"เค.ดับบลิว.เม็ททัล เวิร์ค" ลั่นไตรมาส 3/64 เติบโตไม่ต่ำกว่า 50% และส่อแววโตต่อเนื่องในไตรมาส 4/64 รับภาพรวมอุตสาหกรรมเกษตรโตดีตามราคาสินค้าเกษตรที่สูงขึ้น หนุนความต้องการเครื่องจักรทางการเกษตรเพิ่ม พร้อมส่งซิกธุรกิจเครื่องสกัดสดใส เตรียมส่งมอบเครื่องสกัดในโค้งสุดท้ายปีนี้ 10 เครื่อง และมีดีลลูกค้าใหม่อีก 10 ราย
น.ส.ติยาภรณ์ วนโกสุม กรรมการผู้จัดการ บริษัท เค.ดับบลิว.เม็ททัล เวิร์ค จำกัด (มหาชน) หรือ KWM ผู้นำในการประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายอุปกรณ์ที่ใช้ในการเกษตรและมีประสบการณ์ด้านวิศวกรรมเครื่องกล และผู้นำด้านการผลิตเครื่องสกัดระบบ Supercritical CO2 Extraction กัญชง-กัญชา และสมุนไพรไทย สัญชาติไทยรายแรกของประเทศ เปิดเผยว่า ภาพรวมอุตสาหกรรมการเกษตรซึ่งเป็นธุรกิจหลักของ KWM ในช่วงครึ่งปีหลังยังสามารถเติบโตอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ เป็นผลจากแรงขับเคลื่อนในการใช้สินค้าเครื่องจักรและอุปกรณ์การเกษตรเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยจะเห็นจากดีมานด์การใช้กลุ่มเครื่องจักร และอุปกรณ์เกษตรที่มีความต้องการใช้เพิ่มสูงขึ้น จนส่งผลให้บริษัทฯ ต้องใช้กำลังการผลิตสูงถึง 80% จากก่อนหน้านี้ใช้กำลังผลิตอยู่ราว 50% และจากอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่องของภาคการเกษตรทั้งการเพาะปลูก รวมถึงราคาสินค้าที่ปรับตัวในทิศทางที่ดีขึ้น เป็นแรงผลักดันให้เกษตรกรขยายการผลิตเพิ่มขึ้นตาม
ทำให้บริษัทฯ ได้รับอานิสงส์เชิงบวกในช่วงที่เหลือของปีนี้ ส่งผลให้บริษัทฯ คาดการณ์รายได้ไตรมาส 3/2564 มีโอกาสเติบโตได้มากกว่า 50% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แม้ว่าจะเป็นช่วงโลว์ซีซันของบริษัทฯ แต่หากพิจารณาจากยอดขายในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา ยอมรับว่ามีอัตราการการเติบโตของยอดขายที่โดดเด่น ซึ่งจะส่งผลเชิงบวกต่อเนื่องไปยังไตรมาส 4/2564 ดังนั้น จากปัจจัยดังกล่าวทำให้บริษัทฯ ตั้งเป้ารายได้ปี 2564 เพิ่มขึ้น 40% เมื่อเทียบจากปีก่อนที่มีรายได้ 355.06 ล้านบาท
นอกจากนี้ บริษัทฯ ได้วางงบลงทุนไว้ 50 ล้านบาท เพื่อเพิ่มเครื่องจักรในการผลิตไลน์ใหม่ ซึ่งจะเป็นไลน์การผลิตที่ 3 ในระบบออโตเมชัน ที่สามารถลดการใช้แรงงานและสามารถผลิตได้รวดเร็วยิ่งขึ้น โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จในช่วงไตรมาส 1/2565 นอกจากนี้ ยังมีแผนขยายการลงทุนในคลังสินค้าเพื่อรองรับความต้องการสินค้าช่วงไฮซีซันที่มีความต้องการสินค้ามากกว่าช่วงเวลาปกติ 2-3 เท่าตัว ซึ่งคลังสินค้าดังกล่าวคาดว่าจะแล้วเสร็จในไตรมาส 2/2565
“บริษัท สยามคูโบต้า คอร์ปอเรชั่น จำกัด มีการเพิ่มไลน์การผลิตภายใต้แบรนด์ “ตราช้าง” รวมถึงสินค้าภายใต้แบรนด์ “Pegasus” ซึ่งเป็นตราสินค้าของบริษัทเองที่ผลิตอุปกรณ์การเกษตร เช่น ใบผาล ใบจักร ใบคัดท้าย โครงผาล ใบดันดิน ใบเกลียวลำเลียง ซึ่งความต้องการใช้สินค้าดังกล่าวมีการขยายตัวเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นการตอกย้ำให้เห็นถึงดีมานด์ของกลุ่มลูกค้าเกษตรที่มีเข้ามาต่อเนื่อง”
นายอุกฤษณ์ วนโกสุม รองกรรมการผู้จัดการ KWM กล่าวถึงความคืบหน้าการติดตั้งเครื่องสกัดกัญชง-กัญชา รวมถึงพืชสมุนไพรว่า ปัจจุบันบริษัทฯ ได้พัฒนาเครื่องสกัดเป็นรุ่นที่ 2 KWM EXTRACTOR 2.0 ภายใต้รูปแบบการสกัด Supercritical CO2 Extraction (ในกลุ่มธรุกิจ SOIL - OIL – EXTRACTION) ที่การันตีศักยภาพเครื่องสกัดสัญชาติไทยที่เปรียบเท่าเครื่องสกัดจากต่างประเทศ โดยใช้ระยะเวลาในการสกัด 4-6 ชั่วโมง และสารสกัดต่างๆ ที่ออกมามีคุณภาพสูง รวมถึงยังสามารถนำมาใช้กลุ่มผลิตภัณฑ์บำรุงผิวพรรณประเภทคอสเมติกได้เลยทันที
นอกจากนี้ บริษัทฯ ได้เซ็นสัญญาร่วมมือกับ บริษัท เศวตวรวรรณอินเตอร์เนชั่นแนลเทรดแอนด์คอนเซาท์แทน จำกัด เพื่อนําเทคโนโลยีการสกัดแบบ Supercritical CO2 ด้วยเครื่อง KWM EXTRACTOR 2.0 โดยทางเศวตวรวรรณฯ จะนำเครื่องสกัดดังกล่าวไปใช้ในพื้นที่ที่ได้รับอนุญาตการสกัด ภายใต้ความร่วมมือกับคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร ซึ่งจะมีการส่งมอบเครื่องสกัดภายในไตรมาส 4 นี้เช่นเดียวกัน และในอนาคตจะมีสัญญาเครื่องสกัดเพิ่มเติม ภายในโครงการปลูกระดับ commercial scale ซึ่งความร่วมมือนี้เป็นการยกระดับคุณภาพสารสกัดกัญชง-กัญชาในประเทศไทยให้ทัดเทียมสากล และสามารถต่อยอดสู่สารสกัดสมุนไพรไทยตัวอื่นๆในอนาคต
“ภายในไตรมาส 4/2564 นี้ บริษัทฯ เตรียมส่งมอบเครื่องสกัดให้กับกลุ่มลูกค้าที่เป็นพันธมิตรทางธุรกิจ 10 เครื่องตามแผนที่วางไว้ พร้อมทั้งอยู่ระหว่างการเจรจากับกลุ่มลูกค้ารายใหม่อีกว่า 10 ราย โดยเบื้องต้นคาดว่าจะได้ข้อสรุปในเร็วๆ นี้”
นอกจากนี้ ยังได้กล่าวถึงธุรกิจที่ KWM ได้ขยายการลงทุน โดยการแตกไลน์เพื่อการต่อยอดธุรกิจเรื่องสกัดสอดรับจากการผลิตเครื่องสกัดว่า สำหรับบริษัท เคดับบลิวเอ็ม แคนนาบิเทค จำกัด โดยบริษัทฯ ถือหุ้น 100% มุ่งเน้นให้บริการในการรับสกัดกัญชง และกัญชา (Cannabis) บริษัท แล็บแอคทีฟ จำกัด KWM ถือหุ้น 51% ดำเนินธุรกิจสกัดและผลิตเครื่องสำอางและสกินแคร์และ บริษัท เคดับบลิวเอชบี จำกัด KWM ถือหุ้น 51% เน้นดำเนินธุรกิจสกัดสารสำคัญจากพืชสมุนไพร รวมถึงการผลิตและจัดจำหน่ายสินค้าจากพืชสมุนไพรไทย ปัจจุบันได้ดำเนินการการจัดตั้งบริษัทเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และคาดว่าเริ่มเข้าสู่กระบวนการการผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากพืชสมุนไพรได้ตามแผนที่วางไว้
อย่างไรก็ตาม จากแผนกลยุทธ์ในการแตกไลน์ธุรกิจภายใต้การดึงคู่ค้าร่วมเป็นพันธมิตรถือว่าเป็นการสร้าง Strategic Partner ร่วมกัน โดยนำจุดแข็งของแต่ละบริษัทมาต่อยอดในการสร้างมูลค่าเพิ่มทางธุรกิจ ซึ่งถือเป็นการตอกย้ำโดยการนำนวัตกรรมอุตสาหกรรมเกษตรจากดินสู่สารสกัด ภายใต้ความมุ่งมั่นในการพัฒนาธุรกิจตั้งแต่ธุรกิจต้นน้ำสู่ปลายน้ำ ซึ่งจะส่งผลให้ภาพรวมผลการดำเนินงานของ KWM เติบโตอย่างก้าวกระโดดในอนาคต