โบรกเกอร์รุมหั่นเป้ากำไร HMPRO ไตรมาส 3 และปี 64 ทั้งปี หลังโควิด-19 ฉุดกำลังซื้อลดลง แต่เชื่อเป็นจุดต่ำสุดของปีแล้ว ขณะที่ผลงานในโค้งสุดท้ายจะเริ่มฟื้นตัวจากโควิด-19 ที่คลี่คลายลง และเริ่มกลับมาเปิดเมือง ขณะที่กำไรปี 65 จะเริ่มฟื้น และกลับมาเติบโต 10-20% เมื่อเทียบกับปีนี้ ยังคงแนะนำซื้อ ให้ราคาเป้าหมาย 15-17 บาท
การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ยังมีต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2563 โดยเฉพาะการระบาดในระลอกที่ 3 และเริ่มรุนแรงที่สุดในช่วงเดือนก.ค.-ส.ค. ส่งผลกระทบอย่างหนักต่อกลุ่มธุรกิจค้าปลีก โดยเฉพาะยอดขายที่ลดลง และการสั่งล็อกดาวน์ของรัฐบาล ซึ่งบริษัท โฮมโปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) (HMPRO) ก็เป็นหนึ่งในบริษัทที่ได้รับผลกระทบอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยโบรกเกอร์ส่วนใหญ่ต่างปรับลดประมาณการกำไรในไตรมาสที่ 3 ลดลง จากผลกระทบดังกล่าว รวมทั้งกำไรทั้งปี 2564 แม้ว่าผลงานในช่วงไตรมาสที่ 4 จะเริ่มฟื้นตัวก็ตาม
โนมูระคาดกำไรโค้ง 3 หด 31% ส่วนทั้งปีหั่นกำไรลง 10%
บทวิเคราะห์หลักทรัพย์จาก บล.โนมูระ พัฒนสิน เปิดเผยว่า ได้ประเมินกำไรสุทธิไตรมาส 3/64 ของ HMPRO ไว้ที่ 930 ล้านบาท หดตัว 31% จากปีก่อน และหดตัว 35% จากไตรมาสก่อน ซึ่งคาดว่าเป็นจุดต่ำสุดของปี 64 เนื่องจากในช่วงดังกล่าว HMPRO ได้รับผลกระทบรุนแรงจากการแพร่ระบาดโควิด-19 ทำให้สาขาในประเทศไทย และมาเลเซียบางส่วนต้องปิดให้บริการชั่วคราวตามมาตรการล็อกดาวน์
ทั้งนี้ ปัจจัยดังกล่าวจะทำให้อัตราการเติบโตของยอดขายสาขาเดิม (SSSG) ของ HMPRO ในช่วงไตรมาส 3/64 ติดลบทุก Format พร้อมกับรายได้ค่าเช่าพื้นที่ในช่วงไตรมาส 3/64 ของ HMPRO จะลดลงอย่างมีนัยสำคัญ
นอกจากนี้ ได้ปรับลดประมาณการกำไรสุทธิปี 64 ของ HMPRO ลงจากเดิม 10% เหลือ 5 พันล้านบาท หดตัว 3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยมีสาเหตุหลักจากการแพร่ระบาดโควิด-19 ที่กระทบผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 3/64 ของ HMPRO รุนแรงกว่าคาดไว้เดิม แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 16 บาท
KTBST คาดกำไรปีนี้โตแค่ 1.39% แต่ปี 65 คาดกำไตโต 20%
ด้าน บล.เคทีบีเอสที ได้ปรับลดประมาณการกำไรสุทธิปี 64 ของ HMPRO ลงจากเดิม 3% เหลือ 5.2 พันล้านบาท เติบโตขึ้น 1.39% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีสาเหตุหลักจากการปรับลดรายได้ปี 64 ลงจากเดิม 3% เหลือ 5.91 หมื่นล้านบาท หลังได้รับผลกระทบจากมาตรการล็อกดาวน์ในช่วงไตรมาส 3/64 ทำให้ HMPRO ต้องปิดให้บริการสาขาชั่วคราวรวมทั้งหมด 39 สาขา
ขณะเดียวกัน มองว่าผลการดำเนินงานของ HMPRO จะเริ่มฟื้นตัวขึ้นตั้งแต่ไตรมาส 4/64 เป็นต้นไป โดยมีปัจจัยหนุนจากการเริ่มเปิดประเทศ เนื่องจาก HMPRO มีสาขาอยู่ในเมืองท่องเที่ยว เขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล มากที่สุดเมื่อเทียบกับกลุ่ม
ประเมินว่าผลการดำเนินงานของ HMPRO จะเริ่มฟื้นตัวอย่างเป็นรูปธรรมในช่วงปี 65 เนื่องจากเป็นช่วงที่การแพร่ระบาดโควิด-19 คลี่คลายลง ประกอบกับ การเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างประเทศจะมีอัตราสูงกว่าปี 64 ช่วยให้ยอดขายในเมืองท่องเที่ยวที่ลดลงตลอดในช่วงการแพร่ระบาดโควิด-19 ฟื้นตัวขึ้น โดยคาดกำไรสุทธิปี 65 ของ HMPRO ไว้ที่ 6.2 พันล้านบาท เติบโตขึ้น 20% จากปีก่อน แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมายที่ 15 บาท
UOBK ประเมินโค้ง 3 กำไรลดลง 42% จากปีก่อน
บทวิเคราะห์หลักทรัพย์จาก บล.โยอูบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) ประเมินกำไรสุทธิไตรมาส 3/64 ของ HMPRO ไว้ที่ 818 ล้านบาท ลดลง 42% จากปีก่อน และลดลง 43% จากไตรมาสก่อน เนื่องจากได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดโควิด-19 ระลอก 3 และ 4 รุนแรง จนทำให้ต้องปิดบริการชั่วคราวสาขาที่อยู่ในพื้นที่ควบคุมสูงสุด
ขณะเดียวกัน แม้ HMPRO จะกลับมาเปิดให้บริการสาขาทั้งหมดแล้วตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย.ที่ผ่านมา แต่การฟื้นตัวของยอดขายหลังเปิดให้บริการรอบใหม่ยังทำได้ช้า เนื่องจากการบริโภคภายในประเทศยังคงอ่อนแอ ประกอบกับขาดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของรัฐบาล
KGI เชื่อ Q3 เป็นจุดต่ำสุด Q4 เริ่มฟื้น
ด้าน บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) ประเมินว่า ผลการดำเนินงานของ HMPRO ได้ผ่านจุดต่ำสุดในช่วงไตรมาส 3/64 ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยประเมินว่ากำไรสุทธิของ HMPRO จะเริ่มฟื้นตัวขึ้นตั้งแต่ไตรมาส 4/64 เป็นต้นไป มีปัจจัยหนุนจากการเข้าสู่ไฮซีซันของธุรกิจ ประกอบกับการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ของรัฐบาล และการกระจายวัคซีนเป็นวงกว้างขึ้น จะช่วยให้กำลังซื้อผู้บริโภคทยอยฟื้นตัวขึ้นในช่วงดังกล่าว แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 15 บาท
หยวนต้าคาดกำไรปี 65 โต 10%
ส่วน บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ประเมินกำไรสุทธิปี 65 ของ HMPRO ไว้ที่ 5.9 พันล้านบาท เติบโตขึ้น 10% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีปัจจัยหนุนจากการแพร่ระบาดโควิด-19 คลี่คลาย และการเปิดประเทศ ส่งผลให้กำลังซื้อของผู้บริโภค และยอดขายฟื้นตัวขึ้น แนะนำซื้อเก็งกำไร ให้ราคาเป้ามาย 17 บาท