โบรกฯ มองแนวโน้มดัชนีเช้าแกว่งไซด์เวย์จากปัจจัยนอกประเทศกดดัน ขณะที่ปัจจัยในประเทศดีขึ้นตามลำดับ แม้จะมีแรงกดดันจากสถานการณ์น้ำท่วม แต่ก็เป็นผลดีต่อกลุ่มวัสดุก่อสร้าง อย่าง HMPRO สำหรับผลประกอบการของ บจ. งวดไตรมาส 3/64 คาดว่าจะออกมาไม่ดีเท่าไร อย่างไรก็ดีสามารถลงทุนหุ้นที่ยัง Laggard และหุ้นที่ได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐฯ
นายถนอมศักดิ์ สหรัตน์ชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการและหัวหน้าฝ่ายวิจัย บล.กรุงไทย ซีมิโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะแกว่งไซด์เวย์คล้ายคลึงกับตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่เช้านี้แกว่งทั้งในแดนบวก-ลบ หลังจากบริษัท ไชน่า เอเวอร์แกรนด์ กรุ๊ป ผิดนัดชำระหนี้เป็นครั้งที่ 2
อีกทั้งปัจจัยหลักยังต้องจับตาเรื่องเพดานหนี้ของสหรัฐฯ เพราะทำให้มีผลต่อการ Shut Down ของบริษัทฯในสหรัฐฯ รวมถึงอัตราผลตอบแทนพันธบัตร (Bond yield) สหรัฐฯยังคงอยู่ในระดับสูงที่ 1.5% ซึ่งจะต้องติดตามดูว่า Bond yield จะปรับตัวขึ้นอีกหรือไม่ เพราะหากยังขึ้นอยู่ก็จะเป็นผลลบต่อตลาดหุ้น
ขณะที่ปัจจัยในประเทศดูดีขึ้นตามลำดับ แม้จะมีแรงกดดันจากสถานการณ์น้ำท่วม แต่ก็เป็นผลดีต่อกลุ่มวัสดุก่อสร้าง อย่าง HMPRO สำหรับผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนงวดไตรมาส 3/64 คาดว่าจะออกมาไม่ดีเท่าไร อย่างไรก็ดีสามารถลงทุนหุ้นที่ยัง Laggard และหุ้นที่ได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐฯ
ดังนั้น ตลาดฯคงจะแกว่งในกรอบไม่กว้าง โดยมีแนวรับ 1,610-1,600 จุด ส่วนแนวต้าน 1,620-1.630 จุด