไปเพื่อให้ครอบคลุมในกลุ่มต่างๆ มากขึ้น
"ที่ผ่านมา เรามักจะเห็นแอปที่รองรับโครงการเยียวยาหรือสวัสดิการต่างๆ ของรัฐ รวมถึงกลุ่ม Health อย่างโครงการหมอพร้อม แต่ขณะนี้แอปเป๋าตังได้ก้าวไปอีกขั้นคือเข้าสู่เรื่องของ Saving และ Wealth ซึ่งจะเป็นรากฐานการออมของคนกลุ่มใหญ่ซึ่งมีความสำคัญต่อเศรษฐกิจรวมในอนาคต ด้วยการเปิดซื้อขายพันธบัตรทั้งในตลาดแรกและตลาดรอง ที่จะเข้าถึงกลุ่มคนในวงกว้าง เนื่องจากมีวงเงินขั้นต่ำในการซื้อเพียง 1,000 บาท และสามารถซื้อขายในตลาดรองได้ 24 ชั่วโมงเมื่อต้องการใช้เงิน หรือจะสะสมความมั่งคั่งด้วยการถือไว้รับดอกเบี้ยในทุกครึ่งปีก็ได้ ซึ่งเราเชื่อว่าการเปิดขายหุ้นกู้ปตท.สผ.ในวันที่ 2-4 พฤศจิกายนนี้ ระบบของแอปเป๋าตังจะสามารถรองรับธุรกรรมได้อย่างเพียงพอ เช่นเดียวกับที่เราได้ทำมาแล้วกับพันธบัตร G Wallet ของ สบน.ที่ผ่านมา ซึ่งมีวงเงิน 10,000 ล้านบาท และขายหมดเพียง 2 ชั่วโมง 45 นาทีเท่านั้น"