เพย์พาลเปิดตัวซูเปอร์แอปเวอร์ชันแรกที่นำเสนอเครื่องมือทางการเงินที่หลากหลาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริการครบวงจรสำหรับการชำระเงินด้วยคริปโต ขานรับคำประกาศของซีอีโอบริษัทตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมาว่า ถึงเวลาแล้วที่สกุลเงินดิจิตอลจะได้รับการยอมรับในกระแสหลัก
ตามที่คอยน์เทเลกราฟรายงานก่อนหน้านี้ แดน ชูลแมน ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหาร (ซีอีโอ) เพย์พาล ประกาศไว้เมื่อเดือนกรกฎาคมว่า ซูเปอร์แอปของบริษัทพร้อมเปิดตัวในอเมริกาแล้ว
และจากการแถลงข่าวเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (21) แอปใหม่ของเพย์พาลจะเปิดโอกาสให้ผู้ใช้เข้าถึงผลิตภัณฑ์การเงินระบบดิจิตอลทั้งหมดของบริษัท โดยมาพร้อมฟีเจอร์มากมาย อาทิ การโอนเงินเข้าบัญชีในแอปโดยตรง การจ่ายบิลล์ ดิจิตอลวอลเล็ต การชำระเงินจากบุคคลหนึ่งไปยังอีกบุคคล (P2P) การช้อปปิ้ง และอีกมากมาย
แอปใหม่รองรับการใช้งานทั้งในส่วนคริปโตและอื่นๆ ด้วยแท็ปวอลเล็ตสำหรับการจัดการการชำระเงินด้วยคริปโต การซื้อ ถือครอง และขายบิตคอยน์ อีเธอเรียม บิตคอยน์แคช และไลต์คอยน์
เพย์พาลยังประกาศการร่วมเป็นพันธมิตรกับซิงโครนีแบงก์ ซึ่งเป็นธนาคารออนไลน์ เพื่อนำเสนอบัญชีเงินฝากที่ให้ผลตอบแทนสูงถึง 0.40% ไม่มียอดคงเหลือขั้นต่ำหรือค่าธรรมเนียมรายเดือน
ลูกค้ายังสามารถโอนกำไรจากบัญชีเงินฝากนี้เข้าสู่บัญชีเพย์พาลเพื่อใช้ช้อปออนไลน์ผ่านแท็ปช้อปปิ้งบนแอปที่จะมีคูปองและโปรแกรมสะสมคะแนนให้เลือกใช้
ฟีเจอร์อื่นๆ รวมถึงการจ่ายบิลล์ที่ผู้ใช้สามารถตั้งโปรแกรมจ่ายเงินอัตโนมัติและหักจากเงินในวอลเล็ตของเพย์พาล เครดิตเงินคืน และส่วนลด ตลอดจนถึงการโอนเงินเข้าบัญชีเงินฝากในเพย์พาลโดยตรงซึ่งลูกค้าจะได้รับเงินเร็วขึ้นสองวัน
การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ทำให้เพย์พาลแปรสภาพจากผู้ให้บริการชำระเงินรายใหญ่เป็นผู้ให้บริการแอปการเงินเต็มรูปแบบมากขึ้น แม้บริษัทประกาศชัดเจนว่า ไม่ต้องการเป็น “แบงก์” แต่ดูเหมือนซูเปอร์แอปใหม่นี้กำลังทำให้เพย์พาลกลายเป็น “นีโอแบงก์” หรือธนาคารยุคใหม่ที่ใช้เทคโนโลยีล้ำสมัยท้าทายธนาคารแบบดั้งเดิม
เพย์พาลยังมีแผนเพิ่มฟีเจอร์ต่างๆ ในซูเปอร์แอปเร็วๆ นี้ ซึ่งรวมถึงการชำระเงินด้วยคิวอาร์โค้ดแบบออฟไลน์ และการลงทุน โดยเมื่อเดือนที่แล้ว คอยน์เทเลกราฟรายงานว่า บริษัทแห่งนี้กำลังพิจารณาให้บริการเทรดหุ้นสำหรับลูกค้ารายย่อย
การเปิดตัวซูเปอร์แอปใหม่นี้เกิดขึ้นไม่นานหลังจากเพย์พาลเริ่มให้บริการเทรดคริปโตแก่ผู้ใช้ในสหราชอาณาจักร
ชูลแมนยังเคยกล่าวไว้ตั้งแต่ปลายปี 2020 ว่า ถึงเวลาแล้วที่คริปโตจะได้รับการยอมรับในกระแสหลัก